ศบค.เน้นย้ำห้ามสื่อบิดเบือนข่าวสารให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด

ศบค.เน้นย้ำห้ามสื่อบิดเบือนข่าวสารให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด

          ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) เน้นย้ำห้ามสื่อบิดเบือนข่าวสารให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด มีความผิดตามมาตรา 9 (3) แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548



          นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) หรือ ศบค. เปิดเผยว่า ในวันนี้เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศล่าสุด ลงนามโดยนายกรัฐมนตรีข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 27) ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ห้ามประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ได้แก่ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และจังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ออกนอกเคหสถาน หรือเคอร์ฟิว ในช่วงเวลา 21.00 น. ถึง 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ต่อเนื่องเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน โดยจะเริ่มเที่ยงคืนวันพรุ่งนี้ หรือวันที่12 กรกฎาคมนี้ จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นบุคคลซึ่งได้รับยกเว้น โดยให้พนักงานเจ้าหน้าที่ หรือบุคคลซึ่งปฏิบัติหน้าที่ ตำรวจ ทหาร ตามข้อกำหนดหรือคำสั่งของทางราชการเข้าปฏิบัติหน้าที่ในเขตพื้นที่และระยะเวลาได้ สำหรับบุคคลที่ได้รับการยกเว้น อาทิ การสาธารณสุข / การขนส่งสินค้าเพื่อประโยชน์ของประชาชน / การขนส่งหรือขนย้ายประชาชนการให้บริการหรืออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เป็นต้น ส่วนการจำหน่ายอาหาร หรือเครื่องดื่ม เปิดได้ถึงเวลา 20.00 น. เฉพาะนำกลับเท่านั้น ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า หรือสถานประกอบการที่คล้ายกัน ร้านสะดวกซื้อ ตลาดนัด ตลาดโต้งรุ่ง สวนสาธารณะ เปิดได้ถึง 20.00 น. ขณะที่สถานประกอบการนวดแผนไทย สปา สถานเสริมความงามให้ปิดการดำเนินการและขอความร่วมมือให้ประชาชนชะลอการเดินทางข้ามพื้นที่

          นอกจากนี้ ยังจำกัดการรวมกลุ่มของบุคคลและกำหนดมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันและรองรับจำนวนผู้ติดเชื้อที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อาทิ การเข้าถึงระบบตรวจหาเชื้อ การจัดตั้งศูนย์พักคอย โรงพยาบาลสนาม การฉีดวัคซีน เป็นต้น รวมทั้งการเตรียมเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมเน้นย้ำห้ามสื่อบิดเบือนข่าวสารให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 9(3) แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548

 


ที่มา : https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG210710163658566