รัฐบาล ย้ำ “วัคซีนเข็มกระตุ้น จำเป็น” เสริมสร้างภูมิคุ้มกันตนเองและครอบครัว

รัฐบาล ย้ำ “วัคซีนเข็มกระตุ้น จำเป็น” เสริมสร้างภูมิคุ้มกันตนเองและครอบครัว

         รัฐบาล ย้ำ “วัคซีนเข็มกระตุ้น จำเป็น” เสริมสร้างภูมิคุ้มกันตนเองและครอบครัว ลดป่วยหนัก-ตาย-เกิด Long COVID ได้


 

         นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในรายการรัฐบาลเล่าเรื่อง กับทีมนารีสโมสร ว่าสถานการณ์โควิด 19 ขณะนี้ มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่ยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มอาการที่ไม่รุนแรงสามารถรักษาแบบรับยาแล้วกลับไปรักษาตัวที่บ้านได้ เป็นผลจากประชาชนไปฉีดวัคซีน จึงขอย้ำว่าผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น ให้รีบไปฉีด เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตนเองและคนในครอบครัว

         นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกำชับ ว่าจะต้องมียารักษาให้เพียงพอ ล่าสุดการประชุมคณะรัฐมนตรียังได้อนุมัติงบประมาณ 3,995 ล้านบาท จัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ในการรักษาโควิด 19 ในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน เป็นการซื้อยาฟาวิพิราเวียร์ ยาโมลนูพิราเวียร์ เฉลี่ย 27 ล้านเม็ดต่อเดือน ยาเรมดิซิเวีย 57,000 ขวดต่อเดือน บางส่วนจะเป็นการแบ่งจ่ายค่าเวชภัณฑ์ในช่วงเดือนมีนาคม-มิถุนายน ที่ผ่านมา และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ยังได้ออกประกาศให้ผู้ขึ้นทะเบียนยาการต้านไวรัสโควิด 19 กับ อย.แล้ว สามารถจำหน่ายยาต้านไวรัสโควิด 19 ไปยังคลินิกเวชกรรมได้ จากเดิมที่อนุญาตให้ยากับโรงพยาบาลรัฐและโรงพยาบาลเอกชนเท่านั้น และอนุญาตให้คลินิกสามารถจัดหายาจากบริษัทเอกชนที่นำเข้าและขึ้นทะเบียนกับ อย. ได้ด้วย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้กำชับโดยเคร่งครัดว่าแม้จะกระจายยาไปสู่คลินิกเวชกรรมแล้ว แต่ผู้ที่จะสั่งจ่ายยาต้องเป็นแพทย์ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ที่ได้พิจารณาถึงอาการและความเหมาะสมในการรับยาของผู้ป่วยเป็นสำคัญ

 


ที่มา : https://bit.ly/3PtLoXc