กรมการแพทย์ เปิดเผยมีเตียงโควิดเพียงพอ แม้พบผู้ป่วยเพิ่ม ระบุอัตราครองเตียงในกทม.เพียงร้อยละ 22
กรมการแพทย์ เปิดเผยมีเตียงโควิดเพียงพอ แม้พบผู้ป่วยเพิ่ม ระบุอัตราครองเตียงในกทม.เพียงร้อยละ 22 ปัจจุบันพบผู้ป่วยโควิด 19 เพิ่มขึ้นเนื่องจากเป็นช่วงเปิดเทอม และเริ่มมีฝนตก ทำให้เกิดการระบาดได้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่มีอาการหรือการเล็กน้อย โดยจะรักษาตัวอยู่ที่บ้าน มีส่วนหนึ่งที่มารับการรักษาในโรงพยาบาลที่คลินิกทางเดินหายใจ ARI ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้น หลายโรงพยาบาลได้ปรับโดยขยายระยะเวลาบริการเป็นนอกเวลาด้วย รวมถึงคัดกรองผู้ป่วยโควิดที่ห้องฉุกเฉิน โดยมีการแยกโรคเพื่อความปลอดภัย เพื่อไม่ให้เกิดความคับคั่ง และจัดการให้รับยาแบบผู้ป่วยนอกโดยใช้ Telemedicine ไม่ต้องมาตรวจที่โพยาบาล ทั้งนี้จำนวนผู้ป่วยในที่นอนมีเพิ่มขึ้น แต่ถ้าคิดเป็นจำนวนเปรียบเทียบก็ยังน้อยกว่าเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
ซึ่งโรงพยาบาลส่วนใหญ่สามารถบริหารจัดการได้ กรณีที่มีข่าวว่าผู้ป่วยในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งเต็ม เนื่องจากโรงพยาบาลบางแห่งจะมีเตียงผู้ป่วยโควิดอยู่จำกัดและได้มีการปรับเตียงไปใช้รักษาผู้ป่วยโรคอื่นๆ แล้ว

นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันพบผู้ป่วยโควิด 19 เพิ่มขึ้นเนื่องจากเป็นช่วงเปิดเทอม และเริ่มมีฝนตก ทำให้เกิดการระบาดได้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่มีอาการหรือการเล็กน้อย โดยจะรักษาตัวอยู่ที่บ้าน มีส่วนหนึ่งที่มารับการรักษาในโรงพยาบาลที่คลินิกทางเดินหายใจ ARI ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้น หลายโรงพยาบาลได้ปรับโดยขยายระยะเวลาบริการเป็นนอกเวลาด้วย รวมถึงคัดกรองผู้ป่วยโควิดที่ห้องฉุกเฉิน โดยมีการแยกโรคเพื่อความปลอดภัย เพื่อไม่ให้เกิดความคับคั่ง และจัดการให้รับยาแบบผู้ป่วยนอกโดยใช้ Telemedicine ไม่ต้องมาตรวจที่โพยาบาล ทั้งนี้จำนวนผู้ป่วยในที่นอนมีเพิ่มขึ้น แต่ถ้าคิดเป็นจำนวนเปรียบเทียบก็ยังน้อยกว่าเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งโรงพยาบาลส่วนใหญ่สามารถบริหารจัดการได้ กรณีที่มีข่าวว่าผู้ป่วยในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งเต็ม เนื่องจากโรงพยาบาลบางแห่งจะมีเตียงผู้ป่วยโควิดอยู่จำกัดและได้มีการปรับเตียงไปใช้รักษาผู้ป่วยโรคอื่นๆ แล้ว โดยได้ตรวจสอบสถานการณ์จริงกับโรงพยาบาลในสังกัดกรมการแพทย์ในกรุงเทพฯ ได้แก่ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี สถาบันโรคทรวงอก พบว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยมานอนโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น แต่โรงพยาบาลสามารถบริหารจัดการเตียงได้ดี โดยเดิมเคยมีศักยภาพเตียงจำนวนมาก ซึ่งได้ปรับไปดูแลผู้ป่วยหนักโรคอื่นแล้ว ให้กลับมารับผู้ป่วยโควิดเพิ่มขึ้นตามสถานการณ์ ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่นอนอยู่ในโรงพยาบาลเป็นสาเหตุจากมีโรคร่วม และจัดอัตรากำลังพยาบาลตามจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นและพร้อมที่จะขยายเตียงได้เพิ่มขึ้นอีกทั้ง ICU และเตียงผู้ป่วยหนักระดับอื่น จึงไม่มีข้อกังวลที่น่าเป็นห่วง ขอแนะนำว่าประชาชนที่ได้รับวัคซีนไม่ครบหรือไม่ได้รับเข้มกระตุ้นมานานกว่า 3 เดือน ควรไปรับวัคซีนโควิด 19 ที่โรงพยาบาลได้ทุกแห่งเพื่อช่วยลดความรุนแรงเมื่อติดเชื้อได้อย่างดี โดยเราจะเห็นว่าผู้ป่วยที่เสียชีวิตในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามากกว่า 90% เป็นผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือได้ไม่ครบทั้งนั้น
สำหรับสถานการณ์ผู้ป่วยในโรงพยาบาลที่ลงทะเบียนเตียงทั้งหมดในประเทศพบว่า ขณะนี้ มีจำนวนผู้ป่วยโควิด 19 ที่ต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลสะสม 2,527 ราย อัตราครองเตียงร้อยละ 22.41 แบ่งเป็น
- กลุ่มไม่มีอาการ 240 ราย คิดเป็นร้อยละ 9.7
- กลุ่มอาการน้อย 687 ราย คิดเป็นร้อยละ 27.8
- กลุ่มอาการปานกลาง 1,146 ราย คิดเป็นร้อยละ 46.30
- กลุ่มอาการหนัก 402 ราย คิดเป็นร้อยละ 16.2
- กลุ่มที่ต้องใช้ท่อช่วยหายใจ 278 ราย คิดเป็นร้อยละ 11.2
ดังนั้น กรมการแพทย์ขอเน้นย้ำว่าโรงพยาบาลส่วนใหญ่ยังคงมีเตียงรับผู้ป่วยโควิด 19 รวมทั้งยา และเวชภัณฑ์เพียงพอ อีกทั้งยังสามารถเปิดให้บริการผู้ป่วยโรคอื่น ๆ ได้ตามปกติ โดยทุกหน่วยงานในสังกัดของกรมการแพทย์และเครือข่ายมีการบริหารเตียงรองรับผู้ป่วยหนักร่วมกันได้ถ้าจำเป็นต้องส่งรักษาต่อ อนึ่งปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้น ถ้าหากมีอาการแต่ตรวจ ATK ไม่พบ อาจสงสัยว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ก็ได้ แม้ว่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่ แต่ถ้าเป็นกลุ่มเสี่ยง ก็ทำให้เสียชีวิตได้เช่นกัน ดังนั้น ถ้ามีอาการไม่มาก ก็สามารถใช้การรักษาตามอาการได้ ไม่ต้องไป รพ. แต่ถ้าเป็นกลุ่มเสี่ยง เช่น สูงอายุ มีโรคประจำตัว เป็นผู้ป่วยที่มีโรคแทรกซ้อน ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัย หากเป็นผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงควรได้รับการวินิจฉัย
ที่มา : https://pr.moph.go.th/?url=pr/detail/2/02/192027/
