โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสําปะหลัง ปี 2563/64

โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสําปะหลัง ปี 2563/64

  • ประกันรายได้ที่หัวมันสำปะหลังสด เชื้อแป้ง 25% ในพื้นที่เพาะปลูกทั่วประเทศ

ระยะเวลาดำเนินการ

  • ชดเชยส่วนต่างวันที่ 1 ธ.ค. 2563 – 1 พ.ย. 2564 ทุกวันที่ 1 ของเดือนเป็นเวลา 12 เดือน โดยงวดแรกจะครอบคลุมถึงเกษตรกรเพาะปลูกมันสำปะหลัง ปี 2536/64
  • สำหรับการประกาศราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงงวดสุดท้ายครอบคลุมเกษตรกรที่ระบุวันที่คาดว่าเก็บเกี่ยวตั้งแต่ 1 ต.ค. 2564 เป็นต้นไป

กลุ่มเป้าหมาย

  • เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเพาะปลูกมันสำปะหลังปี 2563/2564 กับกรมส่งเสริมการเกษตร โดยมีช่วงเวลาการเพาะปลูก ตั้งแต่ 1 เมษายน 2563 – 31 มีนาคม 2564
  • เป็นเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังด้วยตนเองและกรรมสิทธิ์เป็นของเกษตรกร
  • สามารถรับสิทธิ์ได้ในช่วงการเก็บเกี่ยวที่ระบุไว้ในทะเบียนเกษตรกร โดยแจ้งกับกรมส่งเสริมการเกษตรนับจากวันที่เพาะปลูกไว้ไม่น้อยกว่า8 เดือน

หลักเกณฑ์การจ่ายเงินประกันรายได้

  1. เกษตรกรที่มีสิทธิ์ได้รับเงินส่วนต่างดังกล่าว ต้องขึ้นทะเบียนผู้ปลูกมันสำปะหลังกับกรมส่งเสริมการเกษตร หลังจากปลูกมันสำปะหลังไปแล้ว 15 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2563 – 31 มี.ค.2564
  2. ต้องเป็นเกษตรกรผู้ผลิตมันสําปะหลังด้วยตนเองและกรรมสิทธิ์เป็นของเกษตรกร
  3. แจ้งระยะเวลาเก็บเกี่ยวกับกรมส่งเสริมการเกษตรนับจากวันที่เพาะปลูกไม่น้อยกว่า 8 เดือน
  4. การกําหนดเกณฑ์กลางอ้างอิง ระหว่างวันที่ 1 ธ.ค.2563-30 พ.ย.2564 ประกาศเกณฑ์กลางอ้างอิงทุกวันที่ 1 ของเดือน ระยะเวลา 12 เดือน สำหรับการจ่ายเงินส่วนต่างงวดแรก ครอบคลุมเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนและที่แจ้งเพาะปลูก ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2563 ระบุวันคาดว่าเก็บเกี่ยวก่อนวันที่ 1 ธ.ค.2563 และสําหรับการประกาศราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงงวดสุดท้าย ครอบคลุมเกษตรกรที่ระบุวันที่คาดว่าเก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2564

ราคาและปริมาณประกัน

  • ราคาเป้าหมาย ณ หัวมันสำปะหลังสดเชื้อแป้ง 25% กิโลกรัมละ 2.50 บาท
  • ครัวเรือนละไม่เกิน 100 ตัน และต้องไม่ซ้ำแปลง
  • ใช้ปริมาณผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี เท่ากับ 3,419 กิโลกรัมต่อไร่

การจ่ายเงิน

  • รัฐบาลจะจ่ายเงินส่วนต่างครั้งแรกในวันที่ 1 ธันวาคม 2563 สำหรับเกษตรกรที่เพาะปลูกตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 และระบุวันคาดว่าเก็บเกี่ยวก่อนวันที่ 1 ธันวาคม 2563 และจ่ายต่อไปทุกวันที่ 1 ของเดือน เป็นระยะเวลา 12 เดือน (ถึงเดือนพฤศจิกายน 2564)
  • ธ.ก.ส. โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง 
  • เกษตรกรสามารถตรวจสอบการโอนเงินได้ผ่านทาง
    – แอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile ตลอด 24 ชั่วโมง
    – ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ
    https://chongkho.inbaac.com/
  • กรณีที่เกษตรกรลูกค้าสมัครใช้บริการ BAAC Connect จะได้รับข้อความแจ้งเตือนผ่าน LINE Official BAAC Family เมื่อเงินเข้าบัญชีของท่านแล้ว

มาตรการคู่ขนาน 4 โครงการ

  1. โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกมันสำปะหลัง โดยธ.ก.ส. เป็นผู้ออกสินเชื่อเพื่อเป็นเงินทุนในการพัฒนาการผลิตของเกษตรกร วงเงินสินเชื่อรวม 1,150 ล้านบาท ให้เกษตรกรกู้รายละไม่เกิน 230,000 บาท จำนวน 5,000 ราย ชำระคืนไม่เกิน 5 ปี นับแต่วันกู้ ดอกเบี้ย 6.50% ต่อปี เกษตรกรผู้กู้จ่ายดอกเบี้ย 3.50% ต่อปี ส่วนที่เหลืออีก 3% ต่อปี รัฐชดเชยให้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 24 เดือน หรือเป็นวงเงิน 69 ล้านบาท
  2. โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมมันสำปะหลังและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร โดย ธ.ก.ส.จะเป็นผู้ออกสินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกรฯ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการรวบรวมหรือรับซื้อหัวมันสำปะหลังสด มันสำปะหลังเส้น วงเงินสินเชื่อรวม 1,500 ล้านบาท ดอกเบี้ยเงินกู้ 4% ต่อปี โดยสถาบันเกษตรกรจ่ายดอกเบี้ย 1% ต่อปี ส่วนที่เหลืออีก 3% ต่อปี รัฐเป็นผู้ชดเชยให้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 12 เดือน หรือคิดเป็นเงินชดเชยรวม 45 ล้านบาท
  3. โครงการชดเชยดอกเบี้ยในการเก็บสต๊อกมันสำปะหลัง เพื่อสนับสนุนสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการแปรรูปมันสำปะหลัง (ลานมัน/โรงแป้ง) ที่เข้าร่วมโครงการฯ เก็บสต๊อก เพื่อดูดซับผลผลิตในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก โดยตั้งเป้าหมายวงเงินสินเชื่อรวม 15,000 ล้านบาท รัฐชดเชยดอกเบี้ย 3% ต่อปี ตามระยะเวลาที่เก็บสต๊อกไว้ตั้งแต่ 60 – 180 วัน คิดเป็นวงเงินอัตราดอกเบี้ยที่รัฐชดเชยรวม 225 ล้านบาท โดยใช้เงินจาก คชก.
  4. มาตรการบริหารจัดการการนำเข้าและส่งออก โดยให้กรมการค้าต่างประเทศกำกับดูแลการส่งออกและนำเข้ามันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์อย่างจริงจัง ด้วยการตรวจสอบคุณภาพให้เป็นไปตามมาตรฐานและลงโทษผู้กระทำผิดตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด