รัฐบาล เปิดเผยมีผู้ได้รับวัคซีนแล้วกว่า 62,941ราย พร้อมปรับแผนกระจายวัคซีนโควิด19

รัฐบาล เปิดเผยมีผู้ได้รับวัคซีนแล้วกว่า 62,941ราย พร้อมปรับแผนกระจายวัคซีนโควิด19

           รัฐบาล เปิดเผยสถานการณ์ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด19 มีความคืบหน้าตามแผนกระจายวัคซีน โดยได้จัดส่งวัคซีนให้แก่จังหวัดเป้าหมายเบื้องต้น ครบทั้ง 13 จังหวัดระยะที่ 1 รอบแรก ได้แก่ Sinovac จำนวน 116,520 โดส และ AstraZeneca จำนวน 10,000 โดส ให้หน่วยบริการในจังหวัดสมุทรสาครแล้ว สำหรับจำนวนผู้ได้รับวัคซีนโควิด19 ของประเทศ ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์-19 มีนาคม 2564 รวม 62,941 ราย

 



           วันนี้ (21 มี.ค.64) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยถึงสถานการณ์ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด19 มีความคืบหน้าตามแผนกระจายวัคซีน โดยได้จัดส่งวัคซีนให้แก่จังหวัดเป้าหมายเบื้องต้น ครบทั้ง 13 จังหวัดระยะที่ 1 รอบแรก ได้แก่ Sinovac จำนวน 116,520 โดส และ AstraZeneca จำนวน 10,000 โดส ให้หน่วยบริการในจังหวัดสมุทรสาครแล้ว ทั้งนี้ ยังมีแผนจัดส่งวัคซีน Sinovac ให้พื้นที่ กรุงเทพมหานครและสมุทรสาครเพิ่มเติม โดยจะได้ติดตามสถานการณ์โควิด19 ทั่วประเทศ เพื่อปรับแผนการกระจายวัคซีนให้สอดคล้องกับความจำเป็นในพื้นที่ โดยยังคงเป้าหมายผู้ได้รับวัคซีน 31.5 ล้านคน คิดเป็นประมาณ 60% ของกลุ่มเป้าหมาย


           สำหรับจำนวนผู้ได้รับวัคซีนโควิด19 ของประเทศ ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์-19 มีนาคม 2564 รวม 62,941 ราย ได้แก่บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข อสม. จำนวน 31,066 ราย เจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 7,147ราย บุคคลที่มีโรคประจำตัว 4,182ราย ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 35 รายและประชาชนในพื้นที่เสี่ยง 20,511 ราย และขณะนี้ มีวัคซีนโควิด19 ที่อยู่ในประเทศไทยแล้ว 317,600 โดส ประกอบด้วย Sinovac 200,000 โดส และ AstraZeneca จำนวน 117,600 โดส ได้ผ่านการตรวจสอบจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เรียบร้อยแล้ว และในเดือนนี้ จะมี Sinovac เข้ามาอีก800,000 โดส โดยมีคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเป็นผู้พิจารณาผู้ที่เหมาะสมในการได้รับวัคซีน


           โดยขั้นตอนก่อนเข้าฉีด คือ วัดไข้ ลงทะเบียนประวัติ ตรวจร่างกาย ชั่งน้ำหนัก วัดความดันโลหิต ประเมินความเสี่ยงและลงนามยินยอมรับการฉีดวัคซีนต่อเจ้าหน้าที่ และต้องพัก 30 นาที หลังการฉีดวัคซีน เพื่อสังเกตอาการและรับบัตรนัดเพื่อเข้าฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ต่อไป

 


 

ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/40186