รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รายงานสถานการณ์ยารักษาโควิด 19

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รายงานสถานการณ์ยารักษาโควิด 19

          รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รายงานสถานการณ์ยารักษาโควิด 19 หารือไฟเซอร์กรณีแพกซ์โลวิด สำหรับการเข้าถึงชุดตรวจ ATK องค์การเภสัชกรรมเตรียมเปิดจำหน่ายชุดตรวจโควิด 19 ผ่านเว็บไซต์ www.gpoplanet.com อีกครั้ง 12 พฤศจิกายน 2564 นี้ ในเวลา 08.00 น.



          วันที่ (11 พ.ย.64) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการจัดหายาสำหรับรักษาโควิด 19 ว่า ขณะนี้รัฐบาล ได้มีการพิจารณาในการเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้แล้ว ทั้งในส่วนของยาโมลนูพิราเวียร์และยาแพกซ์โลวิด โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 1.3 พันล้านบาท ซึ่งการจัดซื้อยาโมลนูพิราเวียร์ อยู่ภายใต้งบประมาณดังกล่าวดังกล่าวด้วย โดยจัดสรรงบประมาณให้กรมการแพทย์ จำนวน 500 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถขึ้นทะเบียนต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และนำมาใช้ได้ในช่วงธันวาคม 2564 หรือประมาณมกราคม 2565 นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังเตรียมหารือกรณียาแพกซ์โลวิดร่วมกับบริษัท ไฟเซอร์ ครั้งที่ 3 ในวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้ ยืนยันรัฐบาลจะพยายามจัดหายาที่มีคุณภาพสำหรับมารักษาผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศไทยให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งรองรับการเปิดประเทศให้เศรษฐกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้

          ทั้งนี้ จากผลการทดสอบยาโมลนูพิราเวียร์และยาแพกซ์โลวิด พบมีประสิทธิผลช่วยลดอาการรุนแรงจนต้องนอนโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตได้ผลดี ไม่ว่าจะเป็นไวรัสโควิดสายพันธุ์ไหนและยังไม่พบว่ามีอาการข้างเคียงรุนแรง โดยยาโมลนูพิราเวียร์ สามารถช่วยลดอาการรุนแรงจนต้องนอนโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตลง 50% ขณะที่ยาแพกซ์โลวิด ช่วยลดอาการรุนแรงจนต้องนอนโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตลง 89% ในส่วนของยาที่ใช้อยู่ปัจจุบัน สถานการณ์ยาคงเหลือ ณ วันที่ 4 พฤศจิกายน พบว่า ยาฟาวิพิราเวียร์ คงเหลือ 21 ล้านเม็ด และยาเรมเดซิเวียร์ คงเหลือ 7 หมื่นกว่าเม็ด เพียงพอต่อความจำเป็นในการรักษาผู้ป่วย

          สำหรับการเข้าถึงชุดตรวจ ATK องค์การเภสัชกรรมได้เปิดจำหน่ายชุดตรวจโควิด 19 คุณภาพ ภายใต้ “โครงการ ATK คุณภาพเพื่อสังคมไทย” ในราคาชุดละ 40 บาท เปิดช่องทางการจำหน่ายเพิ่มเติมในระบบออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ www.gpoplanet.com อีกครั้งในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 เปิดขายเวลา 08.00 น.

           “แม้จะมีรักษาโควิด 19 แต่สิ่งสำคัญที่สุดประชาชนทุกคนยังต้องปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข Universal Prevention หรือ การป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล เป็นการป้องกันตนเองขั้นสูงสุดตลอดเวลา ทั้งการสวมหน้ากาก ล้างมือ และเว้นระยะห่าง เพื่อลดการติดเชื้อและแพร่เชื้อ และให้ปลอดภัยจากโควิด 19 เป็นดีที่สุด” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

 


ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/48093