การขออนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง

การขอรับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง

  • การขอรับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง ให้ปฏิบัติตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขการขอและการออกใบอนุญาตในการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง การครอบครองและการนำเคลื่อนที่เพื่อการค้าซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง และซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง และการค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ. 2551 ออกตามความในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ทั้งนี้ สัตว์ป่าคุ้มครอง บุคคลไม่สามารถกระทำการครอบครอง ล่า เพาะพันธุ์ ค้า นำเข้า ส่งออก ได้ เว้นแต่ ได้รับอนุญาตจากอธิบดีหรือผู้ได้รับมอบหมาย สำหรับในการนำสัตว์ป่าคุ้มครองมาเพาะพันธุ์ โดยปกติทั่วไปไม่สามารถกระทำได้ เว้นแต่ เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดที่เพาะพันธุ์ได้ ตามกฎกระทรวงกำหนดชนิดของสัตว์ป่าคุ้มครองให้เป็นสัตว์ป่าที่เพาะพันธุ์ได้ พ.ศ. 2546 และกฎกระทรวงกำหนดชนิดของสัตว์ป่าคุ้มครองให้เป็นสัตว์ป่าที่เพาะพันธุ์ได้ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2556 ซึ่งมี 61 ชนิดและต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดี ตามมาตรา 18(1) และสัตว์ป่าดังกล่าวต้องได้มาจากการเพาะพันธุ์
  • กรณีผู้ใดประสงค์จะเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง ให้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามแบบ สป.8 พร้อมด้วยหลักฐานตามที่ระบุไว้ในคำขอ และให้ยื่นโครงการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง และแสดงหลักฐานเกี่ยวกับสถานที่ที่จะใช้ทำการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าซึ่งโครงการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง ต้องระบุรายละเอียดเกี่ยวกับชนิดและจำนวนของสัตว์ป่า ประเภทของสัตว์ป่า จำนวนผู้ดูแลและเลี้ยงสัตว์ป่า เครื่องมือและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการ แผนที่ แผนผัง และรายการอาคารและสิ่งปลูกสร้างของสถานที่เพาะพันธุ์ รวมถึงวิธีการเพาะพันธุ์ ขั้นตอนการดำเนินการและระยะเวลาดำเนินการในแต่ละขั้นตอน
  • กรณีบุคคลที่ได้รับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง ไม่สามารถมารับใบอนุญาตได้ด้วยตนเอง จะต้องดำเนินการมอบอำนาจเป็นหหนังสือ ติดอากรแสตมป์ พร้อมแนบเอกสารที่เกี่ยวข้องให้เรียบร้อยตามแบบหนังสือมอบอำนาจ
  • กรณีผู้มีอำนาจลงนามพิจารณาออกใบอนุญาต มีการแจ้งผลการพิจารณาเป็นหนังสือให้แก่ผู้ได้รับใบอนุญาตทางไปรษณีย์ เพื่อที่จะให้ดำเนินการชำระค่าธรรมเนียมและรับใบอนุญาตดังกล่าวต่อไป
  1. บัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง)
  2. สำเนาทะเบียนบ้าน (ฉบับจริง)
  3. บัตรประจำตัวข้าราชการหรือพนักงานองค์การของรัฐ ( สำเนา 1 ฉบับ ) ของแต่ละหน่วยงานที่สังกัด พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
  4. หนังสือเดินทาง ( สำเนา 1 ฉบับ ) กรณีผู้ขออนุญาตเป็นชาวต่างชาติ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
  5. หนังสือรับรองนิติบุคคล ( ฉบับจริง 1 ฉบับ ) ออกให้ไม่เกิน 6 เดือน
  6. หนังสือบริคนห์สนธิ ( สำเนา 1 ฉบับ ) รับรองสำเนาถูกต้อง พร้อมประทับตราบริษัท
  7. คำขอรับใบอนุญาตให้เพาะพันธ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง (แบบ สป.8) ( ฉบับจริง 1 ชุด )
  8. โครงการเพาะพันธุ์สัตว์ป่า ( ฉบับจริง 1 ชุด ) ผู้ขออนุญาตเป็นผู้จัดทำ
  9. หลักฐานการได้มาซึ่งสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง เพื่อการเพาะพันธุ์ ( สำเนา 1 ชุด )
  10. สำเนาหลักฐานการมีสิทธิใช้สถานที่ที่จะดำเนินการเพาะพันธุ์สัตว์ป่า (เช่น โฉนดที่ดิน, น.ส.3ก, หนังสือสัญญาเช่า ฯลฯ ( สำเนา 1 ฉบับ )
  11. หนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่ ( ฉบับจริง 1 ฉบับ ) กรณีที่ดินไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของผู้ขออนุญาต
  12. แผนผังสังเขปของสถานที่ที่จะดำเนินการเพาะพันธุ์สัตว์ป่า ( ฉบับจริง 1 ชุด )
  13. แผนที่สถานที่เพาะพันธุ์ ( ฉบับจริง 1 ชุด )
  14. หนังสือมอบอำนาจ (ติดอากรแสตมป์) ( ฉบับจริง 1 ชุด ) กรณีให้ผู้อืนมากระทำการแทน

ค่าธรรมเนียม

  • ค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ฉบับละ 1,000 บาท
  • ระยะเวลาดำเนินการ 40 วันทำการ

การขอใบแทนใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง

  • การขอใบแทนใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง ให้ปฏิบัติตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขการขอและการออกใบอนุญาตในการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง การครอบครองและการนำเคลื่อนที่เพื่อการค้าซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง และซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง และการค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ. 2551 ออกตามความในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
    สำหรับผู้ที่ประสงค์จะขอใบแทนใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง ซึ่งชำรุด เสียหาย หรือสูญหาย ให้ยื่นคำขอใบแทนใบอนุญาตพร้อมด้วยหลักฐานตามที่ระบุไว้ในคำขอใบแทนใบอนุญาต
  • กรณีบุคคลที่ได้รับใบอนุญาตไม่สามารถมารับใบอนุญาตได้ด้วยตนเอง จะต้องดำเนินการมอบอำนาจเป็นหนังสือ ติดอากรแสตมป์ พร้อมแนบเอกสารที่เกี่ยวข้องให้เรียบร้อยตามแบบหนังสือมอบอำนาจ
  • กรณีผู้มีอำนาจลงนามพิจารณาออกใบอนุญาตฯ มีการแจ้งผลการพิจารณาเป็นหนังสือให้แก่ผู้ได้รับใบอนุญาตฯทางไปรษณีย์ เพื่อที่จะให้ดำเนินการชำระค่าธรรมเนียมและรับรับใบอนุญาตดังกล่าวต่อไป
  1. บัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง)
  2. สำเนาทะเบียนบ้าน (ฉบับจริง)
  3. บัตรประจำตัวข้าราชการหรือพนักงานองค์การของรัฐ ( สำเนา 1 ฉบับ ) ของแต่ละหน่วยงานที่สังกัดพร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
  4. หนังสือเดินทาง ( สำเนา 1 ฉบับ ) กรณีผู้ขออนุญาตเป็นชาวต่างชาติ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
  5. หนังสือรับรองนิติบุคคล ( ฉบับจริง 1 ฉบับ ) ออกให้ไม่เกิน 6 เดือน
  6. หนังสือบริคนห์สนธิ ( สำเนา 1 ฉบับ ) รับรองสำเนาถูกต้อง พร้อมประทับตราบริษัท
  7. คำขอใบแทนใบอนุญาต (แบบ สป.18) ( ฉบับจริง 1 ฉบับ )
  8. ใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง ( ฉบับจริง 1 ฉบับ ) กรณีชำรุดหรือเสียหาย
  9. หลักฐานการแจ้งความ ต่อพนักงานสอบสวน ( ฉบับจริง 1 ฉบับ ) กรณีสูญหาย
  10. หนังสือมอบอำนาจ (ติดอากรแสตมป์) ( ฉบับจริง 1 ฉบับ ) กรณีให้ผู้อื่นมากระทำการแทน

ค่าธรรมเนียม

  • ใบแทนใบอนุญาต หรือใบรับรอง ฉบับละ 50 บาท
  • ระยะเวลาดำเนินการ 5 วันทำการ

การขอรับโอนใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง

  • ผู้ที่ประสงค์จะรับโอนใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง ให้ปฏิบัติตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขการขอและการออกใบอนุญาตในการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง การครอบครองและการนำเคลื่อนที่เพื่อการค้าซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง และซากของสัตว์ป่าคุ้มครองและการค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ. 2551 ออกตามความในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
  • สำหรับผู้รับโอนใบอนุญาต ต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขฯ สำหรับการดำเนินกิจการที่ได้รับโอนใบอนุญาต และต้องมีความพร้อมเกี่ยวกับสถานที่ เครื่องมือและอุปกรณ์ที่จะดำเนินกิจการที่ได้รับโอนใบอนุญาต
  • กรณีบุคคลที่ได้รับใบอนุญาตไม่สามารถมารับใบอนุญาตได้ด้วยตนเอง จะต้องดำเนินการมอบอำนาจเป็นหนังสือ ติดอากรแสตมป์ พร้อมแนบเอกสารที่เกี่ยวข้องให้เรียบร้อยตามแบบหนังสือมอบอำนาจ
  • กรณีผู้มีอำนาจลงนามพิจารณาออกใบอนุญาตฯ มีการแจ้งผลการพิจารณาเป็นหนังสือให้แก่ผู้ได้รับใบอนุญาตฯทางไปรษณีย์ เพื่อที่จะให้ดำเนินการชำระค่าธรรมเนียมและรับรับใบอนุญาตดังกล่าวต่อไป
  1. บัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง)
  2. สำเนาทะเบียนบ้าน (ฉบับจริง)
  3. บัตรประจำตัวข้าราชการหรือพนักงานองค์การของรัฐ (สำเนา 1 ฉบับ) ของแต่ละหน่วยงานที่สังกัด พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
  4. หนังสือเดินทาง (สำเนา 1 ฉบับ) กรณีผู้ขออนุญาตเป็นชาวต่างชาติ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
  5. หนังสือรับรองนิติบุคคล (ฉบับจริง 1 ฉบับ ) ออกให้ไม่เกิน 6 เดือน
  6. หนังสือบริคนห์สนธิ (สำเนา 1 ฉบับ ) รับรองสำเนาถูกต้อง พร้อมประทับตราบริษัท
  7. คำขอรับโอนใบอนุญาต (แบบ สป.17) (ฉบับจริง 1 ชุด)
  8. ใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง (ฉบับจริง 1 ฉบับ )
  9. บัญชีแสดงชนิดและจำนวน สัตว์ป่า (ฉบับจริง 1 ชุด) ที่เป็นปัจจุบัน
  10. โครงการเพาะพันธุ์สัตว์ป่า (ฉบับจริง 1 ชุด ) ผู้ขออนุญาตเป็นผู้จัดทำ
  11. สำเนาหลักฐานการมีสิทธิใช้สถานที่ที่จะดำเนินการเพาะพันธุ์สัตว์ป่า (เช่น โฉนดที่ดิน, น.ส.3ก, หนังสือสัญญาเช่า ฯลฯ) (สำเนา 1 ฉบับ)
  12. หนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่ (ฉบับจริง 1 ฉบับ) กรณีที่ดินไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของผู้ขออนุญ
  13. แผนผังสังเขปของสถานที่ ที่จะดำเนินการเพาะพันธุ์สัตว์ป่า (ฉบับจริง 1 ชุด) ผู้ขออนุญาตเป็นผู้จัดทำ
  14. แผนที่สถานที่เพาะพันธุ์ (ฉบับจริง 1 ชุด) ผู้ขออนุญาตเป็นผู้จัดทำ
  15. หนังสือมอบอำนาจ (ติดอากรแสตมป์) (ฉบับจริง 1 ฉบับ) กรณีให้ผู้อืนมากระทำการแทน

ค่าธรรมเนียม

  • ไม่มีค่าธรรมเนียม
  • ระยะเวลาดำเนินการ 40 วันทำการ

การต่ออายุใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง

  • การขอต่ออายุใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง ให้ปฏิบัติตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขการขอและการออกใบอนุญาตในการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง การครอบครองและการนำเคลื่อนที่เพื่อการค้าซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง และซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง และการค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ. 2551 ออกตามความในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
    สำหรับผู้ที่ประสงค์จะขอต่ออายุใบอนุญาต ให้ยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตพร้อมด้วยหลักฐานตามที่ระบุไว้ในคำขอต่ออายุใบอนุญาตก่อนใบอนุญาตสิ้นอายุ (ครบกำหนด 5 ปี) การอนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาต จะแสดงไว้ในรายการท้ายใบอนุญาต หรือจะออกใบอนุญาตตามแบบใบอนุญาตเดิมให้ใหม่ก็ได้
  • กรณีบุคคลที่ได้รับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง ไม่สามารถมารับใบอนุญาตได้ด้วยตนเอง จะต้องดำเนินการมอบอำนาจเป็นหนังสือ ติดอากรแสตมป์ พร้อมแนบเอกสารที่เกี่ยวข้องให้เรียบร้อยตามแบบหนังสือมอบอำนาจ
  • กรณีผู้มีอำนาจลงนามพิจารณาออกใบอนุญาตฯ มีการแจ้งผลการพิจารณาเป็นหนังสือให้แก่ผู้ได้รับใบอนุญาตฯทางไปรษณีย์ เพื่อที่จะให้ดำเนินการชำระค่าธรรมเนียมและรับรับใบอนุญาตดังกล่าวต่อไป
  1. บัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง)
  2. สำเนาทะเบียนบ้าน (ฉบับจริง)
  3. บัตรประจำตัวข้าราชการหรือพนักงานองค์การของรัฐ ( สำเนา 1 ฉบับ ) ของแต่ละหน่วยงานที่สังกัด พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
  4. หนังสือเดินทาง ( สำเนา 1 ฉบับ ) กรณีผู้ขออนุญาตเป็นชาวต่างชาติ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
  5. หนังสือรับรองนิติบุคคล ( ฉบับจริง 1 ฉบับ ) ออกให้ไม่เกิน 6 เดือน
  6. หนังสือบริคนห์สนธิ ( สำเนา 1 ฉบับ ) รับรองสำเนาถูกต้อง พร้อมประทับตราบริษัท
  7. คำขอต่ออายุใบอนุญาต (แบบ สป.16) ( ฉบับจริง 1 ชุด )
  8. ใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง ( ฉบับจริง 1 ฉบับ )
  9. บัญชีแสดงชนิดและจำนวน สัตว์ป่า ( ฉบับจริง 1 ชุด ) ขออนุญาตเป็นผู้จัดทำ
  10. หลักฐานการได้มาซึ่งสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง เพื่อการเพาะพันธุ์ ( สำเนา 1 ชุด )
  11. แผนที่สถานที่เพาะพันธุ์ ( ฉบับจริง 1 ชุด ) ผู้ขออนุญาตเป็นผู้จัดทำ
  12. หนังสือมอบอำนาจ (ติดอากรแสตมป์) ( ฉบับจริง 1 ฉบับ ) กรณีให้ผู้อืนมากระทำการแทน

ค่าธรรมเนียม

  • เท่ากับอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตเดิม (1,000 บาท) แต่ไม่เกินครั้งละ 500 บาท
  • ระยะเวลาดำเนินการ 9 วันทำการ

การดำเนินกิจการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต (มาตรา 28)

พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 91 และ 95

  • จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ฝ่าฝืนกฎกระทรวงฯ

  • จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือ ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ (เปรียบเทียบปรับได้)