ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชี้แจงกรณีมีผู้โดยสารสัญชาติไนจีเรียติดค้างในท่าอากาศยาน
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชี้แจงกรณีมีผู้โดยสารสัญชาติไนจีเรียติดค้างในท่าอากาศยาน ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เนื่องจากเที่ยวบินปลายทางถูกยกเลิกจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19
กระทรวงคมนาคม ชี้แจงกรณีพบผู้โดยสารสัญชาติไนจีเรีย จำนวน 3 คน ติดค้างใน ทสภ. เนื่องจากเที่ยวบินปลายทางถูกยกเลิกจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 นั้น
ทสภ. ขอชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้
ผู้โดยสารสัญชาติไนจีเรีย 2 คนเดินทางมาถึง ทสภ. เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2563 โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK372 มีกำหนดต่อเครื่องของสายการบิน Lao Airlines เพื่อเดินทางไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และอีก 1 คน เดินทางมาถึง ทสภ. เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2563 โดยสายการบิน Etihad Airways เที่ยวบินที่ EY402 มีกำหนดต่อเครื่องสายการบิน Bangkok Airways เพื่อเดินทางไปยังสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งในวันที่ผู้โดยสารทั้ง 3 คน จะเดินทางต่อเครื่องนั้น ประเทศปลายทางประกาศปิดประเทศส่งผลให้เที่ยวบินถูกยกเลิก ทำให้ไม่สามารถเดินทางไปยังประเทศปลายทางได้ และไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไนจีเรียได้เนื่องจากเที่ยวบินของสายการบิน Emirates และสายการบิน Etihad Airways ถูกยกเลิกเนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าวเช่นกัน และเนื่องจากผู้โดยสารไม่ได้ขอวีซ่าเข้าประเทศไทย ทางกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง (บก.ตม.2) จึงไม่สามารถอนุญาตให้เข้าราชอาณาจักรไทยเพื่อพำนักรอได้ ทำให้ผู้โดยสารต้องพักรอในพื้นที่สำหรับผู้โดยสารขาออกของ ทสภ. เท่านั้น
อย่างไรก็ตามเพื่อดำเนินการช่วยเหลือผู้โดยสารที่ตกค้าง ฝ่ายพิธีการ บก.ตม.2 ได้ประสานสถานทูตไนจีเรียเพื่อให้การช่วยเหลือ และแจ้งให้สายการบินที่นำผู้โดยสารเข้ามารับผิดชอบดูแลอำนวยความสะดวกด้านต่าง ๆ ในช่วงระยะเวลาที่ผู้โดยสารรอให้มีเที่ยวบินเดินทางกลับประเทศ ซึ่งจากการสอบถามผู้โดยสารทั้ง 3 คน ยืนยันความต้องการเดินทางไปจุดหมายปลายทางเดิมและไม่เดินทางไปประเทศอื่น ซึ่งขณะนี้ประเทศปลายทางทั้ง 2 ประเทศยังคงประกาศปิดประเทศ สายการบิน Emirates จึงประสานให้ความช่วยเหลือผู้โดยสารเพื่อเดินทางกลับประเทศไนจีเรีย โดยต่อเครื่องที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แต่เนื่องจากขณะนี้ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยังไม่รับผู้โดยสารต่อเครื่องทำให้ไม่สามารถเดินทางได้ จึงอยู่ระหว่างรอจนกว่าทางประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เปิดประเทศในวันที่ 4 มิถุนายน 2563 ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ทสภ. ได้ให้ความช่วยเหลือ เช่น การมอบอาหาร น้ำดื่ม และดูแลความเป็นอยู่ในเบื้องต้น รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่สายการบินให้ความช่วยเหลือเป็นระยะ นอกจากนี้ผู้โดยสารได้รับการดูแลด้านสุขภาพจากด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศในการตรวจหาเชื้อไวรัส COVID-19 แล้วไม่พบเชื้อ
ทสภ. ตระหนักถึงการให้บริการด้วยใจ และการดูแลสุขภาพและอนามัยของผู้โดยสาร โดยบูรณาการทำงานร่วมกับ บก.ตม.2 ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ เจ้าหน้าที่สายการบินที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งผู้โดยสารไปยังประเทศปลายทางหรือกลับประเทศไนจีเรียให้เร็วที่สุดเมื่อสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลายลง
ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/31101