ตำรวจไซเบอร์ แนะนำวิธีป้องกันถูกแฮกข้อมูลส่วนบุคคล

ตำรวจไซเบอร์ แนะนำวิธีป้องกันถูกแฮกข้อมูลส่วนบุคคล

         โฆษกกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชอาญากรรมทางเทคโนโลยี เตือนภัยมิจฉาชีพแฮกข้อมูลบัญชีดิจิทัลแพลตฟอร์มส่วนบุคคล หรือหลอกลวงเพื่อขโมยข้อมูลส่วนบุคคล (Identity Theft) อาทิข้อมูลจาก บัญชี YouTube บัญชี Facebook รวมถึงข้อมูลบัตรประชาชน บัตรเครดิต เพื่อไปใช้หาประโยชน์ในทางมิชอบ ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จึงขอฝากไปถึงผู้ใช้บัญชีดิจิทัลแพลตฟอร์มต่าง ๆ หมั่นตรวจสอบการตั้งค่าเรื่องความปลอดภัยของบัญชีตนเอง

  • ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ทุกครั้งก่อนเปิดเผยข้อมูล
  • ตั้งรหัสผ่านให้คาดเดายาก
  • ควรใช้อีเมลสำรองสำหรับการรับข่าวสาร หรือข้อมูลอื่น ๆ ที่ไม่สำคัญ
  • โหลดแอปพลิเคชันจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
  • หมั่นตรวจสอบและลบแอปพลิเคชันที่ไม่ใช้งานบนสมาร์ทโฟน
  • ตรวจสอบรายชื่อเพื่อนใน Social Media ป้องกันผู้ไม่หวังดี
  • ตั้งค่าล็อกหน้าจอและรหัสผ่านบนสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์อยู่เสมอ
  • ปิดการแชร์โลเคชัน หรือการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ Bluetooth อัตโนมัติ ถ้าไม่จำเป็น รวมทั้งหมั่นอัพเดตและสำรองข้อมูลอยู่เสมอ

หากพบเบาะแสการกระทำผิด สามารถติดต่อได้ที่

  • สายด่วนตำรวจไซเบอร์ หมายเลข 1441 หรือ 081 866 3000 ตลอด 24 ชั่วโมง
  • แจ้งความออนไลน์ที่
  • เว็บไซต์ Thaipoliceonline.com

        พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษกกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชอาญากรรมทางเทคโนโลยี กล่าวเตือนภัยมิจฉาชีพแฮกข้อมูลบัญชีดิจิทัลแพลตฟอร์มส่วนบุคคล หรือหลอกลวงเพื่อขโมยข้อมูลส่วนบุคคล(Identity Theft) อาทิข้อมูลจาก บัญชี YouTube บัญชี Facebook รวมถึงข้อมูลบัตรประชาชน บัตรเครดิต เพื่อไปใช้หาประโยชน์ในทางมิชอบ ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

        ขอฝากไปถึงผู้ใช้บัญชีดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างๆ หมั่นตรวจสอบการตั้งค่าเรื่องความปลอดภัยของบัญชีตนเอง ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ทุกครั้งก่อนเปิดเผยข้อมูล ตั้งรหัสผ่านให้คาดเดายาก ควรใช้อีเมลสำรองสำหรับการรับข่าวสาร หรือข้อมูลอื่นๆ ที่ไม่สำคัญ โหลดแอปพลิเคชันจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ หมั่นตรวจสอบและลบแอปพลิเคชันที่ไม่ใช้งานบนสมาร์ทโฟน ตรวจสอบรายชื่อเพื่อนใน Social Media ป้องกันผู้ไม่หวังดี ตั้งค่าล็อกหน้าจอและรหัสผ่านบนสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์อยู่เสมอ ปิดการแชร์โลเคชัน หรือการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ Bluetooth อัตโนมัติ ถ้าไม่จำเป็น รวมทั้งหมั่นอัพเดตและสำรองข้อมูลอยู่เสมอ

        หากพบเบาะแสการกระทำผิด สามารถติดต่อไปยังสายด่วนตำรวจไซเบอร์ หมายเลข 1441 หรือ 081-866-3000 ตลอด 24 ชม. หรือแจ้งความออนไลน์ที่เว็บไซต์ Thaipoliceonline.com หรือเดินทางไปแจ้งความที่สถานีตำรวจท้องที่เกิดเหตุโดยตรง พนักงานสอบสวนจะทำหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ไปยังธนาคาร เพื่อทำการยับยั้งการธุรกรรมชั่วคราวของบัญชีคนร้ายโดยเร็ว

 


ที่มา : https://bit.ly/3z4Mhzc