พระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐

พระบรมราโชวาท


ความรู้ และคุณธรรม เป็นรากฐานสำคัญของความดีความเจริญทุกอย่าง เด็กทุกคนจึงต้องหมั่นศึกษาอบรมให้ถึงพร้อมด้วยความรู้และคุณธรรม เพื่อจะได้เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ ผู้สามารถสร้างสรรค์ความดีดวามเจริญให้แก่ตนและแก่ส่วนรวม

– – – – –

พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
วันที่ ๑๘ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒

งานราชการนั้น ต้องอาศัยความรู้ ๓ ส่วนในการปฏิบัติ คือความรู้ในหลักวิชาที่ถูกต้อง แม่นยำ ลึกซึ้ง กว้างขวาง ความรู้ในการปฏิบัติบริหารงานตามการะหน้าที่ และความรู้คิดวินิจฉัยที่ถูกต้องด้วยเหตุผล หลักวิชา และหลักธรรม ข้าราชการทุกคนจึงต้อสร้างสมอบรมความรู้ทั้งสามส่วนนี้ ให้สมบูรณ์พร้อมอย่าให้บกพร่องในส่วนใดเป็นอันชาด จะได้สามารถปฏิบัติงาน ให้บรรลุผลเป็นประโยชน์ที่แท้ทั้งแก่ประเทศชาติและประชาชน

– – – – –

พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
วันที่ ๕ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓

พระราชดำรัส

ข้าพเจ้าและพระราชินี มีความชื่นชมยิ่งนัก ที่ได้อยู่ในท่ามกลามเหล่าทหารและตำรวจในพิธีสวนสนามถวายสัตย์ปฏิญาณครั้งนี้ ขอขอบใจในคำอำนวยพรและไมตริจิตของทุกๆ คน และขอสนองพรกับทั้งน้ำใจไมตรีนั้นด้วยใจจริงเช่นกัน ประทศชาติจะเป็นปึกแผ่นมั่นคงได้ ก็ด้วยคนไทยทุกหมู่เหล่า พร้อมเพรียงกันปฏิบัติหน้าที่ของตน โดยมีอุดมคติและจุดมุ่งหมายอย่างเดียวกัน คือ ประโยชน์ของทุกคนในชาติ ข้าพเจ้าจึงยินดีมากที่ได้เห็นความพร้อมเพรียงของทหารและตำรวจในวันนี้ ทั้งได้ฟังคำปฏิญาณแสดงความจงรักภักดีและเจตนาอันแน่วแน่ที่จะปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติและประชาชน ขอให้นายทหาร นายตำรวงทุกคน รักษาคำปฏิญาณที่ได้ไว้อย่างเคร่งครัด และตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเที่ยงตรง เข้มแข็ง และเสียสละ พร้อมทั้งหมั่นศึษาและฝึกฝนตนเองให้มีความจัดเจนคล่องแคล่วในหน้าที่ และในการฏิบัติงานร่วมกับผู้อื่น ฝ่ายอื่นอยู่เสมอ ทุกคน ทุกฝ่าย จะได้สามารถร่วมมือร่วมใจกันสร้างสรรค์ความวัฒนาผาสุกให้แก่ประชาชนและประเทศชาติได้ตามอุดมคติที่ตั้งมั่นไว้ตลอดไป ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พร้อมทั้งอำนาจแห่งความภักดีโดยบริสุทธิ์ใจต่อบ้านเมือง จงบันดาลให้ท่านทั้งหลายประสบแต่ความสุข ความเจริญ และความสามัคคี สวัสดีมีชัยโดยทั่วกัน”

– – – – –

ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร จ.สระบุรี
วันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๓

มีอะไรที่จะมีส่วนช่วยเหลือ ที่จะแก้ปัญหา ก็ยินดี เพราะว่าก็เป็นปัญหาของชาติ ซึ่งเรื่องโรคระบาดนี้ ก็ไมใช่ความผิดของใคร แล้วก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้น ก็คือเรามีหน้าที่ที่จะดูแลแก้ไขให้ดีที่สุด อย่างที่เคยพูดไว้ว่า ถ้าเผื่อมีความเข้าใจในปัญหา มีความเข้าใจ ไม่ใช่หมายความว่ายอมรับตามบุญตามกรรม แต่มีความเข้าใจในสถานการณ์ มีการเข้าใจในปัญหา และก็มีความรู้ เกี่ยวกับโรค ก็คือความเข้าใจในปัญหานั่นเอง อันแรกก็เป็นอย่างนี้ อันที่ ๒ ก็คือจากข้อที่ ๑ ก็คือ การมีการบริหารจัดการ มีแผนเผชิญเหตุ มีระบบในการปฏิบัติ แก้ไขให้ถูกจุด รู้ปัญหา แก้ไขให้ถูกจุด โดยมีการบริหารจัดการ แล้วก็ในเวลาเดียวกัน ก็ต้องให้ประชาชนได้เข้าใจถึงวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องและเหตุผลที่จะต้องปฏิบัติ เพราะว่าการมีระบบ หรือแผน และการปฏิบัติตามแผนที่ได้วางไว้ ตามความเป็นจริง ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง แก้ถูกจุด ก็จะลดปัญหาลงไป และจะแก้ได้ในที่สุด ฉะนั้นก็เชื่อ เชื่อแน่ว่าจะต้องแก้ไขและก็เอาชนะอันนี้ได้ เพราะว่าประเทศของเรานี่ก็นับว่าทำได้ดี ประเทศของเรานี่น่าภูมิใจว่าทำได้ดี และก็ทุกคนก็ร่วมใจกัน แล้วก็ดีกว่าที่อื่นอีกหลายที่ แต่บางที่ก็ต้องเน้นเรื่องการทำงานมีระบบ ด้วยความเข้าใจ และการมีระเบียบวินัยในการแก้ไขปัญหา โดยมีเป้าหมายว่าเราจะต้องต่อสู้ให้โรคนี้สงบลงไปได้ในที่สุด เพราะว่าโรคมาได้ โรคก็ไปได้แต่โรคจะไม่ไป ถ้าเราไม่แก้ไขปัญหา เราไม่แก้ไขให้ถูกจุด หรือเราไม่มีความขันติอดทนที่จะแก้ไขบางทีก็ต้องเสียสละในความสุขส่วนตัวบ้าง หรือเสียสละในการสร้าง กล้าพอที่จะสร้างนิสัยหรือสร้างวินัยในตัวเอง ที่จะแก้ไขเพื่อตัวเอง เพื่อส่วนรวม อันนี้เราก็ขอเป็นกำลังใจให้

– – – – –

ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
วันจันทร์ที่ ๖ เมษายน ๒๕๖๓