พม.สั่งเข้มงวดรักษาความสะอาด ป้องกันไวรัสโควิด-19 ให้เด็ก เยาวชน และผู้สูงอายุ
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สั่งเข้มงวดเพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 ให้เด็ก เยาวชน และผู้สูงอายุในสถานสงเคราะห์ฯ โดยให้มีมาตรการคุมเข้มการดูแลรักษาความสะอาด ทั้งการล้างมือ การใช้เจลแอลกอฮอล์ การทำความสะอาดวัสดุอุปกรณ์ และอาคารสถานที่ การใส่หน้ากากอนามัย การตรวจวัดไข้ เป็นต้น
นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจราชการในภาคตะวันออกที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เนื่องจากเป็นพื้นที่เศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวและบริการ ว่า ตนได้รับฟังรายงานผลการดำเนินงานและปัญหาอุปสรรคต่างๆ ของสถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กระยอง จังหวัดระยอง และสถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านบางละมุง จังหวัดชลบุรี และได้สั่งการในเรื่องการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 สำหรับเด็กและเยาวชน รวมทั้งผู้สูงอายุในสถานสงเคราะห์ต่างๆ โดยขอให้มีมาตรการคุมเข้มการดูแลรักษาความสะอาด ทั้งการล้างมือ การใช้เจลแอลกอฮอล์ การทำความสะอาดวัสดุอุปกรณ์ และอาคารสถานที่ การใส่หน้ากากอนามัย การตรวจวัดไข้ เป็นต้น สำหรับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. ในช่วงวิกฤตที่มีการแพร่เชื้ออย่างรุนแรงของไวรัสโควิด-19 ตนได้เตรียมแผนให้เจ้าหน้าที่ผลัดเวรกันทำงานอยู่ที่บ้าน เพื่อให้งานดำเนินต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ตนได้สั่งการให้สถานสงเคราะห์ที่มีผู้สูงอายุป่วยติดเตียง เร่งตรวจสอบยอดผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่มีอยู่ ซึ่งใช้วันละ 3 ผืนต่อคนต่อวัน หากมีไม่เพียงพอ ขอให้ประชาสัมพันธ์รับบริจาคจากประชาชน
นายจุติ กล่าวต่ออีกว่า ตนได้เยี่ยมชมการทำหน้ากากผ้าอนามัยในสถานสงเคราะห์ฯ มีผู้รับบริการและประชาชนจิตอาสาทุกวัยในพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กชายที่มาทำหน้ากากผ้าในวันนี้เป็นวันแรก และสามารถทำได้อย่างคล่องแคล่ว ซึ่งคาดว่าจะทำได้วันละประมาณ 400 ชิ้น โดยส่วนหนึ่งจะแบ่งไว้ให้ผู้รับบริการและเจ้าหน้าที่ในสถานสงเคราะห์ฯ แล้วส่วนที่เหลือจะนำแจกจ่ายประชาชนที่ต้องการต่อไป
นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ตนได้สั่งการให้พัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชนในสถานสงเคราะห์ฯ โดยมุ่งเน้นในด้านกีฬา การฝึกฝนทักษะ วันละ 4-5 ชม. ให้มีระเบียบวินัยในชีวิต และใช้ผู้ฝึกสอนที่มีความเชี่ยวชาญ ต่อยอดทักษะความสามารถเพื่อเป็นแชมป์ระดับโลกภายใน 10 ปี สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ โดยแบ่งกลุ่มตามทักษะความถนัดของเด็กและเยาวชน รวมทั้งเสริมสร้างทักษะด้านภาษา คอมพิวเตอร์ และกิริยามารยาทความเป็นไทยควบคู่กันไป
ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/27353