การขออนุญาตให้ส่งออกซึ่ง ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง ที่ได้จากการเพาะพันธุ์

การขออนุญาตให้ส่งออกซึ่ง ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง ที่ได้จากการเพาะพันธุ์ตามมาตรา 18 (1) แห่ง พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535) 

  • ระยะเวลาดำเนินการ 7 วันทำการ

  • ด้วยประเทศไทยได้ลงนามให้สัตยาบันเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) เมื่อปี พ.ศ. 2526 จึงมีพันธะผูกพันในกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งต้องมีการปรับปรุงกฎหมายภายในประเทศที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับอนุสัญญาดังกล่าวโดยได้มีการควบคุมการส่งออกซึ่งชนิดพันธุ์สัตว์ป่าในความคุ้มครองแห่งอนุสัญญาฯ ให้มีประสิทธิภาพ มีบทลงโทษต่อผู้ลักลอบส่งออกซึ่งชนิดพันธุ์สัตว์ป่าดังกล่าว
  • รัฐบาลไทยจึงได้ตราพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งได้มีการควบคุมการส่งออกซึ่งซากของสัตว์ป่าหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้จากการเพาะพันธุ์ตามมาตรา18 (1) และการส่งออกตามความตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยการค้าสัตว์ป่าชนิดที่ต้องมีใบอนุญาตหรือใบรับรอง
  • สัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้จากการเพาะพันธุ์ตามมาตรา18 (1) เป็นการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าคุ้มครองชนิดที่เพาะพันธุ์ได้ตามกฎกระทรวง กำหนดชนิดสัตว์ป่าคุ้มครองให้เป็นสัตว์ป่าชนิดที่เพาะพันธุ์ได้ พ.ศ. 2546
  • ผู้ที่สามารถขอรับบริการการขออนุญาตให้ส่งออกซึ่งซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้จากการเพาะพันธุ์ตามมาตรา 18 (1) แห่ง พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ได้แก่ ประชาชนทั่วไป ชาวต่างชาติ ผู้ประกอบการภาคเอกชน/นิติบุคคล
  • กรณีซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้จากการเพาะพันธุ์ตามมาตรา 18 (1) ที่ประสงค์ขออนุญาตให้ส่งออกเป็นชนิดพันธุ์สัตว์ป่าในบัญชีอนุสัญญาฯ CITES จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของอนุสัญญา CITES ให้ครบถ้วนด้วย
  • ทั้งนี้ การพิจารณาอนุญาตเป็นอำนาจของอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เมื่อได้รับการอนุญาตและลงนามในใบอนุญาตแล้ว เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ผู้ได้รับอนุญาตชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต โดยใบอนุญาตฉบับจริง เจ้าหน้าที่จะจัดส่งไปยังด่านตรวจสัตว์ป่าที่ระบุในใบอนุญาต ผู้ได้รับอนุญาตต้องดำเนินการส่งออกซึ่งซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าผ่านด่านตรวจสัตว์ป่า ตามรายการชนิด และจำนวน ที่ระบุในใบอนุญาตให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ใบอนุญาตจะหมดอายุ และเมื่อเจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์ป่าได้ดำเนินการตรวจสอบการส่งออกซึ่งซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าเรียบร้อยแล้ว ผู้ได้รับอนุญาตจะได้รับใบอนุญาตฉบับจริง
  1. หลักฐานการได้มาซึ่งซากของสัตว์ป่าหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่านั้น ( สำเนา 1 ฉบับ ) ตัวอย่างเช่น(1) ใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่า สป.9 (2) ใบอนุญาตให้ค้าสัตว์ป่าที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ สป.11 (3) ใบอนุญาตนำเข้า สป.5 เป็นต้น แล้วแต่กรณี และให้ผู้ขออนุญาต รับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ
  2. ใบสั่งสินค้า (Order) หรือใบกำกับสินค้า (Invoice) ( สำเนา 1 ฉบับ ) มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวในระบบของโครงการพัฒนาระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามระบบอนุญาตนำเข้า ส่งออก และ นำผ่าน ตามอนุสัญญาไซเตส และให้ผู้ขออนุญาต รับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ
  3. ใบอนุญาตนำเข้า (Import permit) หรือหนังสือยินยอมให้นำเข้า ซึ่งออกโดยเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจออกใบอนุญาตตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) ของประเทศที่จะส่งออกซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าไปยังประเทศนั้น ( สำเนา 1 ฉบับ ) เฉพาะกรณี เป็นชนิดพันธุ์เดียวกับสัตว์ป่าในบัญชีหมายเลข 1 ของอนุสัญญา CITES และให้ผู้ขออนุญาต รับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ

ค่าธรรมเนียม

  • นำเข้าและส่งออก ซากและผลิตภัณฑ์ของสัตว์ป่า
    • 1 ตัว ฉบับละ 50 บาท
    • 2 ตัวขึ้นไป ฉบับละ 500 บาท