กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อัปเดตสถานการณ์โอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4/BA.5 กทม. – ตจว.

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อัปเดตสถานการณ์โอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4/BA.5 กทม. – ตจว.

            กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยสถานการณ์โอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4/BA.5 ระบุในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สุ่มตรวจ 570 คน พบ BA.4/BA.5 280 คน มาจากต่างประเทศ 29 คน กลุ่มอื่นๆ ในประเทศ 251 คน ใน กทม.พบสัดส่วนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด 72.3% ส่วนในภูมิภาค ค่อยๆ เพิ่มขึ้นเป็น 34.7% โดย BA.4 BA.5 กำลังแซงสายพันธุ์อื่น

  • สำหรับสัดส่วนผู้ป่วยจากสายพันธุ์ย่อย BA.4/BA.5
    • กทม. อาการไม่รุนแรง ประมาณ 71.95%, ผู้ป่วยอาการรุนแรง (ปอดอักเสบ ใส่ท่อช่วยหายใจ หรือเสียชีวิต) ประมาณ 77%
    • ต่างจังหวัด อาการไม่รุนแรง ประมาณ 33.01%, ผู้ป่วยอาการรุนแรงหรือเสียชีวิต ประมาณ 44.67%
    • จากข้อมูล สำหรับประเทศไทย BA.4/BA.5 เบื้องต้นน่าจะรุนแรงกว่า BA.2
    • สถานการณ์โลก จากองค์การอนามัย (WHO) พบ BA.5 สัดส่วนเพิ่มมากขึ้น ใน 83 ประเทศ (เพิ่มเป็น 52% จากเดิม 37%) BA.4 ทรงตัว ยังไม่ให้น้ำหนักอาการรุนแรง แต่แพร่เร็วกว่า และมีผลในแง่หลบหลีกภูมิคุ้มกัน

             ทั้งนี้ ข้อมูลจากการสุ่มตัวอย่าง BA.4/BA.5 มีแนวโน้มพบมากขึ้นและชุกชุมใน กทม. และพบเชื้อในผู้ป่วยอาการรุนแรงมากกว่าผู้ป่วยอาการทั่วไป (ยังต้องเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจเพิ่มเติม ในผู้ป่วยที่มีอาการหนัก เพื่อยืนยันข้อมูลให้ได้มากขึ้น)

             อย่างไรก็ตาม มาตรการป้องกันส่วนบุคคล สวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง และการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ยังมีความจำเป็น เพื่อรับมือกับเชื้อ



          นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยสถานการณ์โอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4/BA.5 ระบุ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สุ่มตรวจ 570 คน พบ BA.4/BA.5 280 คน มาจากต่างประเทศ 29 คน กลุ่มอื่นๆ ในประเทศ 251 คน ใน กทม.พบสัดส่วนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด 72.3% ส่วนในภูมิภาค ค่อยๆ เพิ่มขึ้นเป็น 34.7% โดย BA.4 BA.5 กำลังแซงสายพันธุ์อื่น

สำหรับสัดส่วนผู้ป่วยจากสายพันธุ์ย่อย BA.4/BA.5

  • กทม.อาการไม่รุนแรง ประมาณ 71.95%, ผู้ป่วยอาการรุนแรง (ปอดอักเสบ ใส่ท่อช่วยหายใจ หรือเสียชีวิต) ประมาณ 77%
  • ต่างจังหวัด อาการไม่รุนแรง ประมาณ 33.01%, ผู้ป่วยอาการรุนแรงหรือเสียชีวิต ประมาณ 44.67%
  • จากข้อมูล สำหรับประเทศไทย BA.4/BA.5 เบื้องต้นน่าจะรุนแรงกว่า BA.2
  • สถานการณ์โลก จากองค์การอนามัย (WHO) พบ BA.5 สัดส่วนเพิ่มมากขึ้น ใน 83 ประเทศ (เพิ่มเป็น 52% จากเดิม 37%) BA.4 ทรงตัว ยังไม่ให้น้ำหนักอาการรุนแรง แต่แพร่เร็วกว่า และมีผลในแง่หลบหลีกภูมิคุ้มกัน

          ข้อมูลจากการสุ่มตัวอย่าง BA.4/BA.5 มีแนวโน้มพบมากขึ้นและชุกชุมใน กทม. และพบเชื้อในผู้ป่วยอาการรุนแรงมากกว่าผู้ป่วยอาการทั่วไป (ยังต้องเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจเพิ่มเติม ในผู้ป่วยที่มีอาการหนัก เพื่อยืนยันข้อมูลให้ได้มากขึ้น) อย่างไรก็ตาม มาตรการป้องกันส่วนบุคคล สวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง และการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ยังมีความจำเป็น เพื่อรับมือกับเชื้อ



ที่มา : https://bit.ly/3ORraGB