กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แจ้งเตือนประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์สภาพอากาศ ในช่วงวันที่ 23-26 กันยายน 2564 จะมีร่องมรสุมพาด และช่วงวันที่ 27-28 กันยายน 2564 ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคกลางตอนล่างและภาคใต้ตอนบน ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อาจจะส่งผลให้มีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบน ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัท ห้างร้าน ที่ประกอบกิจการบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาและประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อยด้านท้ายประตูระบายน้ำผักไห่ คลองโผงเผง คลองบางหลวง คลองบางบาล ให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และเตรียมขนย้ายสิ่งของขึ้นบนที่สูงหรือที่ปลอดภัย
วันที่ 24 กันยายน 2564 นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัด/ผู้อำนวยการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แจ้งเตือนประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์สภาพอากาศ ในช่วงวันที่ 23-26 กันยายน 2564 จะมีร่องมรสุมพาด และช่วงวันที่ 27-28 กันยายน ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคกลางตอนล่าง และภาคใต้ตอนบน ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อาจจะส่งผลให้มีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบน
ทั้งนี้ กรมชลประทานมีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบัน บริเวณตำบลบ้านกระทุ่ม ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา และตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 1 เมตร ในช่วงวันที่ 24 – 26 กันยายน นี้ หากมีประมาณน้ำหลากเพิ่มขึ้นที่จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที กรมชลประทานจะแจ้งให้ทราบ
ทั้งนี้ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัท ห้างร้าน ที่ประกอบกิจการบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา เช่น งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง และแพร้านอาหาร และพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อยด้านท้ายประตูระบายน้ำผักไห่ คลองโผงเผง คลองบางหลวง คลองบางบาล ให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และเตรียมขนย้ายสิ่งของขึ้นบนที่สูงหรือที่ปลอดภัย โดยเฉพาะพื้นที่จุดเสี่ยงและพื้นที่ที่ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ เตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ระดับน้ำที่จะเพิ่มสูงขึ้น พร้อมมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือประชาชน เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ รวมถึงระบบสื่อสารสำรอง รวมทั้งจัดชุดปฏิบัติการหน่วยเคลื่อนที่เร็ว เพื่อพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันที
ที่มา : https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG210924161042859