มาตรการเยียวยาลูกจ้างและกิจการจังหวัดสีแดงเข้ม (13 ก.ค.64)

จังหวัดที่ได้รับการเยียวยา

ให้ความช่วยเหลือ กลุ่ม 13 จังหวัดเดิม เป็นระยะเวลา 2 เดือน (ก.ค.- ส.ค. 64)

 
  • กรุงเทพฯ
  • นนทบุรี
  • ปทุมธานี
  • นครปฐม
  • สมุทรสาคร
  • สมุทรปราการ
  • ฉะเชิงเทรา
  • ชลบุรี
  • พระนครศรีอยุธยา
  • สงขลา
  • ปัตตานี
  • ยะลา
  • นราธิวาส

ให้ความช่วยเหลือ กลุ่ม 16 จังหวัดเพิ่มเติม เป็นระยะเวลา 1 เดือน (ส.ค.64)

 
  • กาญจนบุรี
  • ตาก
  • นครปฐม
  • นครราชสีมา
  • ประจวบคีรีขันธ์
  • ปราจีนบุรี
  • เพชรบุรี
  • เพชรบูณ์
  • ระยอง
  • ราชบุรี
  • ลพบุรี
  • สิงห์บุรี
  • สมุทรสงคราม
  • สระบุรี
  • สุพรรณบุรี
  • อ่างทอง

หมายเหตุ 

  • ครม.เห็นชอบขยายพื้นที่เยียวยา ผู้ประกันตน ม.33 ม.39 และ ม.40 เพิ่ม 3 จังหวัด ฉะเชิงเทรา ชลบุรี อยุธยา เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2564
  • ครม. ขยายมาตรการช่วยเหลือแรงงานและผู้ประกอบการ เพิ่ม 16 จังหวัดพื้นที่แดงเข้ม เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564

ขอบเขตของกิจการที่ได้รับการเยียวยา

กลุ่มที่ 1: 9 หมวดกิจการ (เพิ่มเติมจากเดิม 4 หมวด)

    1. ก่อสร้าง
    2. ที่พักแรมและบริการด้านอาหาร
    3. ศิลปะ บันเทิงและนันทนาการ
    4. กิจกรรมการบริการด้านอื่น ๆ
    5. ขายส่งขายปลีกและซ่อมยานยนต์
    6. ขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า
    7. กิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุน
    8. กิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์ และกิจกรรมทางวิชาการ
    9. ข้อมูลข่าวสารและสื่อสาร

กลุ่มที่ 2: 5 กิจการของถุงเงิน (เพิ่มเติมจากเฉพาะร้านอาหารและเครื่องดื่ม) 

    1. ร้านอาหารและเครื่องดื่ม
    2. ร้าน OTOP
    3. ร้านค้าทั่วไป
    4. ร้านค้าบริการ
    5. กิจการขนส่งสาธารณะ (ไม่รวมกิจการขนาดใหญ่)

ระยะเวลาในการให้ความช่วยเหลือ

  • กลุ่ม 13 จังหวัดเดิม ให้ความช่วยเหลือ เป็นระยะเวลา 2 เดือน (ก.ค.- ส.ค. 64)
  • กลุ่ม 16 จังหวัดเพิ่มเติม ให้ความช่วยเหลือ เป็นระยะเวลา 1 เดือน (ส.ค.64)

รายละเอียดของการเยียวยา ตามกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบ

1.ลูกจ้าง ม. 33 ในกิจการ 9 หมวด

    • รัฐจ่ายเงินเยียวยาให้ 50% ของรายได้ (สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท)
    • รัฐจ่ายสมทบให้ลูกจ้างสัญชาติไทย 2,500 บาทต่อคน
    • รวมแล้วได้สูงสุด 10,000 บาท

2.นายจ้าง ม. 33 ในกิจการ 9 หมวด

    • รัฐจ่ายให้ตามจำนวนลูกจ้าง 3,000 บาทต่อราย สูงสุดไม่เกิน 200 คน

3.ผู้ประกันตนตาม ม. 39 และ 40

    • รัฐบาลจะช่วยเหลือค่าใช้จ่ายให้ 5,000 บาทต่อคน

4.ผู้ประกอบอาชีพอิสระ (freelance)

5.ผู้ประกอบการที่มีลูกจ้างแต่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม

6.ผู้ประกอบการที่ไม่มีลูกจ้าง และไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม

7.ผู้ประกอบการในระบบ “ถุงเงิน” 5 หมวด ภายใต้โครงการ “คนละครึ่ง” และโครงการ “เราชนะ” ที่ “มีลูกจ้าง”

8.ผู้ประกอบการในระบบ “ถุงเงิน” 5 หมวด ภายใต้โครงการ “คนละครึ่ง” และโครงการ “เราชนะ” ที่ “ไม่มีลูกจ้าง”

อาชีพอิสระ สมัคร ม.40 และชำระเงินสมทบ ภายใน 24 ส.ค.64

ช่องทางการรับเงินเยียวยา

ผู้ประกันตนที่ได้รับการเยียวยา

กรณีนายจ้างบุคคลธรรมดาที่ได้รับการเยียวยา

  • จะได้รับเงินผ่านการโอนเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน

กรณีนายจ้างนิติบุคคลที่ได้รับการเยียวยา

  • ยื่นความประสงค์ขอรับเงินได้ที่ ระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ (e-Service) พร้อมการจัดส่งเอกสารเลขที่บัญชีนายจ้าง ไปยังประกันสังคมพืันที่
  • สำนักงานประกันสังคมจะโอนเงินเข้าบัญชีตามที่แจ้งไว้

สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ดำเนินการผูกพร้อมเพย์

  • ให้ดำเนินการผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประจำตัวประชาชนให้เรียบร้อยเพื่อที่สำนักงานประกันสังคมจะได้โอนเงินให้ทุกวันพฤหัสบดีต่อไป
  • เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่ายังมีผู้ประกันตนบางส่วนยังไม่ได้รับเงินจากปัญหาการโอนเงินไม่สำเร็จ ด้วยสาเหตุต่าง ๆ เช่น ยังไม่ผูกพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชน ทำให้ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือทันในการโอนรอบที่ผ่านมา
  • จึงขอให้ผู้ที่ตกหล่นจากรอบการโอนที่ผ่านมาให้ท่านเร่งตรวจสอบข้อมูลตนเอง หากเช็คแล้วว่าเงินยังไม่เข้าบัญชี ให้รีบไปติดต่อธนาคารโดยด่วน

หมายเหตุ :

  1. หากมีข้อสงสัยเรื่องการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับหมายเลขบัตรประชาชน สามารถศึกษาข้อมูลผ่านเว็บไซต์หรือติดต่อสอบถามผ่านคอลเซ็นเตอร์ของธนาคารที่ใช้บริการอยู่
  2. นายจ้างนิติบุคคลที่ได้รับเอกสารแจ้งจากทางประกันสังคมให้ส่งเลขที่บัญชีเงินเพื่อรับเงินเยียวยา โดยไม่ได้แจ้งวิธีในการส่ง ให้ติดต่อกับสำนักงานประกันสังคมในเขตพื้นที่โดยตรง เพื่อสอบถามวิธีการจัดส่งเอกสาร เช่น ส่งทางไปรษณีย์ / ส่งทางอีเมล / ส่งทางโทรสาร

สรุปไทม์โลน์วันโอนเงิน ม.33 ม.39 และ ม.40 โครงการเยียวยาฯ

ตรวจสอบสิทธิ

ทบทวนสิทธิเยียวยา

เปิดช่องทบทวนสิทธิสำหรับผู้ไม่ได้รับสิทธิเยียวยา มาตรา 33, 39 และ 40  พลาดสิทธิในรอบแรก (29 จังหวัด)

  • สำหรับผู้ประกันตนที่เข้าเงื่อนไขรับเยียวยาตามมติครม. แต่พลาดสิทธิในรอบแรก (29จังหวัด)
  • สามารถยื่นขอทบทวนสิทธิได้ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 – วันที่ 31 ตุลาคม 2564

ขั้นตอนการขอยื่นทบทวนสิทธิ

    1. โหลดแบบฟอร์มขอทบทวนสิทธิผู้ประกันตน ได้ที่เว็บประกันสังคม : https://www.sso.go.th
    2. ปริ้นแบบฟอร์ม กรอกข้อมูลให้เรียบร้อย
    3.  แนบเอกสารประกอบตามที่ระบุในแบบฟอร์ม ได้แก่ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบเสร็จ สลิปชำระเงินสมทบ (ถ้ามี)
    4. นำแบบฟอร์มและเอกสารเย็บรวมกัน แล้วนำไปหย่อนกล่องที่สำนักงานประกันสังคมในพื้นที่ หรือส่งไปสำนักงานประกันสังคมในพื้นที่ทางไปรษณีย์แบบลงทะเบียน (ยึดวันประทับตามไปรษณีย์)
      **อย่าลืมระบุหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้