ข่าวสารกิจกรรม, ข่าวไวรัสโควิด-19
ศบค. รายงานกลุ่มเสี่ยง และกลุ่มเปราะบางที่ยังไม่รับวัคซีน เข็มแรกใน 7 จังหวัด
โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 รายงานกลุ่มเสี่ยง และกลุ่มเปราะบางที่ยังไม่รับวัคซีน เข็มแรกใน 7 จังหวัด ขณะที่การรับนักท่องเที่ยวแบบTest and Go จะเริ่มลงทะเบียนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 นี้
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด 19) หรือ ศบค. เปิดเผยว่า ผลการฉีดวัคซีน covid 19 ในประเทศไทยวันนี้ 115,053,572 โด๊ส เป็นวัคซีนเข็มที่ 1 ร้อยละ 75.2 เข็มที่ 2 ร้อยละ 69.9 เข็มที่ 3 ร้อยละ 20.3 โดยกลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อยังคงเป็นกลุ่มเปราะบางที่ไม่ได้รับวัคซีน โดยจังหวัดที่ได้รับวัคซีน ร้อยละ 50-59 อยู่ที่ จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี แม่ฮ่องสอน ตาก ลพบุรี ราชบุรี และพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว ที่จังหวัดกาญจนบุรี
ส่วนกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 ต่ำกว่าร้อยละ 60 ได้แก่ นครปฐม ปัตตานี นครสวรรค์ สระแก้ว และนนทบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว/ ขณะที่จังหวัดที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 ต่ำที่สุด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน นราธิวาส ปัตตานี ตาก ยะลา กาญจนบุรี ลพบุรี บึงกาฬ หนองบัวลำภู และสกลนคร จึงขอเชิญชวนกลุ่มเหล่านี้มาฉีดวัคซีนเร็วที่สุด
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า แผนการเปิดรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร รูปแบบ Test and Go จะเริ่มลงทะเบียนใหม่ได้ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 โดยปรับการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR เป็น 2 ครั้ง คือ วันแรก และวันที่ 5 ที่เดินทางมาถึง โดยจะต้องจองโรงแรมทั้ง 2 ครั้ง ระหว่างนั้นหากผลเป็นลบ สามารถเดินทางไปไหนก็ได้ ส่วนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาแบบ sandbox ก็ยังคงอยู่ เพื่อเป็นระบบสำรองไว้กรณี ระบบ test and go มีการปรับปรุง
ที่ประชุม EOC กระทรวงสาธารณสุข อย่างน้อยมีการพูดคุยว่า อยากให้นักท่องเที่ยวเข้ามาได้อย่างถูกต้อง ซึ่งในช่วงเดือนมกราคม ที่ผ่านมาพบว่า มีผู้ฝ่าฝืนข้อกำหนดของ ศบค. ถึง 22 ราย ส่วนใหญ่จะเป็นการทำตัวไม่พบหลังพบว่าติดเชื้อ และไม่ปรากฏตัวเพื่อตรวจ RT-PCR วันที่ 5 ที่เดินทางมาถึง และไม่รอผลตรวจ โดย ผอ.ศบค. สั่งการไปยัง ผอ.ศปก.ศบค. ประสานไปยังศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) ให้ดูแลเรื่องนี้อย่างเข้มงวด โดยให้ดำเนินคดีอย่างเต็มที่ ตามหาที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ตามมาตรา 34(6) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 รวมทั้งกรณีไม่สวมหน้ากากอนามัยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถปรับได้ ครั้งที่ 1 ไม่เกิน 1,000 บาท ครั้งที่ 2 มากกว่า 1,000 บาท แต่ไม่เกิน 10,000 บาท ครั้งที่ 3 เป็นต้นไปมากกว่า 10,000 บาท แต่ไม่เกิน 20,000 บาท จึงคาดหวังว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาจะปฏิบัติตามข้อกำหนดของไทย
ที่ประชุม ศปก.ศบค. ได้มีการหารือถึงการตรวจหาเชื้อ Covid19 หากประชาชนประสงค์ที่จะตรวจเพื่อนำไปประกอบการแสดงหลักฐานด้าน ATK ภาครัฐ หรือโรงพยาบาลจะต้องดำเนินการในราคาต้นทุนให้ / ให้ สปสช. พิจารณาดำเนินการจัดหาให้ / ต้องมีจุดจำหน่ายซื้อขายได้อย่างง่าย มีจุดจำหน่ายทั่วประเทศ
นพ.ทวีศิลป์ ฝากเตือนว่า ขณะนี้ ระบบ Thailand Pass มีการใช้อีเมลปลอมขอข้อมูลส่วนบุคคล ขอนักท่องเที่ยวอย่าหลงเชื่อ จะต้องตรวจสอบให้ดี อย่าสแกน หรือให้ข้อมูลใดๆ
ที่มา : https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220131145205474
