กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม แนะนำ 3 เทคนิค บริหารต้นทุนขนส่ง สำหรับผู้นำเข้าและส่งออก
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม แนะนำ 3 เทคนิค บริหารต้นทุนขนส่ง สำหรับผู้นำเข้าและส่งออก โดยปัจจุบันต้นทุนค่าขนส่งที่สูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อต้นทุนของสินค้า และทำให้ความสามารถในการแข่งขันลดลง ดังนั้นการบริหารต้นทุนสำหรับผู้นำเข้าและส่งออกจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะต้นทุนค่าขนส่งเป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์ และแฝงอยู่ในขั้นตอนต่าง ๆ
3 เทคนิค บริหารต้นทุนขนส่ง สำหรับผู้นำเข้าและส่งออก ต้นทุนค่าขนส่งที่สูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อต้นทุนของสินค้า และทำให้ความสามารถในการแข่งขันลดลง ดังนั้นการบริหารต้นทุนสำหรับผู้นำเข้าและส่งออกจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะต้นทุนค่าขนส่งเป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์ และแฝงอยู่ในขั้นตอนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น
การจัดซื้อวัตถุดิบ
- สินค้าที่มีการจัดซื้อจากต่างประเทศ จะต้องพิจารณาถึงราคาและปริมาณของการสั่งซื้อแต่ละครั้งอย่างรอบคอบ เพราะปริมาณที่ต่างกัน จะส่งผลให้ราคาค่าสินค้าและค่าขนส่งต่างกัน
นอกจากนี้เงื่อนไขในการส่งมอบสินค้าก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อต้นทุนสินค้า หากผู้ขายเสนอราคาสินค้า โดยการส่งมอบสินค้า ณ ท่าเรือ (FOB: Free on Board) ผู้ซื้อต้องรับผิดชอบด้านค่าขนส่งหรือค่าระวางเรือและค่าประกันภัยสินค้า แต่ถ้าผู้ขายเสนอราคาค่าสินค้าโดยรวมค่าขนส่งระหว่างประเทศและการประกันภัยสินค้า หรือ (CIF: Cost Insurance and Freight) ผู้ขายจะต้องเปรียบเทียบว่า ราคา CIF จากต่างประเทศกับราคาค่าขนส่งจากประเทศผู้ซื้อและค่าประกันภัยรวมกันแล้ว ราคาแบบไหนต่ำกว่า
การจัดการค่าขนส่ง
- การขนส่งสินค้าจากต่างประเทศเข้าสู่ประเทศไทย ทั้งทางเรือ เครื่องบิน และรถบรรทุก ก่อนการสั่งซื้อสินค้าจึงต้องตกลงราคาซื้อขายให้ชัดเจนว่า การซื้อขายนั้น ๆ รวมหรือไม่รวมค่าขนส่งระหว่างประเทศ เมื่อตกลงทำสัญญากันชัดเจนแล้ว ผู้ซื้อต้องระบุเงื่อนไขว่า การขนส่งสินค้านั้นเป็นการขนส่งโดยทางเครื่องบินหรือทางเรือ
ค่าขนส่งจากท่าเรือไปโรงงาน
- เมื่อสินค้าจากต่างประเทศถึงท่าเรือ หรือ สนามบิน เมื่อดำเนินพิธีการศุลกากรแล้ว จะต้องขนส่งสินค้าออกจากท่าเรือหรือสนามบินไปโรงงาน หากปริมาณสินค้าไม่มาก ค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะไม่สูงมากนัก แต่ถ้าหากเป็นสินค้าเต็มตู้คอนเทนเนอร์และต้องไปเปิดที่โรงงาน ค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะค่อนข้างสูง เพราะมีทั้งค่าขนส่ง ค่าคืนตู้คอนเทนเนอร์ ค่าเสียเวลาตู้ รวมทั้งค่าระวางที่ปรับเพิ่มขึ้นตามดีมานด์ของการขนส่งทางเรือ และราคาน้ำมันในตลาดโลก
ดังนั้นผู้ประกอบการนำเข้าและส่งออก จะต้องให้ความใส่ใจในการบริหารจัดการต้นทุนเหล่านี้เพื่อให้ธุรกิจสามารถแข่งขันได้ รวมถึงการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการลดต้นทุน หรือการเลือกจ้าง Outsource ที่มีความชำนาญเพื่อประหยัดเวลาและต้นทุนการดำเนินการ
ติดตามข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องได้ที่
- Website : www.dip.go.th
- Facebook : www.facebook.com/dipromindustry
- Twitter : twitter.com/dipindustry
- Instagram : www.instagram.com/dipromindustry
- Youtube : https://www.youtube.com/dipromstation
- Line : https://lin.ee/Bj5AUaK
ที่มา : https://bit.ly/2Ru2QCl