คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เห็นชอบแผนบริการวัคซีนโควิด 19 และ เห็นชอบมาตรการป้องกันแพร่ระบาดโรคไข้เลือดออก

คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เห็นชอบแผนบริการวัคซีนโควิด 19 และ เห็นชอบมาตรการป้องกันแพร่ระบาดโรคไข้เลือดออก

          รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผย คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เห็นชอบแผนบริการวัคซีนโควิด 19 ประจำปี แนะฉีดก่อนฤดูฝน ใช้ชนิดใดรุ่นใดก็ได้ ฉีดพร้อมวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้ ย้ำ “ฉีดก่อนป้องกันก่อน” พร้อมเห็นชอบมาตรการป้องกันแพร่ระบาดโรคไข้เลือดออก หลังพบแนวโน้มเพิ่มขึ้น




          วันนี้ (27 เมษายน 2566) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2566 โดยมี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

ที่ประชุมได้พิจารณาและให้ความเห็นชอบ 4 เรื่องสำคัญ คือ

          1.แผนการให้บริการวัคซีนโควิด 19 ในระยะถัดไป เป็นการฉีดวัคซีนโควิด 19 ประจำปีสำหรับประชาชน (2566 – 2567) โดยจะเริ่มฉีดในปี 2566 เป็นปีแรก ฉีดปีละ 1 เข็ม แนะนำให้ฉีดช่วงก่อนฤดูฝน หรือตั้งแต่เมษายน เพราะคาดว่าเชื้อจะระบาดมากในช่วงฤดูฝน สามารถใช้วัคซีนชนิดใด/รุ่นใดก็ได้ที่ได้รับการรับรอง โดยไม่ต้องนับว่าเป็นเข็มที่เท่าไร ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีวัคซีนเพียงพอสำหรับประชาชนที่ต้องการฉีดเกือบ 20 ล้านโดส และสามารถรับการฉีดวัคซีนโควิด 19 พร้อมกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้ โดยฉีดที่ต้นแขนคนละข้าง แต่หากไม่ได้ฉีดพร้อมกัน สามารถฉีดเมื่อไรก็ได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงระยะห่าง

          “แม้หลังสงกรานต์ จะพบผู้ป่วยโรคโควิด 19 เพิ่มขึ้น แต่ก็เป็นไปตามที่กรมควบคุมโรคคาดการณ์ไว้ และขอให้ประชาชนรีบมารับวัคซีนโควิดตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข เพราะฉีดก่อนป้องกันก่อน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงต่อโรครุนแรง (กลุ่ม 608 และเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี) กลุ่มเสี่ยงการสัมผัส/แพร่เชื้อ คือ อาชีพที่ต้องสัมผัสคนจำนวนมาก หรืออยู่ในสถานที่แออัด เช่น ทัณฑสถาน เป็นต้น รวมถึงกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ด่านหน้า และ อสม. เพื่อลดอาการป่วยหนักหรือเสียชีวิต และรักษาระบบสาธารณสุขของประเทศ สำหรับประชาชนทั่วไปสามารถรับวัคซีนประจำปีได้เช่นเดียวกันตามความสมัครใจ” นายอนุทินกล่าว

          2.เห็นชอบมาตรการเร่งรัดการป้องกันการแพร่ระบาดโรคไข้เลือดออก พ.ศ. 2566 เนื่องจากสถานการณ์ผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงต้องยกระดับมาตรการควบคุมโรค เพิ่มความเข้มข้นในการสำรวจและทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย จัดกิจกรรมรณรงค์จิตอาสาฯ อย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ เร่งรัดผ่านคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด สื่อสารเชิงรุกไปยังสถานบริการสาธารณสุข ร้านขายยา และประชาชน เพิ่มความเร็วในการตรวจวินิจฉัยและรักษา โดยใช้ชุดตรวจแบบรวดเร็ว รวมทั้งให้โรงพยาบาลเตรียมความพร้อมรองรับการรักษาและควบคุมโรคตามแนวทางของกรมควบคุมโรค

          3.เห็นชอบการแก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบของคณะอนุกรรมการเร่งรัดกำจัดโรคไข้มาลาเรีย ภายใต้คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เพื่อให้การขับเคลื่อนงานเร่งรัดกำจัดโรคไข้มาลาเรียเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

          4.เห็นชอบการมอบหมายหน่วยงานดำเนินการป้องกันและควบคุมโรคอาหารเป็นพิษ เนื่องจากมีเหตุการณ์ระบาดต่างๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงในโรงเรียน คณะกรรมการด้านวิชาการ ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 จึงมีข้อเสนอต่อการดำเนินงานป้องกันและควบคุมโรคอาหารเป็นพิษ โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้สำนักส่งเสริมและสนับสนุนอาหารปลอดภัย สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประสานดำเนินการเชิงรุกร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 



ที่มา : https://pr.moph.go.th/?url=pr/detail/2/04/190470/