นายกรัฐมนตรี กำชับเร่งฉีดวัคซีนเชิงรุก พร้อมเชิญชวนประชาชนฉีดวัคซีนเข็ม 3 เร็วกว่าเดิม

นายกรัฐมนตรี กำชับเร่งฉีดวัคซีนเชิงรุก พร้อมเชิญชวนประชาชนฉีดวัคซีนเข็ม 3 เร็วกว่าเดิม

         นายกรัฐมนตรี เปิดเผยจากที่ประกาศให้วันที่ 7 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมาเป็นวันดีเดย์ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 พร้อมกันทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้กับประชาชนคนไทย 100 ล้านโดส ภายในปี 2564 ซึ่งเหลือเวลาอีก 14 วัน ในการเดินหน้าฉีดวัคซีนให้ครบ 100 ล้านโดส ขณะนี้ไทยฉีดวัคซีนสะสม ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 16 ธันวาคม 2564 รวม 98,975,997 โดส ใน 77 จังหวัด



         นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังจากพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ประกาศให้วันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมาเป็นดีเดย์ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดพร้อมกันทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้กับประชาชนคนไทย 100 ล้านโดส ภายในปี 2564 ซึ่งเหลือเวลาอีก 14 วัน ในการเดินหน้าฉีดวัคซีนให้ครบ 100 ล้านโดส ขณะนี้ไทยฉีดวัคซีนสะสม ตั้งแต่ 28 กุมภาพันธ์ – 16 ธันวาคม 2564 รวม 98,975,997 โดส ใน 77 จังหวัด

         นายกรัฐมนตรี กำชับทุกจังหวัดจัดบริการฉีดวัคซีนเชิงรุกทุกกลุ่ม ทั้งคนไทยและต่างชาติ เน้นกลุ่มเป้าหมายเข้าถึงยากและให้จัดทำแผนขอรับการสนับสนุนวัคซีนรายเดือนไปยังกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งให้เร่งฉีดวัคซีนเข็ม 3 กระตุ้นภูมิคุ้มกัน หลังโควิด 19 มีเชื้อกลายพันธุ์ที่สามารถแพร่ระบาดได้เร็วขึ้น จำเป็นต้องใช้ภูมิต้านทานสู้กับสายพันธุ์ใหม่ที่เกิดขึ้นเพื่อลดป่วยรุนแรง ลดการเสียชีวิตและเตรียมพร้อมรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโอมิครอน ซึ่งกำลังระบาดไปทั่วโลกในขณะนี้

         อย่างไรก็ตาม ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 มีแผนการบริหารจัดการวัคซีนโควิด 19 ภายในเดือนธันวาคม 2564 อย่างน้อยจำนวน 6.6 ล้านโดส และจะดำเนินการแผนการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นตามแนวทางใหม่ จึงอยากขอเชิญชวนประชาชนเข้ารับฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น หรือวัคซีนเข็ม 3 สำหรับผู้ที่ฉีดครบ 2 เข็ม ภายใน 2 – 3 เดือนข้างหน้า เพื่อให้คนไทยมีภูมิคุ้มกันสูงขึ้น โดยร่นระยะเวลาจากที่จะฉีดเข็ม 3 ห่างเข็ม 2 จาก 6 เดือน เหลือ 1-3 เดือน โดยประชาชนสามารถติดต่อสอบถามไปยังสถานพยาบาลที่ตนเองได้รับการฉีดเข็ม1 และเข็ม 2 เพื่อสอบถามข้อมูลและทำนัด เพื่อเข้ารีบการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นตามที่กำหนดได้

 


ที่มา : https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG211217104204297