กระทรวงสาธารณสุข กำชับสถานพยาบาลเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมจากพายุโซนร้อน “คมปาซุ”

กระทรวงสาธารณสุข กำชับสถานพยาบาลเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมจากพายุโซนร้อน “คมปาซุ”

         กระทรวงสาธารณสุข กำชับสถานพยาบาล 1,576 แห่ง 23 จังหวัด เตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมจากพายุโซนร้อน “คมปาซุ” พร้อมขอให้ประเมินสถานการณ์และเฝ้าระวังต่อเนื่อง อาคารสถานที่และครุภัณฑ์ต่าง ๆ ให้ยกสูง เคลื่อนย้าย สำรองยา เวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้เพียงพอ และเตรียมจัดบริการทางการแพทย์ สถานที่สำรอง หรือจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเมื่อจำเป็น



         นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากที่ประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากพายุ พายุโซนร้อน “เตี่ยนหมู่” และ พายุ “ไลออนร็อก” ทำให้มีสถานบริการสาธารณสุขได้รับผลกระทบ 142 แห่ง เปิดบริการได้ปกติ 116 แห่ง เปิดบริการบางส่วน 17 แห่ง และปิดให้บริการ 9 แห่ง

         การดูแลด้านการแพทย์และสาธารณสุข ได้ส่งทีมปฏิบัติการด้านการแพทย์ 347 ทีม ดูแลประชาชนและผู้ประสบภัยรวม 413,094 ราย พบว่า กว่าครึ่งเป็นโรคน้ำกัดเท้า รองลงมาคือ อาการระบบผิวหนัง แพ้ ผื่นคัน และระบบกล้ามเนื้อและกระดูก ส่วนการประเมินสุขภาพจิต 61,985 ราย พบภาวะเครียดระดับมากขึ้นไป เสี่ยงภาวะซึมเศร้า และภาวะเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย มีการติดตามดูแลโดยทีมสุขภาพจิตแล้ว นอกจากนี้ ยังสนับสนุนยาและเวชภัณฑ์จากส่วนกลางไปเพิ่มเติมที่ จ.ตราดอีก 3,000 ชุด รวมสนับสนุนแล้ว 10 จังหวัด 11,900 ชุด

         ทั้งนี้ ประเทศไทยยังมีร่องมรสุมพาดผ่านเข้าสู่พายุโซนร้อน “คมปาซุ” ในอ่าวตังเกี๋ย และมีมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้มีฝนตกหนักมากบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ มีพื้นที่เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง และน้ำท่วมฉับพลันอีก 23 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น จันทบุรี ตราด นครราชสีมา นครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ศรีสะเกษ สิงห์บุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด สระบุรี ปทุมธานี บุรีรัมย์ มหาสารคาม ยโสธร กาฬสินธุ์ ระนอง สุรินทร์ พังงา และนครปฐม มีสถานบริการสาธารณสุขเสี่ยงได้รับผลกระทบ 1,576 แห่ง ขอให้ประเมินสถานการณ์และเฝ้าระวังต่อเนื่อง อาคารสถานที่และครุภัณฑ์ต่าง ๆ ให้ยกสูง เคลื่อนย้าย สำรองยา เวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้เพียงพอ และเตรียมจัดบริการทางการแพทย์ สถานที่สำรอง หรือจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเมื่อจำเป็น

 


ที่มา : https://bit.ly/3BJ6ydb