นายกรัฐมนตรี ขอความร่วมมือประชาชนเฝ้าสังเกตอาการตนเองอย่างใกล้ชิดหากพบอาการน่าสงสัยให้ตรวจ ATK ก่อนเข้าทำงาน

นายกรัฐมนตรี ขอความร่วมมือประชาชนเฝ้าสังเกตอาการตนเองอย่างใกล้ชิดหากพบอาการน่าสงสัยให้ตรวจ ATK ก่อนเข้าทำงาน

         นายกรัฐมนตรี ขอความร่วมมือประชาชนหลังเดินทางกลับจากการไปท่องเที่ยวและทำบุญตามสถานที่ต่าง ๆ หรือเดินทางข้ามจังหวัด ในช่วงวันหยุดยาว ปฏิบัติตนตามคำแนะนำด้านสาธารณสุข สังเกตอาการตนเองอย่างใกล้ชิด หากพบอาการสงสัยน่าจะติดเชื้อ เช่น ไอ เจ็บคอ มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ มีน้ำมูก ปวดศรีษะหายใจลำบาก ขอให้ตรวจ ATK ก่อนกลับเข้าทำงาน



         วันนี้ (17 กรกฏาคม 2565) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้รับทราบรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ในไทย อาจมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ขอความร่วมมือประชาชนหลังเดินทางกลับจากการไปท่องเที่ยวและทำบุญตามสถานที่ต่าง ๆ หรือเดินทางข้ามจังหวัด ในช่วงวันหยุดยาว ปฏิบัติตนตามคำแนะนำด้านสาธารณสุข สังเกตอาการตนเองอย่างใกล้ชิด หากพบอาการสงสัยน่าจะติดเชื้อ เช่น ไอ เจ็บคอ มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ มีน้ำมูก ปวดศรีษะหายใจลำบาก ขอให้ตรวจ ATK ก่อนกลับเข้าทำงาน หากเป็นผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด -19 ขอให้กักตัวเองอยู่ที่พักหลีกเลี่ยงการพบปะ รวมกลุ่มคนจำนวนมาก หากมีความจำเป็นจริงๆ ต้องออกจากบ้าน เช่น การเดินทางไปโรงพยาบาลขอให้สวมหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า หนึ่งในมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดที่ดีที่สุด คือ ทุกคนต้องช่วยลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อและรับเชื้อ เพื่อช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงและไม่เกิดเป็นระลอกใหญ่ขึ้นมาอีก

         “หากตรวจ ATK แล้วผลเป็นบวกว่าติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มที่มีอาการไม่มากหรือกลุ่มสีเขียวให้เข้ารักษาที่แผนกผู้ป่วยนอกที่หน่วยบริการประจําตามสิทธิ หรือหน่วยบริการปฐมภูมิในพื้นที่ตามนโยบาย 30 บาท รักษาทุกที่ ซึ่งจะได้รับการดูแลรักษาตามแนวทาง “เจอ แจก จบ” โดยให้กักตัว 5 วัน แบบ Home Isolation และอีก 5 วัน ให้สังเกตอาการ ซึ่งสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยต้องสวมหน้ากากอนามัยป้องกันเมื่อออกจากบ้าน และเมื่อกลับเข้าทำงาน สำหรับผู้เป็นกลุ่มเสี่ยงสูง ให้แจ้งหัวหน้างาน และปฏิบัติตามมาตรการของหน่วยงานที่กำหนดไว้” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว



ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/56925