เกณฑ์ยื่นขอเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีได้รับความเสียหายหลังฉีดวัคซีนโควิด 19

     สปสช.ประกาศหลักเกณฑ์ยื่นขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีได้รับความเสียหายจากการฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องได้ที่โรงพยาบาลที่ไปรับการฉีด สสจ. หรือ สปสช.เขตพื้นที่ ภายใน 2 ปีหลังทราบความเสียหาย แต่ต้องเป็นเฉพาะวัคซีนที่รัฐจัดให้ ไม่รวมถึงวัคซีนทางเลือกที่ไปฉีดเองกับโรงพยาบาลเอกชน 

     การจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นที่เป็นความเสียหายจากการรับวัคซีนโควิด 19 ครอบคลุมคนไทยทุกสิทธิไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้สิทธิบัตรทอง ประกันสังคม สวัสดิการข้าราชการ ฯลฯ

เงื่อนไข

  • วัคซีนที่ฉีดนั้น ต้องเป็นวัคซีนตามแผนงานโครงการที่รัฐจัดให้ฟรี
  • การช่วยเหลือเบื้องต้นนี้ไม่รวมถึงวัคซีนทางเลือกที่ให้โดยโรงพยาบาลเอกชนและมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น (หากเกิดความเสียหาย ต้องเรียกร้องจากเอกชน)
  • กรณีวัคซีนทางเลือก(ซิโนฟาร์ม)ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
    • หน่วยงานหรือองค์กรใดที่จัดซื้อวัคซีนโควิด-19 จากราชวิทยาลัยฯ ก็จะต้องฉีดให้กับผู้รับบริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หากผู้รับบริการเกิดปัญหาจากการได้รับวัคซีนโควิด-19 จะได้รับเงินช่วยเหลือจากทาง สปสช. ตามเกณฑ์
    • ถ้าหน่วยงานใดซื้อวัคซีน ซิโนฟาร์มจากราชวิทยาลัยฯ แล้วไปเรียกเก็บค่าใช้บริการ – ค่าใช้จ่ายจากประชาชน หากเกิดความเสียหาย ต้องเรียกร้องจากเอกชน​

อัตราเงินช่วยเหลือที่กำหนด

  • กรณีเสียชีวิต ทุพพลภาพถาวร หรือเจ็บป่วยเรื้อรังที่ต้องรักษาตลอดชีวิต จ่ายไม่เกิน 400,000 บาท
  • กรณีสูญเสียอวัยวะหรือพิการที่มีผลกระทบกับการดำเนินชีวิต จ่ายไม่เกิน 240,000 บาท
  • กรณีบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยต่อเนื่องจ่ายไม่เกิน 100,000 บาท

ผู้ที่มีสิทธิยื่นคำร้อง

  • ผู้รับวัคซีน ทายาท ผู้อุปการะ หรือโรงพยาบาลที่ให้บริการ

สถานที่ยื่นคำร้อง

  • โรงพยาบาลนั้นๆ
  • สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) 
  • สำนักงาน สปสช.สาขาเขตพื้นที่

ระยะเวลายื่นคำร้อง

  • ภายใน 2 ปีนับแต่วันที่ทราบความเสียหาย

การพิจารณาและการอุทธรณ์

  • การพิจารณาว่าจะจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น เป็นจำนวนเท่าใด คณะอนุกรรรมการพิจารณาวินิจฉัยคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นฯ ในระดับเขตพื้นที่ จะพิจารณาโดยคำนึงถึงความรุนแรงของความเสียหายและเศรษฐานะของผู้เสียหาย และจ่ายเงินช่วยเหลือได้ไม่เกินอัตราที่กำหนด
  • คณะอนุกรรมการฯ ระดับเขตพื้นที่จะเร่งพิจารณาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
  • ในกรณีที่ผู้ยื่นคำร้องไม่เห็นด้วยกับผลการวินิจฉัย ก็มีสิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อเลขาธิการ สปสช. ได้ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ทราบผลการวินิจฉัย
  • กรณีที่เลขาธิการ สปสช. ไม่เห็นด้วยกับคำอุทธรณ์ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ก็ยังสามารถเสนอให้คณะกรรมการ สปสช. วินิจฉัยอุทธรณ์ได้อีกชั้นหนึ่งด้วย