พรปีใหม่ และ ส.ค.ส.พระราชทาน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานบัตรอวยพรปีใหม่ ประจำปีพุทธศักราช 2565
- ด้านหน้าของบัตรพระราชทานพรปีใหม่ มีตราประจำพระราชวงศ์จักรีอยู่กึ่งกลาง ด้านล่างเป็นตราพระปรมาภิไธย ว.ป.ร. และตราพระนามาภิไธย ส.ท.
- เมื่อเปิดบัตรพระราชทานพร
- ด้านขวามีพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงฉายกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
- ใต้พระบรมฉายาลักษณ์ระบุพระปรมาภิไธย “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” “สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
- ส่วนด้านซ้ายมีข้อความว่า พระราชทานพรปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๕ พร้อมทั้งทรงลงพระปรมาภิไธย และพระนามาภิไธย
![]() | ![]() |
ส.ค.ส. พระราชทานพรปีใหม่ พ.ศ. 2565 ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยภาพฝีพระหัตถ์พระราชทานปีนี้คือ “ปีเสือต้องขวนขวายและอดทน” โดยมีข้อความพระราชทานพรปีใหม่ ว่า
อันปีขาลนี่หรือคือปีเสือ ทำอะไรต้องไม่เบื่อรีบขวนขวาย
จะมีบททดสอบทั้งใจกาย อดทนไว้จะสบายกว่าใครใคร
ถึงโรคภัยไข้เจ็บยังมีอยู่ ถ้าเรารู้การป้องกันก็อยู่ได้
ใส่หน้ากากอยู่เสมอโรคห่างไกล มีน้ำใจอารีดียิ่งเอย
สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระราชทานบัตรอวยพร ส.ค.ส. เนื่องในวาระขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2565
สำหรับ ส.ค.ส. พระราชทาน มีตราประจำพระองค์สีทอง ด้านหน้าตราพระนามย่อสีทอง “จภ” ภายใต้จุลมงกุฎ ด้านในฝั่งซ้ายมีตราประจำพระองค์พร้อมข้อความ “สุขสันต์ วันปีใหม่ ๒๕๖๕ Season’s Greeting 2022” และลายพระหัตถ์พระนามสีทอง ส่วนด้านขวาเป็นพระรูป สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี
เนื่องในอภิลักขิตสมัยขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช ๒๕๖๕ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระคติธรรม ความว่า
“บัดนี้ ถึงอภิลักขิตสมัยขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช ๒๕๖๕ อันเป็นวาระเถลิงศก ซึ่งเป็นกาลที่ผู้คนต่างหวังจะได้รับพรมงคลกันทั่วหน้า ผู้ปรารถนาความสวัสดีโดยบางคน เข้าใจว่าต้องมีผู้ประสาทพรอันศักดิ์สิทธิ์ให้จึงจะเกิดความสวัสดีแก่ตน หากว่าแท้จริงแล้ว ‘พร’ ซึ่งหมายถึงสิ่งประเสริฐดีงามนั้น เป็นสภาวะที่เราทั้งหลาย สามารถสรรค์สร้างให้บังเกิดมีขึ้นได้ด้วยตนเอง เช่น ถ้าประสงค์ผลอันเลิศ หรือฐานะอันประเสริฐ ก็ย่อมต้องบำเพ็ญบุญกิริยาด้วยการ ‘ให้’ สิ่งอันเลิศ เพื่อเหตุต้นแห่งผลดี จะได้เริ่มบังเกิดขึ้นแก่ตัวท่านเองในทันที
การบริจาควัตถุปัจจัยแก่ผู้ประสบความทุกข์ยาก เป็นปรกติจริยาของคนไทยนับแต่โบราณกาล ดังประจักษ์ได้จากวิกฤตการณ์ใหญ่ที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองแต่ละครั้ง ล้วนบรรเทาได้เพราะ ‘การุณยธรรม’ ของเพื่อนไทย การให้ปันกันนี้เองย่อมก่อมิตรภาพและความกลมเกลียวในหมู่คณะ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาติไทยตลอดมา อย่างไรก็ตาม การให้ ยังสามารถเป็นไปโดยหลากหลายวิธี หาได้จำกัดอยู่เพียงที่พัสดุข้าวของเงินทองไม่ หากยังรวมไปถึงการแผ่ ‘อภัยทาน’ คือการให้ความไม่ผูกเวร ไม่ก่อภัย ไม่เบียดเบียน ไม่ริษยาอาฆาต และไม่ประทุษร้ายกันอีกด้วย การให้ในลักษณะนี้สำคัญยิ่งกว่าการให้จตุปัจจัยทั้งมวล เพราะล้วนตั้งต้นจากความสะอาดใสในจิตใจของตน อย่างชนิดที่ไม่ต้องลงทุนลงแรง ไม่ต้องเสียเวลา และไม่จำกัดฐานะ สามารถบำเพ็ญได้ในทุกขณะและในทุกสถาน ขอเพียงแผ่พรหมวิหาร มุ่งดี มุ่งเจริญ มองเพื่อนมนุษย์ด้วยเมตตาธรรมอย่างยุติธรรมเสมอหน้า ผู้กำลังคิดตั้งปณิธานทำความดีในปีใหม่ จึงพึงระลึกไว้เสมอว่า หากท่านมั่นในอุดมการณ์แห่ง ‘อภัย’ ประคับประคองจิตใจให้ถึงพร้อมด้วย ‘อวิหิงสา’ คือความไม่เบียดเบียนแล้ว บรรดาพรมงคลอันนำมาซึ่งความสุขในชีวิต ย่อมเกิดมีขึ้นโดยมิต้องเรียกร้องสิ่งประเสริฐอื่นใดจากภายนอก และพรนั้น ยังอาจเปลี่ยนแปลงศัตรูให้กลับกลายเป็นมิตร ดับเพลิงโกรธที่เผาผลาญชีวิต ให้กลับเป็นฉ่ำเย็นสนิทด้วยน้ำใจไมตรี สมดังพระพุทธภาษิตที่ว่า ‘ททํ มิตฺตานิ คนฺถติ’ แปลความว่า ‘ผู้ให้ย่อมผูกมิตรไว้ได้’ ทุกประการ
ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และคุณความดีที่ทุกท่านร่วมกันสร้างสรรค์ จงบันดาลดลความโสมนัสชุ่มชื่นพระราชหฤทัย ให้บังเกิดมีในสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้าทั้งสองพระองค์ ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ทั้งบันดาลให้สรรพสิริสวัสดิ์ และสันติสุขพลันมาสู่ประเทศชาติและประชาชนชาวไทย ให้เกิดภิญโญสโมสรด้วยความสุขเกษมศานต์ ตลอดพุทธศักราช ๒๕๖๕ โดยทั่วกัน เทอญ.”
การจัดงานปีใหม่ 2565
- จัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในช่วงระหว่างวันที่ 27 – 30 ธันวาคม 2564 ระหว่างเวลา 16.00 – 22.00 น. และ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 ระหว่างเวลา 16.00 – 00.30 น. ซึ่งจะมีการจัดงานใน 5 พื้นที่หลัก ได้แก่
- หอคำหลวง อุทยานราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่
- หน้าศาลากลาง จังหวัดนครราชสีมา
- หาดแสงจันทร์ จังหวัดระยอง
- วัดพระราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- หาดปลายแหลมสะพานหิน จังหวัดภูเก็ต
- และในพื้นที่อื่นๆ อีกรวม 44 จังหวัดทั่วประเทศ
ในแต่ละพื้นที่จะประกอบด้วยกิจกรรมการแสดงศิลปินวัฒนธรรมจากศิลปินพื้นบ้าน นักร้องในพื้นที่หรือศิลปินผู้มีชื่อเสียงจากต่างประเทศ รวมทั้งจะมีการจำหน่ายสินค้าและอาหารจากร้านอาหารพื้นถิ่น การประดับตกแต่งไฟ และการจุดพลุเฉลิมฉลองในช่วงกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งคาดว่าจะมีนักเที่ยวเที่ยวเดินทางมาเข้าร่วมงานกว่า 15,000 คน ตลอดการจัดงานในแต่ละพื้นที่
7 วันอันตราย ระหว่าง 29 ธ.ค.64 – 4 ม.ค.65
7 วันอันตราย เป็นช่วงที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนน จำนวนผู้เสียชีวิต และจำนวนผู้บาดเจ็บ (admit) เกิดมากที่สุดในช่วงเวลา 7 วัน ซึ่งสาเหตุเกิดจากเป็นช่วงที่ประชาชนใช้รถใช้ถนนมากที่สุดเนื่องจากตรงกับช่วงเทศกาลที่มีวันหยุดยาวอย่าง ปีใหม่ หรือ สงกรานต์
โครงการ “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย” ในช่วงเทศกาลปีใหม่
- ประขาชนสามารถนำรถยนต์และรถจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อเข้ารับบริการได้ฟรี ณ ศูนย์บริการของภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ รวมกว่า 2,000 แห่ง ที่มีป้ายประชาสัมพันธ์ “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย”
- โดยมีบริการตรวจเช็กสภาพรถและอุปกรณ์ส่วนควบเพื่อความปลอดภัยเบื้องต้น 20 รายการ เช่น การตรวจระบบเบรก สภาพยาง อุปกรณ์ปัดน้ำฝน ระดับน้ำมันเครื่องและความสกปรกของน้ำมันเครื่อง ระดับน้ำมันเบรกและน้ำมันคลัตช์ ความตึงของสายพาน แบตเตอรี่ และการทำงานของไฟส่องสว่าง ไฟสัญญาณต่างๆ เป็นต้น
แนะนำเส้นทางเลือกจากกรุงเทพฯสู่ภูมิภาคต่าง ๆ
- เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯไปรังสิต (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – จ.พระนครศรีอยุธยา – จ.อ่างทอง – จ.สิงห์บุรี (ทางหลวงหมายเลข 32 ถนนสายเอเชีย) – อ.มโนรมย์ (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครสวรรค์
- เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯไป จ.นนทบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340 บางบัวทอง – สุพรรณบุรี) –จ.สุพรรณบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340 สุพรรณบุรี – ชัยนาท) – จ.ชัยนาท (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) จากนั้นมุ่งหน้า สู่จังหวัดนครสวรรค์
- เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯไป รังสิต – อ.วังน้อย – จ.สระบุรี – จ.ลพบุรี (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – อ.ตากฟ้า (ทางหลวงหมายเลข 11) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดพิษณุโลก
- เส้นทางที่ 4 จากกรุงเทพฯไปรังสิต – ต่างระดับคลองหลวง (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – เชียงรากน้อย (ทางหลวงหมายเลข 3214) – ทางหลวงหมายเลข 347 จากนั้นมุ่งหน้าสู่ทางหลวงหมายเลข32 เข้าสู่ภาคเหนือ
- เส้นทางที่5 จากกรุงเทพฯไปวงแหวนตะวันออก (ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9) – ต่างระดับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร.) – อ.วังน้อย (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – ถนนโรจนะ (ทางหลวงหมายเลข 309) จากนั้นมุ่งหน้าสู่ทางหลวงหมายเลข 32 เข้าสู่ภาคเหนือ
- เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯไป จ.สระบุรี (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – ต.ม่วงค่อม (ทางหลวงหมายเลข 205) – อ.ท่าหลวง (ทางหลวงหมายเลข 2256) – อ.ด่านขุนทด (ทางหลวงหมายเลข 2148) – อ.ขามทะเลสอ (ทางหลวงหมายเลข 2068) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา
- เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯไป อ.วังน้อย (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – จ.สระบุรี – อ.ปากช่อง – อ.สีคิ้ว (ทางหลวงหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา
- เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯไป จ.นครนายก (ทางหลวงหมายเลข 305) – อ.บ้านนา (ทางหลวงหมายเลข 3051) – อ.แก่งคอย (ทางหลวงหมายเลข 3222) – อ.ปากช่อง (ทางหลวงหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา หรือจากอ.บ้านนาไร่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 33 มุ่งหน้าสู่อ.กบินทร์บุรีสู่อ.อรัญประเทศ
- เส้นทางที่ 4 จากกรุงเทพฯไป จ.ฉะเชิงเทรา (ทางหลวงหมายเลข 314 หรือ ทางหลวงหมายเลข 304) –
อ.พนมสารคาม – อ.กบินทร์บุรี – อ.วังน้ำเขียว – อ.ปักธงชัย (ทางหลวงหมายเลข 304) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา
- เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯไป จ.สมุทรสาคร – จ.สมุทรสงคราม (ทางหลวงหมายเลข 35) – แยกวังมะนาว – จ.เพชรบุรี (ทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
- เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯไป อ.สามพราน – อ.นครชัยศรี – จ.นครปฐม – จ.ราชบุรี – แยกวังมะนาว – จ.เพชรบุรี (ทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
- เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯไป ถนนบรมราชชนนี (ทางหลวงหมายเลข 338 ปิ่นเกล้า – นครชัยศรี) – อ.นครชัยศรี –จ.นครปฐม – จ.ราชบุรี – แยกวังมะนาว – จ.เพชรบุรี (ทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
- นอกจากนี้ กรมทางหลวงยังเตรียมเส้นทางเลี่ยงสำหรับการเลี่ยงใช้ ทล.35 หรือ ถนนพระราม2 โดยให้ใช้ ถนนเพชรเกษม เข้าถนนเศรษฐกิจแล้วเข้าสู่ถนนพระราม 2 ที่ทางแยกต่างระดับสมุทรสาคร หรือจากถนนกาญจนาภิเษก ใช้ถนนเอกชัย – บางบอน เข้าถนนพระราม 2 ที่กม. 21 (บริเวณมหาชัยเมืองใหม่) หรือ ใช้ถนนเพชรเกษม ผ่านอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เพื่อเข้าสู่จังหวัดภาคใต้ต่อไป
เส้นทางเลี่ยงการจราจรถนนกัลปพฤกษ์ ถนนราชพฤกษ์ และถนนนครอินทร์
1. เส้นทางเลี่ยงถนน ทล.9 โดยเริ่มจากถนน ทล.9 กม. ที่ 20+600 (จุดที่ 1) เลี้ยวขวาเข้าถนนทางหลวงชนบทสาย กท.1001 (ถนนกัลปพฤกษ์) เดินทางต่อเป็นระยะทาง 7.65 กิโลเมตร จนถึง กม. ที่ 4+000 (จุดที่ 2) เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนทางหลวงชนบทสาย นบ.3021 (ถนนราชพฤกษ์) เดินทางต่อไปเป็นระยะทาง 9.5 กิโลเมตร จนถึง กม. ที่ 16+500 (จุดที่ 3) เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนทางหลวงชนบทสาย นบ.1020 (ถนนนครอินทร์) กม. ที่ 7+600 เดินทางต่อไปเป็นระยะทาง 8 กิโลเมตร (จุดที่ 6) บรรจบกับถนน ทล.306 เพื่อเดินทางเข้าสู่ถนนติวานนท์ต่อไป
2. เส้นทางเลี่ยงถนน ทล.9 และ ทล.306 เริ่มจากถนน ทล.9 กม. ที่ 20+600 (จุดที่ 1) เลี้ยวขวาเข้าถนนทางหลวงชนบทสาย กท.1001 (ถนนกัลปพฤกษ์) เดินทางต่อเป็นระยะทาง 7.65 กิโลเมตร จนถึง กม. ที่ 4+650 (จุดที่ 2) เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนทางหลวงชนบทสาย นบ.3021 (ถนนราชพฤกษ์) เดินทางต่อไปเป็นระยะทาง 18 กิโลเมตร จนถึง กม. ที่ 28+000 (จุดที่ 4) เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนทางหลวงชนบทสาย นบ.3030 (ถนนชัยพฤกษ์) เดินทางต่อไปเป็นระยะทาง 7 กิโลเมตร (จุดที่ 7) บรรจบกับถนน ทล.304 เพื่อเดินทางเข้าสู่ถนนแจ้งวัฒนะต่อไป
3. เส้นทางเลี่ยงถนน ทล.9 และ ทล.345 เริ่มจากถนน ทล.9 กม. ที่ 20+600 (จุดที่ 1) เลี้ยวขวาเข้าถนนทางหลวงชนบทสาย กท.1001 (ถนนกัลปพฤกษ์) เดินทางต่อเป็นระยะทาง 7.65 กิโลเมตร จนถึง กม. ที่ 4+650 (จุดที่ 2) เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนทางหลวงชนบทสาย นบ.3021 (ถนนราชพฤกษ์) เดินทางต่อไปเป็นระยะทาง 37 กิโลเมตร บรรจบกับถนน ทล.346 กม. ที่ 14+120 (จุดที่ 5) เลี้ยวขวาเพื่อเดินทางเข้าสู่จังหวัดปทุมธานีต่อไป
เส้นทางเลี่ยงการจราจรจังหวัดสระบุรี ไปจังหวัดปราจีนบุรี
4. เส้นทางเลี่ยงถนน ทล.2 (ถนนมิตรภาพ) และ ทล.304 เริ่มจากถนน ทล.2 กม. ที่ 36+000 (จุดที่ 1) เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนทางหลวงชนบทสาย นม.1016 เดินทางต่อไปเป็นระยะทาง 27 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนน ทล.2090 กม. ที่ 20+340 (จุดที่ 2) เดินทางต่อเป็นระยะทาง 2.9 กิโลเมตร จนถึง กม. ที่ 23+240 (จุดที่ 3) เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนทางหลวงชนบท นม.3052 เดินทางต่อไปเป็นระยะทาง 70 กิโลเมตร บรรจบกับถนน ทล.304 กม. ที่ 55+000 (จุดที่ 4) แล้วเลี้ยวขวาเพื่อมุ่งสู่อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี
เส้นทางเลี่ยงการจราจรจังหวัดสิงห์บุรี ไปจังหวัดชัยนาท
5. เส้นทางเลี่ยงถนน ทล.32 เริ่มจากถนน ทล.32 กม. ที่ 87+800 (จุดที่ 1) เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนน ทล.369 เดินทางต่อเป็นระยะทาง 4 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนน ทล.3030 กม. ที่ 1+000 (จุดที่ 2) เดินทางต่อไปเป็นระยะทาง 9.8 กิโลเมตร บรรจบกับถนนทางหลวงชนบทสาย สห.4035 (จุดที่ 3) เดินทางต่อไปเป็นระยะทาง 7.3 กิโลเมตร บรรจบกับถนนทางหลวงชนบทสาย สห.5040 (จุดที่ 4) เดินทางต่อไปเป็นระยะทาง 4.6 กิโลเมตร บรรจบกับถนนทางหลวงชนบทสาย ชน.4050 (จุดที่ 5) เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนน ทล.3183 กม. ที่ 3+730 (จุดที่ 6) เดินทางต่อไปเป็นระยะทาง 1.6 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนน ทล.340 กม. ที่ 160+610 (จุดที่ 7) เพื่อเดินทางเข้าสู่จังหวัดชัยนาท
เส้นทางเลี่ยงการจราจรจังหวัดสระบุรี
6. เส้นทางเลี่ยงถนน ทล.1 (ถนนพหลโยธิน) เริ่มจากถนน ทล.1 กม. ที่ 80+000 (จุดที่ 1) ใช้เส้นทางคู่ขนานไปบรรจบกับถนน ทล.3226 กม. ที่ 83+800 (จุดที่ 2) เดินทางต่อไปเป็นระยะทาง 1.5 กิโลเมตร บรรจบกับถนนทางหลวงชนบทสาย สบ.4051 (จุดที่ 3) เดินทางต่อไปเป็นระยะทาง 3 กิโลเมตร บรรจบกับถนนทางหลวงชนบทสาย สบ.3021 (จุดที่ 4) เดินทางต่อไปเป็นระยะทาง 19 กิโลเมตร วิ่งตรงผ่านไฟแดง (จุดที่ 5 และ 6) บรรจบกับถนน ทล.362 กม. ที่ 3+290 (จุดที่ 7) แล้วเลี้ยวซ้ายมุ่งสู่จังหวัดลพบุรีและจังหวัดเพชรบูรณ์ต่อไป
เส้นทางเลี่ยงการจราจรจังหวัดนครราชสีมา
7. เส้นทางเลี่ยงถนน ทล.2 (ถนนมิตรภาพ) เริ่มจากถนน ทล.2 กม. ที่ 102+135 (จุดที่ 1) เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนน ทล.201 เดินทางต่อไปเป็นระยะทาง 41 กิโลเมตร จนถึง กม. ที่ 41+000 (จุดที่ 2) เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนน ทล.2148 เดินทางต่อไปเป็นระยะทาง 3.4 กิโลเมตร จนถึง กม. ที่ 3+400 (จุดที่ 3) เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนทางหลวงชนบทสาย นม.4008 เดินทางต่อไปเป็นระยะทาง 23.1 กิโลเมตร บรรจบกับถนน ทล.2369 (จุดที่ 4) เดินทางต่อไปเป็นระยะทาง 30.8 กิโลเมตร จนถึง กม. ที่ 30+800 (จุดที่ 5) เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนน ทล.2246 เดินทางต่อไปเป็นระยะทาง 65.5 กิโลเมตร บรรจบกับถนน ทล.2 กม. ที่ 257+650 (จุดที่ 6) เลี้ยวซ้ายเพื่อเดินทางมุ่งสู่จังหวัดขอนแก่น
เส้นทางเลี่ยงการจราจรสมุทรสงคราม ไปจังหวัดเพชรบุรี
8. เส้นทางเลี่ยงถนน ทล.4 เริ่มจากถนน ทล.35 กม. ที่ 73+070 (จุดที่ 1) เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนทางหลวงชนบท สาย สส.2021 เดินทางต่อไปเป็นระยะทาง 23.7 กิโลเมตร จนถึง กม. ที่ 23+700 เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนน ทล.3176 (จุดที่ 2) เดินทางต่อไปเป็นระยะทาง 12.6 กิโลเมตร เพื่อเข้าสู่จังหวัดเพชรบุรี (จุดที่ 3) และสามารถเลี่ยงการจราจรจากจังหวัดเพชรบุรีไปยังอำเภอชะอำ โดยเริ่มจากถนนทางหลวงชนบทสาย สส.2021 (จุดที่ 2) เดินทางต่อไปเป็นระยะทาง 36.3 กิโลเมตร จนถึง กม. ที่ 60+000 เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนน ทล.3187 (จุดที่ 4) เดินทางต่อไปเป็นระยะทาง 18.5 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนน ทล.4 กม. ที่ 169+070 (จุดที่ 5) เพื่อมุ่งสู่อำเภอชะอำ
การยกเลิกค่าผ่านทาง หรือโดยสารฟรี
- ยกเว้นการจัดเก็บค่าผ่านทางพิเศษในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2564 เวลา 00.01 นาฬิกา ถึงวันที่ 3 มกราคม 2565 เวลา 24.00 นาฬิกา
- ทางพิเศษบูรพาวิถี (ทางพิเศษสายบางนา-ชลบุรี ทางยกระดับด้านทิศใต้สนามบินสุวรรณภูมิเชื่อมทางพิเศษบูรพาวิถีและทางเชื่อมต่อทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี – สุขสวัสดิ์)
- ทางพิเศษบูรพาวิถี และทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี – สุขสวัสดิ์)
- ทางพิเศษสายเชื่อมระหว่างถนนวงแหวนอุตสาหกรรมกับทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี – สุขสวัสดิ์)
ยกเว้นค่าธรรมเนียมผ่านทางบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองของกรมทางหลวง (ทล.) ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 30 ธันวาคม 2564 ถึง เวลา 24.00 น. ของวันที่ 3 มกราคม 2565 รวม 5 วัน ดังนี้
- ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 กรุงเทพ – ชลบุรี – พัทยา – มาบตาพุด
- ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 บางปะอิน – บางพลี
- ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 พระประแดง – บางขุนเทียน
- ท่าเรือคลองแสนแสบ หยุดให้บริการช่วงปีใหม่ วันที่ 31 ธ.ค. 64-3 ม.ค. 65 ตามประกาศวันหยุดรัฐบาล
จัดเดินรถให้บริการฟรี งานสวดมนต์ข้ามปี เทศกาลวันขึ้นปีใหม่ 65 ตั้งแต่เวลา 16.00 น. ของวันที่ 31 ธ.ค.64 ถึง 02.00 น. ของวันที่ 1 ม.ค.65 จำนวน 4 เส้นทาง ประกอบด้วย
- เส้นทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร
- เส้นทางวงเวียนใหญ่-วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร
- เส้นทางอนุสาวรีย์ชัยฯ-วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร
- เส้นทางเดอะมอลล์บางแค-วัดไร่ขิง
- บขส.ลดราคาค่าโดยสาร 10% ทุกเส้นทาง
- สำหรับผู้โดยสารที่จองตั๋วผ่านช่องทางแอพพลิเคชั่น อีทิคเก็ต และ เว็บไซต์ https://tcl99web.transport.co.th/home
- เพื่อใช้เดินทางตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.64 – 20 ม.ค.65
- วันที่ 29 ธ.ค.64
- แจกหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ 600 ชุด พร้อมของที่ระลึกกว่า 1,000 ชิ้น ให้แก่ผู้โดยสารที่ใช้บริการ ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2
- วันที่ 30 ธ.ค.64
- แจกวัตถุมงคล เหรียญพุทธคมนาคม จำนวน 99 เหรียญ ให้แก่ผู้โดยสารที่ใช้บริการ ที่สถานีขนส่งหมอชิต 2
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
- ยกเว้นอัตราค่าบริการจอดรถยนต์ ณ ลานจอดรถยนต์ระยะยาว โซน C ซึ่งรองรับรถยนต์ได้จำนวน 718 คัน ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. 2564 จนถึงวันที่ 4 ม.ค. 2565 รวม 5 วัน
- จัดรถ Shuttle Bus บริการภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไปยังอาคารต่างๆ ตลอด 24 ชม.
ท่าอากาศยานภูเก็ต
- ยกเว้นอัตราค่าบริการจอดรถยนต์ ณ อาคาร X-Terminal ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค. 2564 จนถึงวันที่ 4 ม.ค. 2565
รถไฟฟ้า MRT
- MRT สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) และสายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง)
- ขยายเวลาเปิดให้บริการข้ามปี ตั้งแต่เวลา 06.00 น. วันที่ 31 ธ.ค.64 ถึงเวลา 02.00 น. วันที่ 1 ม.ค.65
- ขยายเวลาให้บริการอาคารจอดและลานจอดรถ MRT ทั้ง 2 สาย (สีน้ำเงิน-สีม่วง)
- โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต
- เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 05.00 น. วันที่ 31 ธ.ค.64 ถึงเวลา 03.00 น. วันที่ 1 ม.ค.65
รถไฟชานเมืองสายสีแดง
- ขยายเวลาให้บริการเดินรถไฟชานเมืองสายสีแดง วันที่ 31 ธ.ค.64 จนถึงเวลา 02.00 น. วันที่ 1 ม.ค.65 จัดกิจกรรมมอบของขวัญให้ประชาชน ณ สถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และ ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน
- ในวันขึ้นปีใหม่ 1 ม.ค.65 เวลา 06.30 น. จะมี Influencers (Net Idol) มาเสิร์ฟอาหารเช้า ชา กาแฟ แซนด์วิช และ เวลา 08.30 น. ร่วมฟังเพลงสวัสดีปีใหม่ในรูปแบบเพลงสุนทราภรณ์ โดย BNK48 CGM48
- การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จัดขบวนรถพิเศษ 12 ขบวน ทั้งเที่ยวไปและเที่ยวกลับ เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงปีใหม่ เริ่มวันที่ 30 ธ.ค.64-5 ม.ค.65 ดังนี้
- เที่ยวไปส่ง สถานีกลางบางซื่อ-ศิลาอาสน์ 1 เที่ยว, สถานีกลางบางซื่อ-อุบลราชธานี 2 เที่ยว, สถานีกลางบางซื่อ-อุดรธานี 1 เที่ยว, สถานีกลางบางซื่อ-เชียงใหม่ 2 เที่ยว
- ส่วนเที่ยวรับกลับ ศิลาอาสน์-สถานีกลางบางซื่อ 1 เที่ยว, อุบลราชธานี-สถานีกลางบางซื่อ 2 เที่ยว, อุดรธานี-สถานีกลางบางซื่อ 1 เที่ยว และ เชียงใหม่-สถานีกลางบางซื่อ 2 เที่ยว
ของขวัญปีใหม่จากหน่วยงานภาครัฐ
- ครม. มอบของขวัญ 6 มาตรการ การเงินการคลัง ส่งความสุข กระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่
- ครม. เห็นชอบของขวัญปีใหม่ 2565 เพื่อแรงงานทั้งในและนอกระบบ
- กรมทางหลวง อำนวยความสะดวกและปลอดภัยช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565
- กระทรวงแรงงาน มอบของขวัญปีใหม่ ภายใต้เคมเปญ “แรงงานอุ่นใจ ของขวัญปีใหม่ 2565 กระทรวงแรงงาน”
- สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล มอบเป็นของขวัญปีใหม่ “โครงการสลาก 80”
- กระทรวงศึกษาธิการ พร้อมมอบ 6 โครงการ เป็นของขวัญปีใหม่
- ธนาคารอาคารสงเคราะห์ มอบของขวัญปีใหม่ 2565
- ธนาคารออมสิน มอบของขวัญปีใหม่ 2565 กู้ดีมีวินัย รับ 500 บาท
- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือนภัยประชาชน 10 ข้อ ช่วงเทศกาลปีใหม่
- กระทรวงอุตสาหกรรม เตรียมมอบของขวัญปีใหม่ 4 กล่อง ส่งต่อความห่วงใยจากนายกฯ
- กรมทางหลวง เปิดจองพื้นที่กางเต็นท์ทั่วประเทศ 38 แห่ง เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในช่วง ฤดูหนาวและเทศกาลปีใหม่
- กรมการขนส่งทางบก มอบของขวัญปีใหม่ 2565 ส่งตรงถึงผู้ใช้รถใช้ถนนทั่วประเทศ