กรุงเทพมหานคร เร่งเพิ่มพื้นที่สีเขียวย่านใจกลางเมือง พัฒนาเมือง พัฒนาพื้นที่สาธารณะให้มีคุณภาพ
กรุงเทพมหานคร เร่งเพิ่มพื้นที่สีเขียวย่านใจกลางเมือง พัฒนาเมือง พัฒนาพื้นที่สาธารณะให้มีคุณภาพ โดยจากการสำรวจสภาพปัจจุบันของสวนลุมพินี พบว่า อาคาร สถานที่และองค์ประกอบต่างๆ ภายในสวน รวมถึงระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ มีสภาพชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ไม่สามารถตอบสนองกับการใช้งานตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไปได้อย่างเต็มที่ ภายหลังการปรับปรุงสวนลุมพินีแล้วเสร็จ คาดว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์มากมายต่อชาวกรุงเทพฯ ทั้งการเป็นพื้นที่สาธารณะที่มีคุณภาพ เป็นแหล่งกิจกรรมอย่างครบวงจร เป็นปอดขนาดใหญ่ใจกลางเมือง และยังสามารถแก้ปัญหาของเมืองกรุงได้อย่างรอบด้านอีกด้วย
นายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า สำนักสิ่งแวดล้อม ตระหนักถึงความสำคัญของสวนลุมพินี ซึ่งเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ กลางใจเมือง และตั้งอยู่ในกลุ่มเขตกรุงเทพใต้ ซึ่งที่มีพื้นที่สีเขียวประเภทสวนสาธารณะและสวนหย่อมต่อประชากรน้อยที่สุดในกลุ่มเขตทั้งหมด 6 กลุ่มเขต ประกอบกับในปี พ.ศ. 2568 สวนลุมพินีจะมีวาระครบรอบ 100 ปี จึงเป็นช่วงเวลาเหมาะสมในการปรับปรุงและพัฒนาสวนลุมพินีเพื่อยกระดับสวนลุมพินีให้เป็นสวนสาธารณะระดับมหานครแห่งอนาคต ส่งเสริมศักยภาพของพื้นที่ให้สามารถตอบสนองกับการพัฒนาของเมืองและวิถีชีวิตในโลกยุคใหม่
“สวนลุมพินี” เป็นสวนสาธารณะแห่งแรกของประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานให้เป็น “สวนสาธารณะ” สำหรับประชาชน เปิดให้บริการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2468 มีขนาดพื้นที่ 360 ไร่ ตั้งอยู่ย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD:Central Business District) ของกรุงเทพมหานคร ล้อมรอบด้วยอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า โรงแรม คอนโดมิเนียม และสถานที่สำคัญต่างๆ แต่ละวันมีประชาชนเข้าใช้บริการเป็นจำนวนมาก
จากการสำรวจสภาพปัจจุบันของสวนลุมพินี พบว่า อาคาร สถานที่และองค์ประกอบต่างๆ ภายในสวน รวมถึงระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ มีสภาพชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ไม่สามารถตอบสนองกับการใช้งานตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไปได้อย่างเต็มที่
ภายหลังการปรับปรุงสวนลุมพินีแล้วเสร็จ คาดว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์มากมายต่อชาวกรุงเทพฯ ทั้งการเป็นพื้นที่สาธารณะที่มีคุณภาพ เป็นแหล่งกิจกรรมอย่างครบวงจร เป็นปอดขนาดใหญ่ใจกลางเมือง และยังสามารถแก้ปัญหาของเมืองกรุงได้อย่างรอบด้านอีกด้วย
ที่มา : https://bit.ly/36MueDa