ข่าวสารกิจกรรม, ข่าวไวรัสโควิด-19
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยผลวิจัยภูมิคุ้มกันสูตรสลับซิโนแวคเข็มแรก ตามด้วยแอสตร้าเซเนก้าเข็ม 2 ให้ระดับภูมิคุ้มกันที่มาก
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยผลวิจัยภูมิคุ้มกันสูตรสลับซิโนแวคเข็มแรก ตามด้วยแอสตร้าเซเนก้าเข็ม 2 ให้ระดับภูมิคุ้มกันที่มากและเร็วกว่าการฉีดด้วยแอสตร้าเซเนก้า 2 เข็มหลายเท่า
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่ากรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ทำการวิจัยวัคซีนสลับชนิด ต่างแพลตฟอร์ม ในอาสาสมัคร 125 ราย อายุระหว่าง 18-60 ปี จากพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นอาสาสมัครทั้งในส่วนกระทรวงสาธารณสุข และจากศิริราชพยาบาล โดยตรวจระดับภูมิคุ้มกันแต่ละสูตรเป็นฐานเปรียบเทียบ โดยสูตรวัคซีนซิโนแวค กับซิโนแวค ตรวจระดับภูมิคุ้มกันได้ 117 สูตรแอสตร้าเซนเนก้า กับแอสตร้าเซนเนก้า ภูมิคุ้มกันสูงขึ้นเป็น 207 ขณะที่สูตรสลับซิโนแวค กับแอสตร้าเซนเนก้า ภูมิคุ้มกันขึ้นเฉลี่ยที่ 716 แต่ไม่ใช่ทุกคน ขึ้นอยู่ที่ภูมิคุ้มกันของแต่ละคน ซึ่งภูมิฯ สูงขึ้นได้ตั้งแต่ 399-1,127
ส่วนกรณีบุคลากรทางการแพทย์ส่วนหนึ่ง ที่ฉีดบูสเตอร์ เข็ม 3 เป็นแอสตร้าเซเนก้า พบภูมิคุ้มกันขึ้นมีค่าเฉลี่ย 1,000 เศษ ซึ่งสามารถป้องกันเชื้อกลายพันธุ์ได้ แต่ยังไม่มีข้อมูลคนที่บูสเตอร์ด้วยวัคซีนไฟเซอร์ ซึ่งอนาคตต้องมีการตรวจประเมินต่อไป
ส่วนผลข้างเคียงกรณีการฉีดวัคซีนสูตรสลับ ซิโนแวคและแอสตร้า ไม่ต่างจากการฉีดวัควีนสูตรแอสตร้าเซเนก้า 2 เข็ม คือส่วนใหญ่มีไข้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ง่วงซึม ดังนั้นวัคซีนสูตรสลับชนิดซิโนแวค กับแอสตร้าเซนเนก้า ถือว่ามีความปลอดภัย และจากการตรวจภูมิคุ้มกันต่อเชื้อกลายพันธุ์ สายพันธุ์เดลตา ที่ระบาดมากสุดขณะนี้ ค่าเฉลี่ยสูตรเดิม ซิโนแวค กับซิโนแวค อยู่ที่ประมาณ 24 เศษๆ เกินเส้นจุดตัดมาตรฐาน
การสลับสูตรโดยคนฉีดแอสตร้าเซเนก้าเข็มแรก แต่มีอาการข้างเคียงบางประการจนต้องฉีดซิโนแวคเข็มที่ 2 ค่าที่ได้ ไม่ต่างจากซิโนแวค 2 เข็ม ค่าเฉลี่ยที่ 25 การสลับสูตรแบบนี้จึงไม่เพิ่มคุณค่า ส่วนกรณีการฉีดแอสตร้าเซเนก้า 2 เข็ม พบค่าเฉลี่ย 76 หมายความว่าสู้เชื้อเดลตาได้ขนาดเจือจางไป 76 เท่า ขณะที่สลับสูตรซิโนแวค กับแอสตร้าเซเนก้า พบค่าเฉลี่ยกว่า 78 ดังนั้นการฉีดวัคซีนสูตรสลับซิโนแวคตามด้วยแอสตร้าได้ระดับภูมิคุ้มกันที่สูงกว่า และเร็วกว่า เมื่อเทียบกับการฉีดแอสตร้าเซเนก้า 2 เข็ม
ที่มา : https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG210819144326953
