นายกรัฐมนตรี สั่งเฝ้าระวัง – ติดตามเชื้อกลายพันธุ์โควิด 19

นายกรัฐมนตรี สั่งเฝ้าระวัง – ติดตามเชื้อกลายพันธุ์โควิด 19

         นายกรัฐมนตรี สั่งเฝ้าระวัง – ติดตามเชื้อกลายพันธุ์โควิด 19 พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานความร่วมมือกับผู้ให้บริการส่งอาหารของแพลตฟอร์มต่าง ๆ ต้องปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยทั้งผู้ส่งสินค้าและผู้รับบริการ รวมไปถึงให้ ศบค. จังหวัด/กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ บริหารจัดการและกำจัดขยะติดเชื้อและหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วอย่างเหมาะสมมีประสิทธิภาพ และรณรงค์ให้ประชาชนมีการแยกขยะติดเชื้อและหน้ากากอนามัยออกจากขยะทั่วไป เพื่อป้องกันการเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาวด้วย



         นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ซึ่งพบการระบาดในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แม้จะมีการแพร่ระบาดได้ง่าย แต่จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และจำนวนผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และจำนวนผู้เสียชีวิต มีแนวโน้มคงที่ ขณะที่จำนวนผู้ป่วยที่มีอาการปอดอักเสบมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ยังอยู่ในสถานการณ์ที่คาดการณ์ไว้ จึงมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข เฝ้าระวังและติดตามเชื้อกลายพันธุ์ของโรคโควิด 19 สายพันธุ์ต่าง ๆ เพื่อให้สามารถรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวตามแผนที่วางไว้ เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลเกี่ยวกับผลสำเร็จในการดำเนินการต่าง ๆ ในการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ของประเทศไทยซึ่งได้รับความชื่นชมและยอมรับจากต่างประเทศ เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั้งในและต่างประเทศได้รับทราบอย่างกว้างขวาง รวมถึงการขอความร่วมมือให้ประชาชนทุกภาคส่วน และผู้ประกอบการ ร้านค้า ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า สถานบริการต่าง ๆ ยังต้องเข้มข้นในการปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention และมาตรการ COVID – Free Setting ต่อเนื่องเคร่งครัด เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19

         นายกรัฐมนตรี กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานความร่วมมือกับผู้ให้บริการส่งอาหารของแพลตฟอร์มต่าง ๆ ต้องปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยทั้งผู้ส่งสินค้าและผู้รับบริการ รวมไปถึงให้ ศบค. จังหวัด/กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ บริหารจัดการและกำจัดขยะติดเชื้อและหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วอย่างเหมาะสมมีประสิทธิภาพ และรณรงค์ให้ประชาชนมีการแยกขยะติดเชื้อและหน้ากากอนามัยออกจากขยะทั่วไป เพื่อป้องกันการเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาวด้วย

 


ที่มา : https://bit.ly/3Ad1DBu