โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์(วัดไร่ขิง) ชวนรู้เรื่องโควิด XBB.1.16 กับตาแดง ตาอักเสบ
โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) ชวนรู้เรื่องโควิด XBB.1.16 ไม่ใช่สายพันธุ์ใหม่ อาการเยื่อบุตาอักเสบ ตาแดงเป็นอาการนำของสายพันธุ์นี้ โดย WHO จัดให้ XBB.1.16 อยู่ในหมวดเฝ้าระวัง ขอแนะนำให้สังเกตอาการของตนเองว่าหากมีไข้สูง ไอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ตาแดง เยื่อบุตาอักเสบ ลักษณะคล้ายตาแดง มีผื่นคัน ขอแนะนำให้แยกกักตัวเองก่อนอันดับแรก และควรไปพบแพทย์เพื่อคัดกรองโรคโควิด19 เพื่อทำการรักษาให้หาย เพราะโรคโควิดขณะนี้สามารถติดต่อง่ายขึ้น และยังหลบหลีกภูมิคุ้มกันได้ดี ไม่ว่าจะจากการฉีดวัคซีนหรือภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (LAAB) ซึ่งถ้าหากอาการมากขึ้น เช่น เหนื่อยหอบ หายใจลำบากให้รีบไปพบแพทย์ เพื่อรักษาในโรงพยาบาล
นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคโควิด19 จะมีการกลายพันธุ์อย่างต่อเนื่องและไวรัสสายพันธุ์ XBB.1.16 ก็เป็นการผสมกันเองระหว่างโอมิครอนเพื่อต่อต้านภูมิคุ้มกันของมนุษย์ที่มีทั้งวัคซีนและภูมิคุ้มกันธรรมชาติ อาการจะหนักหรือเบาขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันของแต่ละคน และเนื่องด้วยเหตุสถานการณ์ โควิด19 ที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566 ที่ผ่านมานั้น ขอแนะนำให้สังเกตอาการของตนเองว่าหากมีไข้สูง ไอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ตาแดง เยื่อบุตาอักเสบ ลักษณะคล้ายตาแดง มีผื่นคัน ขอแนะนำให้แยกกักตัวเองก่อนอันดับแรก และควรไปพบแพทย์เพื่อคัดกรองโรคโควิด19 เพื่อทำการรักษาให้หาย เพราะโรคโควิดขณะนี้สามารถติดต่อง่ายขึ้น และยังหลบหลีกภูมิคุ้มกันได้ดี ไม่ว่าจะจากการฉีดวัคซีนหรือภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (LAAB) ซึ่งถ้าหากอาการมากขึ้น เช่น เหนื่อยหอบ หายใจลำบากให้รีบไปพบแพทย์ เพื่อรักษาในโรงพยาบาล
นายแพทย์อาคม ชัยวีระวัฒนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์(วัดไร่ขิง) กล่าวว่าโรคโควิดXBB.1.16 ที่อาการเยื่อบุตาอักเสบ ตาแดงนั้นถือเป็นข้อสงสัยที่หลายคนกำลังจับตา และต้องการความชัดเจน หลังพบการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ XBB.1.16 โดยอาการตาแดงเป็นอาการที่เกิดร่วมกับอาการอื่นๆได้หลายสาเหตุ ซึ่งหากเราได้รับเชื้อโรคต่าง ๆ จนทำให้เป็นโรคตาแดง โดยเกิดอาการตาขาวมีสีแดงเรื่อๆ ระคายเคือง แสบตา น้ำตาไหล มี ขี้ตามากกว่าปกติ ดังนั้นอาการที่ต้องเฝ้าระวังคือ มีไข้สูง ไอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ตาแดง เยื่อบุตาอักเสบ ลักษณะคล้ายตาแดง มีผื่นคัน และบางรายไม่มีไข้ ซึ่งอาการในครั้งนี้พื้นฐานมีความใกล้เคียงกับโรคภูมิแพ้ ซึ่งเป็นโรคประจำตัวของใครหลายคน ก่อให้เกิดความกังวล สงสัยว่าอาการผิดปกติทางร่างกายที่เกิดขึ้นนี้ สาเหตุจากโรคภูมิแพ้หรือกำลังติดเชื้อไวรัสโควิด19
แพทย์หญิงวธูกานต์ รุ่งภูวภัทร จักษุแพทย์ด้านกระจกตา และแก้ไขสายตาผิดปกติ กล่าวเสริมว่า อาการตาแดงนั้นแยกเป็น 2 สาเหตุหลักๆ คือ
1. ตาแดงที่เกิดจากการติดเชื้อ เช่น เชื้อไวรัสที่พบบ่อยคือ Adenovirus หรือเชื้อแบคทีเรีย
2. โรคที่ไม่ติดเชื้อ เช่น ตาแดงจากโรคภูมิแพ้ เป็นต้น ซึ่งอาการตาแดงที่พบในโควิด19 นั้นเข้าข่ายตกอยู่ในกรณีแรกคือ จากการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ย่อย XBB.1.16 อาการตาแดงจากโควิด19 ไม่ใช่อาการใหม่ หากแต่พบมากขึ้นจากการระบาดระลอกใหม่ ซึ่งอาการตาแดงเป็นอาการหนึ่งที่เกิดขึ้นได้ในผู้ป่วยโควิด19 อาจจะเกิดร่วมกับอาการอื่นๆ หรือไม่ก็ได้ และเกิดตามหลังหรือเกิดก่อนอาการอื่นๆ ก็ได้ สามารถแยกอาการแพ้และการติดโควิด19 คือ
1. หากคุณมีอาการตาแดง (มักเป็นสองข้าง) มีน้ำตา และคัน (อาการคันเด่น) นี่คืออาการของตาแดงที่เกิดจากภูมิแพ้
2. หากคุณมีอาการตาแดง (ข้างเดียวหรือสองข้าง) ไม่มีน้ำตาหรือมีเล็กน้อย มีขี้ตา ไม่คัน มีไข้ หรืออาการจากระบบทางเดินหายใจอื่นๆ นี่อาจจะเป็นอาการของตาแดงจากการติดโควิด19 อาการตาแดงนั้นประเมินและ แยกชัดด้วยตาเปล่าได้ค่อนข้างยาก อีกทั้งไม่สามารถวินิจฉัยโรคโควิด19 ได้จากการตรวจตาเพียงอย่างเดียว พิจารณาร่วมกับปัจจัย ดังต่อไปนี้
1. มีอาการคันเด่นหรือไม่ (คันเด่น = ภูมิแพ้)
2. เดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงหรือไม่
3. มีประวัติสัมผัสกับบุคคลที่ตรวจยืนยันแล้วว่าติดโควิด19 หรือไม่
4. มีอาการจากระบบทางเดินหายใจ ผื่น ไข้ หรือไม่ หากอาการตาแดงประกอบครบดังกล่าวมา ขอแนะนำควรไปพบแพทย์เพื่อคัดกรองโรคโควิด19 เพื่อทำการรักษาให้หายก่อนอันดับแรก ส่วนวิธีการป้องกันตาแดงโควิดนั้น แม้มีอาการตาแดงจากโควิด19 จะรักษาตามอาการ และโดยทั่วไปมักหายเองได้ หากการป้องกันการเกิดย่อมดีกว่า โดยแนะนำวิธีป้องกันการเกิด ตาแดงไว้ คือ หมั่นล้างมือสม่ำเสมอ ใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง พยายามไม่ใช้มือสัมผัสบริเวณตา หรือขยี้ตา เพราะอาจจะเป็นสาเหตุที่นำเชื้อเข้าไปสู่ดวงตาได้
ที่มา : https://bit.ly/3M9Rfl6
