นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แถลงข่าวการดำเนินมาตรการภาคการขนส่งผู้โดยสารในสถานการณ์ฉุกเฉินของกระทรวงคมนาคม สู้ภัย COVID-19
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานแถลงข่าวการดำเนินมาตรการภาคการขนส่งผู้โดยสารในสถานการณ์ฉุกเฉินของกระทรวงคมนาคม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในวันที่ 27 มีนาคม 2563 โดยมี นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคมและโฆษก กระทรวงคมนาคม ผู้บริหารกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานในสังกัดเข้าร่วมการแถลงข่าว ณ ห้องราชดำเนิน กระทรวงคมนาคม
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ กล่าวว่า ตามที่ได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นไปอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ กระทรวงคมนาคมได้ดำเนินมาตรการภาคการขนส่งผู้โดยสารในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยมีมาตรการ “คัดกรอง COVID-19” แบ่งเป็น 7 ขั้นตอน ดังนี้
- คัดกรองประชาชน ผู้ปฏิบัติงาน ผู้โดยสาร ก่อนเข้าอาคารที่พักผู้โดยสาร
- คัดกรองผู้โดยสารก่อนเข้าไปในยานพาหนะ
- คัดกรองผู้โดยสาร ผู้ปฏิบัติงาน ก่อนออกจากอาคารที่พักผู้โดยสาร
- เมื่อพบผู้มีอาการป่วย ดำเนินการตามระเบียบที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
- เว้นระยะห่างในจุดจำหน่ายตั๋ว จัดที่นั่งบนยานพาหนะ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
- แนะนำผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัย และแว่นตาตลอดการเดินทาง
- ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานผลให้กระทรวงคมนาคมทราบทุกวัน
สำหรับแผนปฏิบัติการการจัดการด้านระบบขนส่งภายใต้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) ของกระทรวงคมนาคม มีแนวทางการปฏิบัติ ดังนี้
1. การเดินทางด้วยระบบขนส่งทางอากาศ
– กำหนดจุดรอรับการตรวจร่างกาย และจัดทำเครื่องหมายแสดงตำแหน่งการยืนเข้าแถว บริเวณหน้าจุดตรวจค้นผู้โดยสารเปลี่ยนลำระหว่างประเทศไปภายในประเทศ (International to Domestic) และช่องทางเข้าออกเจ้าหน้าที่ (Staff) โดยให้มีระยะห่างเพียงพอ ในระยะ 1 – 2 เมตร เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
2. การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะทางบก
– ให้มีมาตรการ Social Distance โดยให้ผู้โดยสารเว้นระยะนั่ง หรือยืนห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร (Social Distancing) เพื่อป้องกันการติดต่อสัมผัส หรือแพร่เชื้อโรคทางฝอยละอองน้ำลาย
– จัดที่นั่งพักคอยให้มีระยะห่าง 1 เมตร 1 ที่ เว้น 1 ที่
3. การเดินทางด้วยระบบขนส่งทางราง
– ให้มีมาตรการ Social Distance โดยจัดระยะห่างการยืน 1 – 2 เมตร ในจุดที่ผู้โดยสารต้องยืนต่อคิวรอใช้บริการต่างๆ ได้แก่ การจำหน่ายตั๋วหน้าเคาน์เตอร์ และบริเวณหน้าเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ และบนชานชาลา
– รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ได้เพิ่มขบวนรถเสริมให้บริการช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า เพื่อลดความแออัด
– ขอความร่วมมือผู้โดยสารทุกท่าน ยืนในระยะห่างที่เหมาะสม ขณะใช้ลิฟต์โดยสาร
4. การเดินทางด้วยระบบขนส่งทางน้ำ
– ประกาศกรมเจ้าท่าที่ 56/2563 เรื่อง การอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและมิให้ประชาชนต้องเสียประโยชน์หรือละเมิดกฎหมายตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรประกาศ ณ วันที่ 26 มีนาคม 2563 ให้ขยายเวลาหรืออายุของใบสำคัญรับรอง ใบอนุญาต ประกาศนียบัตร สัญญา และหนังสือสำคัญ จากวันที่หมดอายุหรือสิ้นอายุออกไปจนกว่าจะมีประกาศยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองเรือที่ได้รับการขยายเวลาหรืออายุของใบสำคัญรับรอง และใบอนุญาตรักษาเรือให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัยและเหมาะสมสำหรับการใช้ตลอดเวลา
– การต่อคิวขึ้น – ลง เรือ เว้นระยะห่าง 2 เมตร และให้เจ้าหน้าที่เร่งระบายผู้โดยสารให้ขึ้น – ลงเรือ เพื่อไม่ให้มีการเกาะกลุ่มหรือร่างกายเบียดเสียดกันโดยไม่จำเป็น
– ประชาชนที่มาติดต่อราชการให้นั่งเว้นระยะห่าง 1 – 2 เมตร
นอกจากนี้ได้สั่งการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมจัดให้มีจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ เพื่อให้บริการแก่ผู้โดยสารรวมถึงพนักงานในพื้นที่ส่วนกลาง และบริเวณที่มีการใช้งานร่วมกัน เช่น บริเวณทางเข้า – ออกสถานี ห้องออกบัตรโดยสาร อีกด้วย
สำหรับการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด กระทรวงคมนาคมมีแนวทางการปฏิบัติดังนี้
- กรณีการเดินทางด้วยรถโดยสารในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ได้แก่ จังหวัดนนทบุรี และจังหวัดสมุทรปราการ ให้หน่วยงานที่ให้บริการระบบขนส่งทางรางจัดให้มีการตรวจคัดกรอง และปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด โดยพิจารณาอนุญาตเฉพาะบุคคลจากข้อกำหนดข้อ 8 ตาม พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1)
- กรณีการเดินทางด้วยรถโดยสารข้ามเขตพื้นที่จังหวัด ให้ผู้ให้บริการจัดเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการตรวจคัดกรองผู้โดยสาร โดยจะต้องมีเอกสารหรือหลักฐานทางราชการหรือหน่วยงานว่าเป็นบุคคลที่ได้รับการยกเว้นในข้อ 8 ตาม พระราชกำหนดฯ และให้บันทึกข้อมูลผู้โดยสารโดยระบุชื่อ ที่อยู่ ที่พักปัจจุบันหรือภูมิลำเนา และระบุวัตถุประสงค์ในการเดินทางตามเอกสาร ต.8 ด้วย เพื่อประกอบการซื้อ/จำหน่วย ตั๋วโดยสาร
ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/28056
