กองบังคับการตำรวจจราจร เปิดเผยมาตรฐานจุดตรวจ จุดสกัด ด่านตรวจของตำรวจทั่วประเทศ
กองบังคับการตำรวจจราจร เปิดเผยมาตรฐานจุดตรวจ จุดสกัด ด่านตรวจของตำรวจทั่วประเทศ ยึดประโยชน์ ประชาชน – สังคม ตรวจสอบได้ สายด่วน 1599 รับข้อร้องเรียน
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กำชับการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และด่านตรวจ ของตำรวจทุกหน่วยทั่วประเทศ ต้องมีมาตรฐานตามกฎหมาย
ตำรวจทุกนายต้องมี กล้อง Bodycam บันทึกภาพและเสียง เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ (หากไม่มี Bodycam ห้ามไม่ให้มีการตั้งจุดตรวจ)
ตำรวจทุกนายต้องสวมใส่เครื่องแบบในการตั้งจุดตรวจทุกครั้ง (ต้องไม่มีตำรวจนอกเครื่องแบบปฏิบัติหน้าที่ตามจุดตรวจอย่างเด็ดขาด)
การตั้งจุดตรวจต้องเป็นประโยชน์ของประชาชนและสังคม
– ป้องกันอุบัติเหตุ มีสถิติอุบัติเหตุรองรับชัดเจน เหตุที่ต้องตั้งจุดตรวจตรงนี้
– ด่านอาชญากรรม ต้องตั้งเพื่อป้องกันเหตุในพื้นที่เสี่ยง เกิดเหตุซ้ำซาก ประชาชนร้องเรียนในเรื่องความปลอดภัย
“หากจุดตรวจไหน ไม่มีมาตรฐาน มีการเรียกรับผลประโยชน์ เบื้องต้นจะมีการลงโทษระดับหัวหน้าสถานีตำรวจที่ปล่อยปละละเลย และผู้บังคับการตามลำดับ หากไม่มีมาตรการควบคุม กำกับดูแลอย่างใกล้ชิด”
ด่านตรวจแบบใหม่
1. ตรวจวินัยจราจร เช่น ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด, ไม่พกพาใบขับขี่ เป็นต้น
2. ตรวจยาเสพติด
3. ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์
- ด่านใหญ่มีขนาดพื้นที่ 20 ม. เจ้าหน้าที่ตำรวจ 12,9 และ 7 นาย ตามลำดับ
- ก่อนถึงด่านจะมีป้ายแจ้งว่ามีจุดตรวจ 150 ม.
- ภายในด่านมีกล้อง CCTV กล้องทำการบันทึกตลอดเวลาตั้งแต่ทางเข้าด่านตรวจถึงโต๊ะตรวจวัดแอลกอฮอล์ หรือโต๊ะเจรจา
- สามารถตรวจสอบภาพจากกล้อง CCTV ย้อนหลังได้ 3 วัน
- ประชาชนสามารถบันทึกภาพถ่าย/เคลื่อนไหว ขณะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานได้
- กรณีตรวจวัดแอลกอฮอล์ เจ้าหน้าที่จะเปลี่ยนหลอดเป่าต่อหน้าปีะชาชนทุกครั้ง
- ป้ายไฟที่ด่านระบุชื่อและตำแหน่งหัวหน้าชุดที่เป็นระดับตำรวจสัญญาบัตร พร้อมเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งการตั้งด่านตรวจจะต้องได้รับอนุญาตจาก ผบก. ขึ้นไป (สายด่วน 1599 เพื่อรับข้อร้องเรียน)
ที่มากองบังคับการตำรวจจราจร : http://www.trafficpolice.go.th/read/2204
ที่มา : https://bit.ly/3JGmaFc