สำนักงานประกันสังคม เปิดให้บริการศูนย์คัดกรองโควิด 19 เพื่อผู้ประกันตน วันที่ 5 – 11 พ.ค. 64

สำนักงานประกันสังคม เปิดให้บริการศูนย์คัดกรองโควิด 19 เพื่อผู้ประกันตน วันที่ 5 – 11 พ.ค. 64

            สำนักงานประกันสังคม จัดให้มีช่องทางตรวจหาเชื้อโควิด 19 เพื่อผู้ประกันตน ตามโครงการ แรงงานเราสู้ด้วยกัน เป้าหมายดูแลผู้ประกันตนมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ให้สามารถเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด 19 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งเปิดให้บริการตรวจอีกครั้ง ในวันที่ 5 – 11 พฤษภาคม 2564 ณ อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย – ญี่ปุ่น) เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร

 



กระทรวงแรงงาน เปิดให้ผู้ประกันตนกลุ่มเสี่ยงตรวจหาเชื้อโควิด 19 ฟรี เริ่มวันที่ 17 เม.ย. 64

            เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากกรณีในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาพบผู้ติดเชื้อโควิด 19 ภายในประเทศเพิ่มขึ้น โดยหลายกรณีเชื่อมโยงกับสถานประกอบการประเภทสถานบันเทิง ผับ บาร์ ซึ่ง สปสช. ได้แจ้งให้พี่น้องประชาชนกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด 19 สามารถเข้ารับการตรวจคัดกรองได้ในโรงพยาบาลทั้งของรัฐและเอกชนทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อให้สามารถเข้าถึงการคัดกรองโรคและการรักษาอย่างทันท่วงที เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรค นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยผู้ประกันตนจากกรณีการแพร่ระบาดดังกล่าว จึงกำชับกระทรวงแรงงาน บูรณาการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) และ สปสช. เพิ่มช่องทางหน่วยบริการตรวจโควิด 19 เพื่อลดความแออัดและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สามารถเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ซึ่งจะเริ่มต้นวันที่ 17 เมษายนนี้ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย – ญี่ปุ่น) เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร


            โดยนายสุชาติ กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งกระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มีความห่วงใยต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับในทุกด้านหากสถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรงมากขึ้น ซึ่งผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้หารือกำหนดแนวทางที่จะร่วมกับกระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดยจะเปิดให้ผู้ประกันตนที่จะเข้ารับการตรวจสามารถลงทะเบียนจองคิวตรวจผ่านระบบแอพพลิเคชั่นออนไลน์ สำหรับผู้ประกันตนที่จะได้เข้าตรวจคือผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คัดกรอง ทั้งนี้ หากผู้ประกันตนรายใดตรวจพบเชื้อโควิด 19 จะต้องส่งตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเครือข่ายในสังกัดสำนักงานประกันสังคม โดยจะได้รับการรักษาฟรี ซึ่งมีอยู่จำนวน 81 แห่ง ที่มีความพร้อม มีเตียงรองรับกว่า 1,000 เตียง มี HQ 200 กว่าเตียง


            สำหรับผู้ประกันตนที่จะเข้ารับการตรวจคัดกรองโควิด 19 ฟรี จะต้องเข้าข่ายเป็นกลุ่มเสี่ยงตามที่กระทรวงสาธารณสุขหรือ สปสช. กำหนด ดังนี้


            ก. ตามนิยามผู้สงสัยติดเชื้อโควิด 9 ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข มีอาการอย่างน้อยหนึ่งอาการต่อไปนี้ คือ มีไข้ อุณหภูมิตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป ไอ น้ำมูก เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส มีผื่นขึ้น ตาแดง หายใจเร็ว หายใจเหนื่อย หรือหายใจลำบาก ร่วมกับมีปัจจัยเสี่ยง คือ


1) 14 วันก่อนเริ่มป่วย มีประวัติอย่างน้อยหนึ่งอย่างต่อไปนี้

1.1) สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันโควิด 19

1.2) ไปในสถานที่ชุมชนหรือสถานที่ที่มีการรวมตัวของกลุ่มคน เช่น ตลาดนัด ห้างสรรพสินค้า สถานพยาบาล สถานบันเทิง หรือขนส่งสาธารณะที่มีรายงานผู้ป่วยยืนยันโควิด 19 ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา

1.3) เดินทางไปยัง/มาจาก/หรืออยู่อาศัย ในประเทศที่มีรายงานผู้ป่วยโควิด 19 ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา

1.4) ปฏิบัติงานในสถานกักกันโรค


2) แพทย์ผู้ตรวจรักษาสงสัยว่าเป็นโรคโควิด 19


ข. กรณีสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันโควิด 19 หรือไปในสถานที่มีการระบาดมา ไม่มีอาการป่วย แต่สงสัยว่าจะติดเชื้อโควิด 19 สามารถไปรับการตรวจคัดกรองได้ โดย สปสช.ได้ปรับแก้ประกาศให้ครอบคลุมการตรวจคัดกรองโควิด 19 ตามดุลยพินิจของแพทย์ ซึ่งสามารถเบิกจ่ายกับ สปสช.ได้ โดยไม่ต้องเรียกเก็บจากผู้ป่วย

 

3) ขั้นตอนการลงทะเบียนออนไลน์เพื่อจองคิวตรวจของกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33, 39 และ 40

  • สามารถเข้าเว็บไซต์ https://www.google.com แล้วพิมพ์คำว่า แรงงานเราสู้ด้วยกัน แล้วคลิกที่เว็บไซต์ https://sso.icntracking.com/icntracking/self_register.php
  • จากนั้นผู้ประกันตนกรอกเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก หรือเลขพาสปอร์ต กรอกข้อมูลประเมินความเสี่ยงตามที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ซึ่งเป็นบุคคลที่มีกลุ่มเสี่ยงหรือมีอาการป่วย
  • โดยจะเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ในวันที่ 15 เมษายนนี้ ตั้งแต่เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป
  • โดยแต่ละวันลงทะเบียนได้วันละ 3,000 คน แบ่งเป็นช่วงเช้า 1,500 คน ช่วงบ่าย 1,500 คน
  • หากผู้ประกันตนรายใดลงทะเบียนแล้วไม่มาตรวจตามนัดจะต้องลงทะเบียนใหม่
  • และเมื่อเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด 19 เรียบร้อยแล้วสามารถกลับบ้านได้ทันที เนื่องจากผลการตรวจจะส่งทาง SMS ให้ผู้ประกันตนทราบตามหมายเลขโทรศัพท์ที่แจ้งไว้


            “ขอเน้นย้ำว่า ผู้ประกันตนที่เข้าข่ายเป็นกลุ่มเสี่ยงตามที่กระทรวงสาธารณสุขและ สปสช.กำหนด ยังคงสามารถตรวจโควิด 19 ได้ฟรีทั้งในโรงพยาบาลรัฐและเอกชนทุกแห่งทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นสิทธิของคนไทยทุกคน การเพิ่มหน่วยบริการตรวจที่จะเปิดแห่งแรกใน กทม. นั้น เป็นการเพิ่มช่องทางหรือทางเลือกหนึ่งเพื่อบริการผู้ประกันตนให้ได้รับการตรวจอย่างรวดเร็ว ลดความแออัดหรือรอคิวนาน ซึ่งกระทรวงแรงงานจะพิจารณาเพิ่มหน่วยบริการสำหรับผู้ประกันตนให้มากขึ้นต่อไป” รมว.สุชาติ กล่าวในตอนท้าย

 

            นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผย นายกรัฐมนตรีห่วงใยผู้ประกันตนกรณีการแพร่ระบาดของโควิด 19 กำชับกระทรวงแรงงาน บูรณาการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย สปสช. และกรุงเทพมหานคร เพิ่มช่องทางหน่วยบริการตรวจโควิด 19 เพื่อลดความแออัดและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สามารถเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ได้ฟรี เริ่มต้นวันที่ 17 เมษายนนี้ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย – ญี่ปุ่น) เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร


            เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2564 ที่ห้องประชุมประสงค์ รณะนันทน์ ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เพื่อกำหนดแนวทางร่วมกับกระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในการตรวจหาเชื้อโควิด 19 แก่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สามารถเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ได้ฟรี โดยกระทรวงแรงงานประสานโรงพยาบาลในเครือข่ายประกันสังคมมาให้บริการ ณ อาคากีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) โดยนายสุชาติ กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งกระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มีความห่วงใยต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับในทุกด้านหากสถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรงมากขึ้น ในวันนี้ผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จึงได้เชิญผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงานเพื่อมาหารือกำหนดแนวทางที่จะร่วมกับกระทรวงมหาดไทย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และกรุงเทพมหานคร โดยจะเปิดให้ผู้ประกันตนที่จะเข้ารับการตรวจสามารถลงทะเบียนจองคิวตรวจผ่านระบบแอพพลิเคชั่นออนไลน์ สำหรับคุณสมบัติของคนที่จะได้เข้าตรวจคือผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คัดกรอง และสามารถเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ได้ชั่วโมงละไม่ต่ำกว่า 300 คน ทราบผลการตรวจภายใน 24 – 48 ชั่วโมง ซึ่งจะ kick off ในวันเสาร์ที่ 17 เมษายนนี้ ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย – ญี่ปุ่น) เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร


            นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ผมได้หารือกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายแพทย์จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เรียบร้อยแล้ว โดยกระทรวงแรงงานจะบูรณาการทำงานร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อให้ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ที่กำลังเดินทางกลับจากเทศกาลสงกรานต์เข้าสู่พื้นที่กรุงเทพมหานครสามารถเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ได้ฟรี ทั้งนี้ หากพบว่าผู้ประกันตนรายใดตรวจพบเชื้อโควิด 19 จะต้องส่งตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเครือข่ายในสังกัดสำนักงานประกันสังคม โดยผู้ประกันตนที่ติดเชื้อโควิด 19 จะได้รับการรักษาฟรีในโรงพยาบาลเครือข่ายประกันสังคม ซึ่งมีอยู่จำนวน 81 แห่ง ที่มีความพร้อม มีเตียงรองรับกว่า 1,000 เตียง มี HQ 200 กว่าเตียง


            สำหรับการตรวจหาเชื้อโควิด 19 แก่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมมาตรา 33, 39 และ 40 ในครั้งนี้ เป็นการเพิ่มช่องทางของหน่วยบริการตรวจ เนื่องจากขณะนี้หลายโรงพยาบาลมีผู้มาใช้บริการเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด 19 เป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดความแออัด คิวยาว กระทรวงแรงงานจึงมีนโยบายที่จะอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกันตน ได้รับการตรวจอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคอีกทางหนึ่งอันจะส่งผลให้ภาคธุรกิจดำเนินการต่อไปได้

 


 

ที่มา:

  • https://bit.ly/3aSELvn
  • https://bit.ly/3g2k7wd
  • https://bit.ly/3a3OsXy