ข่าวสารกิจกรรม, ข่าวไวรัสโควิด-19
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เตรียมทดสอบวัคซีนโควิดสัญชาติไทย “จุฬา-ใบยา” ในมนุษย์ เฟส 1 เริ่มกันยายน 2564
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและบริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด เตรียมเริ่มต้นทดสอบวัคซีนจุฬา-ใบยา ในมนุษย์ เฟสที่ 1 ช่วงเดือนกันยายน 2564 เบื้องต้นประมาณ 100 คน ในขนาดโดส 10 ไมโครกรัม 50 ไมโครกรัม และ 100 ไมโครกรัม คาดว่าในไตรมาส 3 ของปี 2565 สามารถผลิตวัคซีนป้องกันโควิด 19 ในประเทศเองได้ 1-5 ล้านโดสต่อเดือน หรือราว 60 ล้านโดสต่อปี
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข พร้อมคณะ ตรวจเยี่ยมโรงงานต้นแบบการผลิตวัคซีนและยาชีววัตถุด้วยพืช โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด เพื่อผลิตวัคซีนโควิด 19 ชนิดโปรตีนซับยูนิตจากใบยาสูบ
ทั้งนี้ วัคซีนจุฬาฯ-ใบยา เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ ก.พ. 63 ทดสอบในหนูทดลองและลิง พบว่าช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี สธ.โดยสถาบันวัคซีนแห่งชาติ จึงสนับสนุนงบ 160 ล้านบาท ให้แก่จุฬาฯและบริษัทฯ ปรับปรุงพัฒนาโรงงานต้นแบบ พร้อมรองรับการผลิตวัคซีนในขั้นต้น เริ่มตั้งแต่ เพาะเลี้ยงแบคทีเรียพาหะสารพันธุกรรมของโคโรนาไวรัส ปลูกถ่ายลงในใบยาสูบ เพาะพันธุ์เพิ่มจำนวน และเก็บเกี่ยวเพื่อสกัดโปรตีนสำหรับใช้ผลิตวัคซีน ก่อนนำส่งไปทำวัคซีนให้บริสุทธิ์ ที่บริษัท คินเจ่น ไบโอเทค จำกัด จากนั้นผสมและแบ่งบรรจุวัคซีนที่สถานเสาวภาต่อไป
วัคซีนจุฬา-ใบยาจะเริ่มต้นทดสอบในมนุษย์ เฟสที่ 1 ช่วงต้นเดือน ก.ย. เบื้องต้นประมาณ 100 คน ในขนาดโดส 10 ไมโครกรัม 50 ไมโครกรัม และ 100 ไมโครกรัม หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน คาดว่าในไตรมาส 3 ของปี 2565 สามารถผลิตวัคซีนป้องกันโควิด 19 ฝีมือคนไทยในประเทศเองได้มาก 1-5 ล้านโดสต่อเดือน หรือราว 60 ล้านโดสต่อปี
“วันนี้มาให้กำลังใจทีมไทยแลนด์ วิจัยพัฒนาวัคซีนสัญชาติไทยโดยบริษัทของคนไทย ที่สำคัญคือวัคซีนนี้สามารถปรับปรุงรองรับสายพันธุ์ใหม่ๆ ได้ทันที ขณะนี้กำลังดำเนินการใน 10 สายพันธุ์ หากสำเร็จ อนาคตอาจจะเหมือนวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่สามารถใส่หลายสายพันธุ์ลงไปในวัคซีนได้ ทำให้การป้องกันก็น่าจะสูงขึ้น” รมว.สาธารณสุข กล่าว
ที่มา : https://bit.ly/3iHjKYL
