การขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ
กรณีบำนาญชราภาพ
- จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า180 เดือน ไม่ว่าระยะเวลา 180 เดือนจะติดต่อกันหรือไม่ก็ตาม
- มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
- ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
ประโยชน์ทดแทนกรณีบำนาญชราภาพ
- กรณีจ่ายเงินสมทบมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 180 เดือนขึ้นไป มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพเป็นรายเดือนใน อัตราร้อยละ 20 ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบก่อนความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
- กรณีที่มีการจ่ายเงินสมทบเกิน 180 เดือน ให้ปรับเพิ่มอัตราบำนาญชราภาพตามข้อ 1 ขึ้นอีกในอัตราร้อยละ 1.5 % ต่อระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบทุก 12 เดือน สำหรับระยะเวลาที่จ่ายเงินสมทบเกินกว่า 180 เดือน
- กรณีผู้รับเงินบำนาญชราภาพถึงแก่ความตายภายใน 60 เดือน นับแต่เดือนที่มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพจำนวน 10 เท่าของเงินบำนาญชราภาพรายเดือนที่ได้รับคราวสุดท้ายก่อนถึงแก่ความตาย
เอกสารและหลักฐาน
- แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ (สปส. 2-01 )
- บัตรประจำตัวประชาชน
- ทะเบียนบ้านของผู้ประกันตนและของทายาทผู้มีสิทธิ (กรณีผู้รับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพถึงแก่ความตาย)
- ใบมรณบัตรพร้อมสำเนา (กรณีผู้รับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพถึงแก่ความตาย)
- กรณีรับเงินทางธนาคารให้แนบสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารหน้าแรก ซึ่งมีชื่อและเลขที่บัญชี ผ่านทางบัญชีธนาคารของผู้ประกันตน 10 ธนาคาร ได้แก่
- ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน)
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
- ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารออมสิน
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
- กรณีรับเงินทางระบบพร้อมเพย์
- ผู้ประกันตนที่ขอรับเงินกรณีชราภาพ ผ่านพร้อมเพย์ต้องลงทะเบียนพร้อมเพย์กับธนาคารที่เปิดบัญชีเงินฝากไว้ด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชน
ขั้นตอนการขอรับประโยชน์ทดแทน
- ผู้ประกันตน หรือ ทายาทผู้มีสิทธิ ต้องกรอก แบบ สปส. 2-01 พร้อมลงลายมือชื่อ และนำมายื่นที่ สำนักงานประกันสังคมจังหวัด / สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ (ยกเว้น สำนักงานใหญ่ในบริเวณกระทรวงสาธารณสุข) หรือยื่นขอรับทางไปรษณีย์โดยมีหลักฐานครบถ้วน
- เจ้าหน้าที่ตรวจหลักฐานและพิจารณา
- สำนักงานประกันสังคมมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณา
- พิจารณาสั่งจ่าย
- เงินสด / เช็ค (ผู้ประกันตน หรือ ผู้มีสิทธิมารับด้วยตนเองหรือมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมารับแทน)
- ส่งธนาณัติให้ผู้ประกันตน
- โอนเข้าบัญชีธนาคารตามบัญชีของผู้ขอรับประโยชน์ทดแทน
สถานที่ยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทน
- ยื่นเรื่องได้ที่ สำนักงานประกันสังคมทุกเขตพื้นที่ทั่วประเทศ (ติดต่อสำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ /ติดต่อสำนักงานประกันสังคมจังหวัด) (ยกเว้น สำนักงานใหญ่ในบริเวณกระทรวงสาธารณสุข)
- สามารถยื่นขอรับประโยชน์ทดแทนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Self Service) ที่ www.sso.go.th และเลือกเมนู เข้าสู่ระบบผู้ประกันตน/สมัครสมาชิก
กรณีเงินบำเหน็จชราภาพ
- จ่ายเงินสมทบไม่ครบ 180 เดือน
- ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
- มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ หรือเป็นผู้ทุพพลภาพ หรือถึงแก่ความตาย
ประโยชน์ทดแทนกรณีบำเหน็จชราภาพ
- ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบต่ำกว่า 12 เดือน ได้รับเงินเท่ากับจำนวนเงินสมทบที่จ่ายในกรณีชราภาพ เฉพาะส่วนของผู้ประกันตนเพียงฝ่ายเดียว
- ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป แต่ไม่ถึง 180 เดือน จะได้รับเงินเท่ากับจำนวนเงินสมทบที่ผู้ประกันตนและนายจ้างจ่ายเงินสมทบ เพื่อการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ พร้อมผลประโยชน์ตอบแทน ตามที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด
เอกสารและหลักฐาน
- แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน กองทุนประกันสังคม (สปส. 2-01)
- กรณีผู้ประกันตนเสียชีวิต สำเนามรณบัตร บัตรประจำตัวประชาชน และทะเบียนบ้านของผู้ตาย/ผู้มีสิทธิ รับเงินบำเหน็จชราภาพ
- สำเนาทะเบียนสมรสของผู้ประกันตนและของบิดามารดา (ถ้ามี)
- สำเนาสูติบัตรของบุตร หรือทะเบียนบ้านของบุตรกรณีไม่มีสูติบัตร (สำเนา 1 ชุด)
- ใบสำคัญการเปลี่ยนชื่อ (สำเนา 1 ชุด)(เอกสารประกอบการยื่นคำขอฯ ที่เป็นสำเนาให้รับรองความถูกต้องของสำเนาทุกฉบับ และแสดงเอกสารที่เป็นต้นฉบับเมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบ )
- การจ่ายเงินกรณีบำเหน็จชราภาพ กรณีผู้มีสิทธิมารับเงินด้วยตนเองต้องนำบัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง) ไปแสดง
- กรณีมอบอำนาจต้องทำเป็นหนังสือและนำบัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง) ของผู้มอบ และผู้รับมอบไปแสดง (ฉบับจริง 1 ชุด)
- กรณีขอรับเงินทางธนาคารให้แนบสำเนาสมุดบัญชี เงินฝากธนาคารหน้าแรก ซึ่งมีชื่อและเลขที่บัญชี ผ่านทางบัญชีธนาคารของผู้ประกันตน 10 ธนาคาร ดังนี้
– ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน)
– ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
– ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
– ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
– ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
– ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน)
– ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
– ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)
– ธนาคารออมสิน
– ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) - ผู้ประกันตนที่ขอรับเงินกรณีชราภาพ ผ่านพร้อมเพย์ต้องลงทะเบียนพร้อมเพย์กับธนาคารที่เปิดบัญชีเงินฝากไว้ด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชน
ขั้นตอนการขอรับประโยชน์ทดแทน
- ผู้ประกันตน หรือ ทายาทผู้มีสิทธิ ต้องกรอก แบบ สปส. 2-01 พร้อมลงลายมือชื่อ และนำมายื่นที่ สำนักงานประกันสังคมจังหวัด / สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ หรือยื่นขอรับทางไปรษณีย์โดยมีหลักฐานครบถ้วน
- เจ้าหน้าที่ตรวจหลักฐานและพิจารณา
- สำนักงานประกันสังคมมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณา
- พิจารณาสั่งจ่าย
- เงินสด / เช็ค (ผู้ประกันตน หรือ ผู้มีสิทธิมารับด้วยตนเองหรือมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมารับแทน)
- ส่งธนาณัติให้ผู้ประกันตน
- โอนเข้าบัญชีธนาคารตามบัญชีของผู้ขอรับประโยชน์ทดแทน
สถานที่ยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทน
- ยื่นเรื่องได้ที่ สำนักงานประกันสังคมทุกเขตพื้นที่ทั่วประเทศ (ติดต่อสำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ /ติดต่อสำนักงานประกันสังคมจังหวัด) (ยกเว้น สำนักงานใหญ่ในบริเวณกระทรวงสาธารณสุข)
- สามารถยื่นขอรับประโยชน์ทดแทนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Self Service) ที่ www.sso.go.th และเลือกเมนู เข้าสู่ระบบผู้ประกันตน/สมัครสมาชิก
หน่วยงานที่รับผิดชอบ สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน
Post Views: 12,824