COVID-19, ข่าวสารกิจกรรม, ข่าวไวรัสโควิด-19, บทความพิเศษ
เริ่มวันที่ 20 กรกฎาคม2564
1. พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) 13 จังหวัด
พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด มี 13 จังหวัด
|
|
|
การปฏิบัติในพื้นที่
-
- ลดและจำกัดการเคลื่อนย้ายการเดินทาง
- ให้ประชาชนในเขตพื้นที่ควบคุมสูงและเข้มงวด เลี่ยง จำกัด หรืองดเว้นภารกิจที่ต้องเดินทางออกนอกเคหสถานหรือที่พำนักโดยไม่จำเป็น
- การเดินทางในบางกรณีที่จำเป็น เช่น เดินทางไปจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต อาหาร ยาหรือเวชภัณฑ์ การเดินทางเพื่อพบแพทย์ เพื่อเข้ารับบริการทางการแพทย์และสาธารณสุุข การรักษาพยาบาล การรับวัคซีนป้องกันโรค หรือมีความจำเป็นเพื่อปฏิบัติงานหรือการประกอบอาชีพที่ไม่สามารถปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งได้
- ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ โดยการสนับสนุนของกรุงเทพมหานคร กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษษย์ ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาสาสมัคร จิตอาสา ให้ความช่วยเหลือกระจายสิ่งของอุปโภคบริโภคที่จำเป็นแก่ประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
- จัดตั้งด่านตรวจเข้มแข็ง
- บนเส้นทางคมนาคมหลัก/รอง จุดเข้า-ออก โดยรอบพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 9 จังหวัดภาคกลาง และ 4 จังหวัดภาคใต้ ตลอด 24 ชม.
- เน้นการปฏิบัติเพื่อการคัดกรอง ชะลอหรือสกัดกั้น การเดินทางออกนอกเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เพื่อเดินทางไปยังพื้นที่อื่น
- เดินทางข้ามจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม ให้แสดงหลักฐานกับเจ้าหน้าที่ด่านตรวจ ดังนี้
- แสดงเอกสารรับรองที่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้อำนวยการเขต
- ถ้าไม่มีให้ลงทะเบียนการเดินทางข้ามพื้นที่ผ่านทางเว็บไซต์ “หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” https://covid-19.in.th เพื่อนำ QR code แสดงแก่เจ้าหน้าที่
- ให้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน ไทยชนะ ที่ด่านตรวจ
- กำหนดพื้นที่ห้ามออกนอกเคหสถานเพิ่มเติม
- ห้ามบุคคลใดในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (13 จังหวัด) ออกนอกเคหสถานในระหว่างเวลา 21.00 น. ถึง 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ต่อเนื่องเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วันนับแต่ข้อกำหนดนี้ใช้บังคับ
- ผู้ใดฝ่าฝืนข้อนี้ มีความผิด ต้องระวางโทษตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548
- ปิดสถานที่หรือกิจการที่มีความเสี่ยงต่อการควบคุม ป้องกันการแพร่ของโรคโควิด-19 อย่างน้อย 14 วัน
- การจำหน่ายอาหาร หรือเครื่องดื่ม ร้านอาหารจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้เปิดดำเนินการได้จนถึงเวลา 20.00 น. โดยห้ามการบริโภคในร้านและให้นำกลับไปบริโภคที่อื่นเท่านั้น
- ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่น ที่มีลักษณะคล้ายกัน ให้เปิดให้บริกาารได้เฉพาะแผนกซูเปอร์มาร์เก็ต แผนกยาและเวชภัณฑ์ พื้นที่ซึ่งจัดให้เป็นการให้บริการฉีดวัคซีนหรือบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขอื่นๆของภาครัฐ ให้เปิดดำเนินการได้ถึง 20.00 น.
- โรงแรม ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติ งดกิจกรรมจัดประชุม สัมมนาหรือจัดเลี้ยง
- ร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด ให้เปิดดำเนินการได้ถึง 20.00 น. โดยจำกัดเวลาสำหรับร้านสะดวกซื้อให้ปิดให้บริการในระหว่างเวลา 20.00 น. ถึง 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น
- โรงเรียน สถาบันการศึกษาหรือฝึกอบรม และสถานศึกษาต่างๆ ให้ปฏิบัติตามมาตรการที่ได้ประกาศไว้แล้วก่อนหน้านี้
- ผู้ว่าฯ กทม.หรือผู้ว่าฯ แต่ละจังหวัดพิจารณาสั่งปิดสถานที่/ประเภทกิจการที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด เพิ่มเติมดังนี้
- สนามกีฬาทุกประเภท (ประเภทในร่ม เช่น แบดมินตัน สนามฟุตซอล บาสเกตบอล วอลเลย์บอล/ประเภทกลางแจ้ง เช่น สนามกอล์ฟ สนามซ้อมกอล์ฟ สนามฟุตบอล สนามเทนนิส)
- สระน้ำเพื่อการเล่นกีฬา หรือกิจกรรมทางน้ำ เพื่อการสันทนาการ สระว่ายน้ำสาธารณะ หรือกิจการอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน
- ลานกีฬา
- ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ
- ศูนย์การเรียนรู้ หรือศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา อุทยานวิทยาศาสตร์ ศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม หรือหอศิลป์
- ห้องสมุดสาธารณะ ห้องสมุดชุมชน ห้องสมุดเอกชนและบ้านหนังสือ
- พิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์สถาน พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น รวมถึงพิพิธภัณฑ์ ในลักษณะเดียวกัน แหล่งประวัติศาสตร์ หรือโบราณสถาน
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และเด็กก่อนวัยเรียน
- ร้านเสริมสวย ร้านตัดผมหรือแต่งผม ร้านทำเล็บ หรือร้านสัก
- สวนสาธารณะ สวนพฤกษศาสตร์ต่าง ๆ
- สถานที่ที่เปิดดำเนินการได้ตามความจำเป็น
- โรงพยาบาล สถานพยาบาล คลินิกแพทย์รักษาโรค ร้านขายยา ร้านขายยาและเวชภัณฑ์
- ร้านค้าทั่วไป ร้านจำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ดอันจำเป็น ร้านจำหน่ายอาหารสัตว์
- ร้านจำหน่ายเครื่องมือช่าง และอุปกรณ์ก่อสร้าง
- โรงงาน
- ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกรรมการเงิน ธนาคาร ตู้เอทีเอ็ม
- ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ไปรษณีย์และพัสดุภัณฑ์
- สถานที่จำหน่ายแก๊สหุงต้ม เชื้อเพลิง ปั๊มน้ำมัน ปั๊มแก๊ส
- บริการส่งสินค้าและอาหารตามสั่ง (delivery online)
- สถานที่มีเหตุจำเป็นต้องเปิด ภายใต้มาตรการควบคุมโรคในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด
- สถานที่รับเลี้ยงเด็ก เฉพาะสถานที่รับเลี้ยงเด็กในโรงพยาบาล และที่มีการรับตัวไว้พักค้างคืนเป็นปกติธุระ
- สถานที่ดูแลผู้สูงอายุ เฉพาะที่มีการรับตัวไว้พักค้างคืนเป็นปกติธุระ
- ตลาดนัด เฉพาะส่วนที่ขายอาหารหรือวัตถุดิบเพื่อการบริโภค
- ห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 5 คน (ปฏิบัติตามข้อกำหนดฉบับที่ 28 )
- การขนส่งสาธารณะทุกประเภทระหว่างจังหวัดทั่วราชอาณาจักร
- จำกัดจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการไม่เกินร้อยละ 50 ของความจุผู้โดยสารสำหรับยานพาหนะแต่ละประเภท
- จัดให้มีการเว้นระยะห่างและปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่ทางราชกำหนดกำหนดอย่างเคร่งครัด **มีผลบังคับใช้วันที่ 21 ก.ค. 2564 เป็นต้นไป
- ลดและจำกัดการเคลื่อนย้ายการเดินทาง
2. พื้นควบคุมสูงสุด (สีแดง) 53 จังหวัด
พื้นที่ควบคุมสูงสุด มี 53 จังหวัด
|
|
|
|
การปฏิบัติในพื้นที่
-
- ห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 5 คน
- การขนส่งสาธารณะทุกประเภทระหว่างจังหวัดทั่วราชอาณาจักรให้เป็นไปตามแนวทางที่ ศปก.ศบค.กำหนด โดยจำกัดจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการไม่เกินร้อยละ 50 ของความจุผู้โดยสารสำหรับยานพาหนะแต่ละประเภท รวมทั้งจัดให้มีการเว้นระยะห่างและปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่ทางราชกำหนดกำหนดอย่างเคร่งครัด **มีผลบังคับใช้วันที่ 21 ก.ค. 2564 เป็นต้นไป
3. พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) 10 จังหวัด
พื้นที่ควบคุม มี 10 จังหวัด
|
|
|
การปฏิบัติในพื้นที่
- ห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 5 คน
- การขนส่งสาธารณะทุกประเภทระหว่างจังหวัดทั่วราชอาณาจักรให้เป็นไปตามแนวทางที่ ศปก.ศบค.กำหนด โดยจำกัดจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการไม่เกินร้อยละ 50 ของความจุผู้โดยสารสำหรับยานพาหนะแต่ละประเภท รวมทั้งจัดให้มีการเว้นระยะห่างและปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่ทางราชกำหนดกำหนดอย่างเคร่งครัด **มีผลบังคับใช้วันที่ 21 ก.ค. 2564 เป็นต้นไป
4. พื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) 1 จังหวัด
พื้นที่เฝ้าระวังสูง มี 1 จังหวัด
|
การปฏิบัติในพื้นที่
- ห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 5 คน
- การขนส่งสาธารณะทุกประเภทระหว่างจังหวัดทั่วราชอาณาจักรให้เป็นไปตามแนวทางที่ ศปก.ศบค.กำหนด โดยจำกัดจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการไม่เกินร้อยละ 50 ของความจุผู้โดยสารสำหรับยานพาหนะแต่ละประเภท รวมทั้งจัดให้มีการเว้นระยะห่างและปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่ทางราชกำหนดกำหนดอย่างเคร่งครัด **มีผลบังคับใช้วันที่ 21 ก.ค. 2564 เป็นต้นไป
ที่มา
- คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โควิด – ๑๙) ที่ ๑๐/๒๕๖๔ เรื่อง พื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม และพื้นที่เฝ้าระวังสูง ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘
- ด่วน! ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศคำสั่ง เพิ่มพื้นที่สีแดงเข้มเป็น13จังหวัด
- ราชกิจจาฯ ประกาศยกระดับเคอร์ฟิว พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด(สีแดงเข้ม)13 จังหวัด มีผล 20 ก.ค.
- https://www.facebook.com/informationcovid19/photos/a.106142991004034/367399414878389/
- https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/367373901547607
- https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/368210128130651
- https://www.facebook.com/informationcovid19/photos/a.106455480972785/369784601306537/
- https://www.facebook.com/informationcovid19/photos/a.106455480972785/369785851306412/
- https://www.facebook.com/informationcovid19/photos/a.106142991004034/369143151370682/
- https://www.facebook.com/informationcovid19/photos/a.106455480972785/368479688103695/
- https://www.facebook.com/informationcovid19/photos/a.106455480972785/368473244771006
Post Views: 99