การรถไฟแห่งประเทศไทย เดินหน้าภารกิจ MISSION ZERO รถไฟห่วงใย ปลอดภัยทุกเส้นทาง

การรถไฟแห่งประเทศไทย เดินหน้าภารกิจ MISSION ZERO รถไฟห่วงใย ปลอดภัยทุกเส้นทาง

           การรถไฟแห่งประเทศไทย เดินหน้าภารกิจ MISSION ZERO รถไฟห่วงใย ปลอดภัยทุกเส้นทาง โดยลงพื้นที่รณรงค์ให้ความรู้ชุมชน ขับขี่ยานพาหนะผ่านทางเสมอระดับทางรถไฟ – รถยนต์อย่างปลอดภัย เพื่อลดอุบัติเหตุให้เหลือศูนย์ ซึ่งเป็นกิจกรรมในการลงพื้นที่รณรงค์ให้ความรู้ชุมชน ผู้ขับขี่ยานพาหนะผ่านทางเสมอระดับทางรถไฟ – รถยนต์ เพื่อลดอุบัติเหตุพร้อมแจกจ่ายผลผลิตโครงการต้นแบบสถานี/ซุ้มสวยงาม พืชผักกินได้ บรรเทาภาระค่าครองชีพแก่ประชาชน สร้างความปลอดภัย ในการใช้รถใช้ถนน พร้อมแจกจ่ายผลผลิตโครงการต้นแบบสถานี/ซุ้มสวยงาม พืชผักกินได้ บรรเทาภาระค่าครองชีพแก่ประชาชน



           นายศิริพงศ์ พฤทธิพันธุ์ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการซ่อมบำรุงรถจักรและล้อเลื่อน การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม MISSION ZERO รถไฟห่วงใย ปลอดภัยทุกเส้นทาง ซึ่งเป็นกิจกรรมในการลงพื้นที่รณรงค์ให้ความรู้ชุมชน ผู้ขับขี่ยานพาหนะผ่านทางเสมอระดับทางรถไฟ – รถยนต์ เพื่อลดอุบัติเหตุ พร้อมแจกจ่ายผลผลิตโครงการต้นแบบสถานี/ซุ้มสวยงาม พืชผักกินได้ บรรเทาภาระค่าครองชีพแก่ประชาชน ตามนโยบายของนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่า รฟท. โดยมอบนโยบายดำเนินโครงการรณรงค์สร้างความปลอดภัย ในการใช้รถใช้ถนน เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุให้เหลือศูนย์นั้น

           รฟท. เดินหน้าภารกิจ MISSION ZERO รถไฟห่วงใย ปลอดภัยทุกเส้นทาง เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างการรถไฟฯ กับชุมชน ในการให้ความรู้เกี่ยวกับการขับขี่ยานพาหนะผ่านบริเวณจุดตัดทางรถไฟอย่างถูกต้อง ตลอดจนปลูกฝังจิตสำนึกในการใช้เส้นทางอย่างระมัดระวัง

           ทั้งนี้ ในภารกิจ MISSION ZERO รถไฟห่วงใย ปลอดภัยทุกเส้นทาง ได้เพิ่มความเข้มข้นในการรณรงค์ลดอุบัติเหตุของผู้ขับขี่ยานพาหนะผ่านจุดตัดทางรถไฟทั่วประเทศ โดยกำหนดให้สถานีรถไฟเป็นศูนย์กลางในการประสานงาน ให้ความรู้แก่เครือข่ายชุมชน โรงเรียน หน่วยงานท้องถิ่น ให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสัญลักษณ์จราจรบริเวณจุดตัดทางรถไฟฯ ประกอบด้วย กิจกรรมให้ความรู้ด้านกฎหมายโดยผู้เชี่ยวชาญของ รฟท. การจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับสัญลักษณ์จราจรบริเวณจุดตัดรถไฟ การลงพื้นที่รณรงค์ ให้ความรู้ตราสัญลักษณ์บริเวณทางรถไฟ ตลอดจนมอบสัญลักษณ์ภารกิจส่งต่อความห่วงใย ไปยังประชาชนในชุมชน

           ปัจจุบันโครงข่ายทางรถไฟทั่วประเทศ มีจุดตัดเสมอระดับทางรถไฟและรถยนต์อยู่ 2,457 จุด แบ่งเป็น ทางตัดที่มีป้ายจราจรเตือน 984 แห่ง ทางตัดที่มีคานกั้นถนน (รวมคานกั้นอัตโนมัติ) 410 แห่ง ทางตัดที่มีไฟเตือน ไม่มีคานกั้นถนน 259 แห่ง ทางตัดที่มีสะพานข้าม (Overpass) 144 แห่ง ทางตัดที่มีอุโมงค์ลอด (Underpass) 117 แห่ง ทางตัดผ่านของเอกชน 5 แห่ง และทางลักผ่าน (ผิดกฎหมาย) 539 แห่ง ดังนั้น จึงจำเป็นต้องรณรงค์ ให้ความรู้เพื่อลดอุบัติเหตุของผู้ขับขี่บริเวณจุดตัดทางรถไฟอย่างต่อเนื่อง

โดยมีคำแนะนำ 4 ข้อ ดังนี้

  1. หยุดรถให้ห่างจากทางรถไฟไม่น้อยกว่า 5 เมตร ไม่ว่าจะมีเครื่องหมายหรือเสียงสัญญาณระวังรถไฟหรือไม่ก็ตาม ต้องรอให้แน่ใจว่าไม่มีรถไฟวิ่งผ่านหรือรถไฟวิ่งผ่านไปแล้ว จึงจะขับรถผ่านไปได้
  2. ห้ามขับรถแซงขึ้นหน้ารถอื่นภายในระยะ 30 เมตร ก่อนถึงทางเดินรถที่ตัดข้ามทางรถไฟ
  3. หากต้องการจอดรถ ต้องจอดรถในระยะไม่ต่ำกว่า 15 เมตรก่อนถึงทางรถไฟ
  4. หากเห็นป้ายสัญลักษณ์ ได้แก่ ป้ายหยุด ป้ายเตือนรูปกากบาท“ระวังรถไฟ” ป้ายทรงสีเหลี่ยมขนมเปียกปูนสีอำพันมีเครื่องจักรไอน้ำและรั้วกั้น ให้ชะลอความเร็ว และดูให้แน่ใจว่าไม่มีรถไฟแล่นผ่านมา

           ในโอกาสนี้ นอกจาก รฟท. จะเข้าไปส่งเสริมสร้างความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนแล้ว ยังได้ดำเนินกิจกรรมสานสัมพันธ์ร่วมกับชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียงสถานีและทางรถไฟ โดยนำผลผลิตทางการเกษตร พืชผัก สมุนไพรที่ได้จากโครงการต้นแบบสถานี/ซุ้มสวยงาม พืชผักกินได้ นำไปแจกจ่ายฟรีแก่ประชาชน ณ ซุ้มเครื่องกั้นถนนผ่านเสมอระดับทางรถไฟ-รถยนต์ สถานีศิลาอาสน์ (ด้านเหนือ) อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อช่วยลดค่าครองชีพ และบรรเทาความเดือดร้อน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ให้แก่ประชาชน

           สำหรับผู้ที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขับขี่พาหนะผ่านจุดตัดทางรถไฟ ติดต่อได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย



ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/56132