กรมทางหลวง รายงานสถานการณ์อุทกภัยบนทางหลวง วันที่ 24 ตุลาคม 2564

กรมทางหลวง รายงานสถานการณ์อุทกภัยบนทางหลวง วันที่ 24 ตุลาคม 2564

           กรมทางหลวง รายงานสถานการณ์อุทกภัยบนทางหลวงวันที่ 24 ตุลาคม 2564 พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ 12 จังหวัด 40 สายทาง 67 แห่งการจราจรผ่านไม่ได้ 19 แห่ง โดยพื้นที่น้ำท่วมสูงส่วนใหญ่เป็นจุดกลับรถใต้สะพานเนื่องจากปริมาณน้ำสะสมจากฝนตกต่อเนื่องทำให้เอ่อล้นท่วมผิวจราจร พร้อมเร่งระบายคืนการสัญจรให้ประชาชน


 

           นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กรมทางหลวง (ทล.) ได้ขานรับข้อสั่งการของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่มอบแนวทางแก้ไขให้หน่วยงานเร่งรัดสำรวจซ่อมแซมฟื้นฟูเส้นทางสัญจรที่ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์อุทกภัยเนื่องจากส่งผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชนในหลายพื้นที่ และกำชับให้ออกแบบสายทางโดยคำนึงถึงการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันน้ำท่วมก่อนช่วงฤดูฝนปี 2565 ให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้กำชับให้ติดตามการเตือนภัยของกรมอุตุนิยมวิทยาและศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอย่างใกล้ชิดเพื่อเตรียมพร้อมและเฝ้าระวังเพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างรวดเร็ว ทั่วถึง มีประสิทธิภาพเนื่องจากยังอยู่ในช่วงปลายฤดูฝนโดยภาพรวมหลายพื้นที่เริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง สามารถสัญจรได้ตามปกติ แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังบางพื้นที่เนื่องจากมีฝนตกต่อเนื่อง จึงมอบให้หน่วยงานเร่งระบายน้ำ สำหรับเส้นทางที่ยังไม่สามารถเปิดสัญจรได้ให้ติดตั้งป้ายเตือน หลักนำทาง ไฟกะพริบและป้ายแนะนำเส้นทางเลี่ยงเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน โดยพื้นที่ที่ยังคงมีระดับน้ำสูงส่วนใหญ่เป็นจุดกลับรถ เช่น จุดกลับรถใต้สะพานบ้านกุดกว้างระดับน้ำผิวทาง 200 เซนติเมตร บน ทล.2 ท่าพระ – ขอนแก่น และจุดอุโมงค์ท่าขอนยาง ระดับน้ำ 220 เซนติเมตร ทล.213 มหาสารคาม – หนองขอน เนื่องจากปริมาณน้ำสะสมจากฝนตกต่อเนื่องทำให้น้ำในแม่น้ำชีเอ่อล้นท่วมผิวจราจร จุดกลับรถบางศาลาบน ระดับน้ำ 135 เซนติเมตร ทล.32 อ่างทอง – ไชโย เนื่องจากคันกั้นน้ำจระเข้ร้องแม่น้ำเจ้าพระยาพังเนื่องจากน้ำไหลแรงเข้ามาบริเวณคลอง จุดกลับรถคลองกะท่อ ระดับน้ำ 165 เซนติเมตร ทล.32 นครหลวง – อ่างทอง และจุดกลับรถใต้สะพานสีกุก ระดับน้ำ 195 เซนติเมตร ทล.3263 อยุธยา – ไผ่กองดิน เนื่องจากปริมาณน้ำในแม่น้ำน้อยสะสมจำนวนมากจากฝนตกต่อเนื่องทำให้เอ่อล้นท่วมผิวจราจรบริเวณใต้สะพาน

           สำหรับสถานการณ์ประจำวันที่ 24 ตุลาคม 2564 เวลา 14.15 น. ทางหลวงถูกน้ำท่วม ดินสไลด์ และสะพานชำรุด จำนวน 12 จังหวัด 40 สายทาง 67 แห่ง ทั้งนี้การจราจรผ่านไม่ได้ 8 จังหวัด 19 แห่ง ดังนี้

  1. จังหวัดขอนแก่น (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง)
    • ทล.2 ท่าพระ – ขอนแก่น ช่วง กม. ที่ 329+913 (จุดกลับรถใต้สะพานกุดกว้าง) ระดับน้ำสูง 200 เซนติเมตร
  2. จังหวัดมหาสารคาม (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง)
    • ทล.213 มหาสารคาม – หนองขอน ช่วง กม. ที่ 5+530 (อุโมงค์ท่าขอนยาง) ระดับน้ำสูง 220 เซนติเมตร
  3. จังหวัดนครราชสีมา (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง)
    • ทล.202 ดอนตะหนิน – ตลาดไทร ช่วง กม. ที่ 93+611 ระดับน้ำสูง 10 – 30 เซนติเมตร
  4. จังหวัดนนทบุรี (การจราจรผ่านไม่ได้ 3 แห่ง)
    • ทล.302 สะพานพระนั่งเกล้า – ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม. ที่ 16+610 (จุดกลับรถใต้สะพานคลองบางไผ่เพื่อมุ่งหน้าแคราย) ระดับน้ำสูง 30 – 40 เซนติเมตร
    • ทล.302 สะพานพระนั่งเกล้า – ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม. ที่ 16+50 (จุดกลับรถใต้สะพานคลองบางแพรกเพื่อมุ่งหน้าถนนแคราย) ระดับน้ำสูง 20 – 25 เซนติเมตร
    • ทล.307 แยกสวนสมเด็จ – ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม. ที่ 16+950 (จุดกลับรถใต้สะพานนนทบุรี) ระดับน้ำสูง 75 เซนติเมตร
  5. จังหวัดอ่างทอง (การจราจรผ่านไม่ได้ 2 แห่ง)
    • ทล.32 อ่างทอง – ไชโย ช่วง กม. ที่ 57+500 (จุดกลับรถบางศาลา) ระดับน้ำสูง 135 เซนติเมตร
    • ทล.33 นาคู – ป่าโมก ช่วง กม. ที่ 36+000 – 36+200 (จุดกลับรถใต้สะพานฝั่งป่าโมก) ระดับน้ำสูง 20 เซนติเมตร
  6. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (การจราจรผ่านไม่ได้ 5 แห่ง)
    • ทล.32 นครหลวง – อ่างทอง ช่วง กม. ที่ 32+607 (จุดกลับรถคลองกะท่อ) ระดับน้ำสูง 165 เซนติเมตร
    • ทล.32 นครหลวง – อ่างทอง ช่วง กม. ที่ 33+200 (จุดกลับรถวัดค่าย) ระดับน้ำสูง 95 เซนติเมตร
    • ทล.3263 อยุธยา – ไผ่กองดิน ช่วง กม. ที่ 10+940 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 195 เซนติเมตร
    • ทล.3263 อยุธยา – ไผ่กองดิน ช่วง กม. ที่ 11+100 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 195 เซนติเมตร
    • ทล.3412 บางบาล – ผักไห่ ช่วง กม. ที่ 13+900 – 20+000 เป็นช่วง ๆ ระดับน้ำสูง 80 เซนติเมตร
  7. จังหวัดสุพรรณบุรี (การจราจรผ่านไม่ได้ 5 แห่ง)
    • ทล.33 สุพรรณบุรี – นาคู ช่วง กม. ที่ 9+886 (สะพานคลองทับน้ำ) ระดับน้ำสูง 100 เซนติเมตร
    • ทล.340 สาลี – สุพรรณบุรี ช่วง กม. ที่ 49+673 – 49+750 (สะพานสาลี) ระดับน้ำสูง 35 – 40 เซนติเมตร
    • ทล. 340 สาลี – สุพรรณบุรี ช่วง กม. ที่ 59+674 (สะพานศาลเจ้าแม่ทับทิม) ระดับน้ำสูง 180 เซนติเมตร
    • ทล.340 สาลี – สุพรรณบุรี ช่วง กม. ที่ 71+230 – 71+400 (ช่องทางคู่ขนานซ้ายขวาทาง) ระดับน้ำสูง 50 เซนติเมตร
    • ทล.3557 ถนนเข้าเมืองสุพรรณบุรี ช่วง กม. ที่ 0+700 – 0+726 (ด้านซ้ายทาง) ระดับน้ำสูง 45 เซนติเมตร
  8. จังหวัดนครปฐม (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง)
    • ทล.338 พุทธมณฑลสาย 4 – นครชัยศรี ช่วง กม. ที่ 24+800 – 25+500 ระดับน้ำสูง 50 เซนติเมตร

           ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางเดินทางด้วยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัย พร้อมขอให้ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด และหากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง โทร.1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1

 


ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/47332