กระทรวงมหาดไทย กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่อย่างใกล้ชิด หากพื้นที่ใดยังคงมีน้ำท่วมขังเเละยังไม่ได้รับการช่วยเหลือขอให้เร่งเเจ้งข้อมูลมายัง สายด่วนนิรภัย 1784 หรือที่ Line Official Account ปภ.รับเเจ้งเหตุ หรือช่องทางของศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทยที่ สายด่วน 1567
เมื่อวันที่่ 13 ก.ย. 65 เวลา 21.00 น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึง กรณี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทน นายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ความสำคัญขับเคลื่อน 13 มาตรการรับมือฤดูฝนทั่วประเทศ โดยขณะนี้ กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการไปยังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแล้ว พร้อมกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่อย่างใกล้ชิด
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้สั่งการให้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เป็นหน่วยงานขับเคลื่อนการดำเนินงานของศูนย์ฯ ร่วมกับกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บก.ป.ภ.ช.) ซึ่งมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ โดยได้เน้นย้ำให้กระทรวงมหาดไทยเร่งรัดดำเนินการตามแนวทางที่กำหนดไว้ เพื่อรับมือสถานการณ์น้ำ เพื่อป้องกันและเเก้ไขปัญหาอุทกภัยที่กำลังเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ โดยให้มีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบ และสำหรับในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่กำลังประสบปัญหาการระบายน้ำเนื่องจากขยะ สิ่งปฏิกูล รวมถึงวัชพืชกีดขวางเส้นทางการระบายน้ำ ประกอบกับปริมาณน้ำในคลองมีปริมาณมาก ทำให้การระบายน้ำลงสู่เเม่น้ำเจ้าพระยาเป็นไปได้ช้าลงนั้น พลเอก ประวิตรฯ ได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน อาทิ กองทัพ และกรมชลประทาน เร่งระดมสรรพกำลัง เครื่องมือ และยานพาหนะ เพื่อให้ความช่วยเหลือ และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัยโดยเร็ว นอกจากนี้ ในพื้นที่กรุงเทพมหานครได้สั่งการให้องค์การขนส่งมวลชน (ขสมก.) เพิ่มความถี่การเดินรถสาธารณะ ตามเส้นทางน้ำท่วมขังให้มากขึ้น พร้อมกับแจ้งให้ตำรวจ ลงพื้นที่อำนวยความสะดวกการจราจรโดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน เพื่ออำนวยความสะดวกและลดความเดือดร้อนในการสัญจรของประชาชนแล้ว
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้มีโทรสารในราชการกองอำนวยการป้องกันเเละบรรเทาสาธารณภัยกลาง ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด โดยมีสาระสำคัญให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดดำเนินการ ดังนี้
1. บูรณาการหน่วยงาน จัดกำลังเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกลสาธารณภัย ออกปฏิบัติการ ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยโดยทันที โดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือประชาชนด้านการดำรงชีพ การแจกจ่ายอาหารปรุงสุก การแจกจ่ายถุงยังชีพตามวงรอบอย่างต่อเนื่อง สำหรับพื้นที่ที่มีสถานการณ์น้ำท่วมขังเป็นเวลานาน ให้จัดชุดปฏิบัติการของฝ่ายปกครองร่วมกับเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์และสาธารณสุขให้บริการประชาชน รวมทั้งการจัดกำลังดูแลรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกด้านการสัญจร
2. เร่งรัดการระบายน้ำในพื้นที่ประสบภัยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ประสบภัยซ้ำ หรือเกิดน้ำท่วมขังต่อเนื่องเป็นเวลานาน พร้อมทั้งบูรณาการหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ หน่วยทหาร ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต หน่วยงานด้านคมนาคม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาสาสมัคร องค์กรสาธารณกุศล สนับสนุนการแก้ไขปัญหา อาทิ การเปิดทางน้ำ การเร่งผลักดันน้ำ การสูบน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง เป็นต้น
3. การบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ในพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วให้จัดชุดปฏิบัติการฉีดล้างทำความสะอาดบ้านเรือนประชาชน และพื้นที่สาธารณะ โดยเชิญชวนประชาชนจิตอาสาร่วมดำเนินการ พร้อมทั้งให้เร่งสำรวจผลกระทบความเสียหาย ในด้านต่าง ๆ อาทิ ด้านชีวิต ที่อยู่อาศัย พื้นที่การเกษตร ตลอดจนให้ความช่วยเหลือ เยียวยา ตามกฎหมาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ ที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว
4. สำหรับจังหวัดที่ยังไม่มีสถานการณ์อุทกภัย ให้เตรียมความพร้อมตามแนวทาง/มาตรการดังกล่าวข้างต้น เพื่อให้การให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที
ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเน้นย้ำว่า การดำเนินงานในระยะเร่งด่วนจะเร่งกำจัดขยะและวัชพืชที่ขวางทางน้ำ พร้อมนำเครื่องสูบน้ำ เรือผลักดันน้ำและเครื่องมือช่าง เข้าไปช่วยเปิดทางระบายน้ำ ผลักดันน้ำจากคูคลองลงแม่น้ำเจ้าพระยาให้เร็วขึ้น เพื่อให้พื้นที่น้ำท่วมขังกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ในส่วนของเจ้าหน้าที่ผู้เผชิญเหตุ ได้รับรายงานว่ามีการดำเนินงานอย่างเต็มที่ ซึ่งพี่น้องประชาชนต้องช่วยกันแจ้งข้อมูลมายังกระทรวงมหาดไทย หากพื้นที่ใดยังคงมีน้ำท่วมขังเเละยังไม่ได้รับการช่วยเหลือขอให้เร่งเเจ้งข้อมูลมายัง สายด่วนนิรภัย 1784 หรือที่ Line Official Account ปภ.รับเเจ้งเหตุ หรือช่องทางของศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทยที่ สายด่วน 1567
ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/59229