กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เปิดเผยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 24 จังหวัดของไทย แนวโน้มดีขึ้น
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เปิดเผยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 24 จังหวัดของไทย แนวโน้มดีขึ้น โดยสภาพทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งนั้นมีแนวปะการังทั่วประเทศ ทั้งสิ้น 149,182 ไร่ มีแนวโน้มดีขึ้น เมื่อเทียบกับปี 63 – 64 ส่วนใหญ่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ดี ที่ร้อยละ 53 สมบูรณ์ปานกลางร้อยละ 22 และเสียหาย ร้อยละ 25 ส่วนปะการังฟอกขาวพบบางพื้นที่มีความรุนแรงต่ำ หญ้าทะเล มีเนื้อที่รวม 103,580 ไร่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จากปี 64 สถานการณ์สัตว์ทะเลหายาก ได้แก่ เต่าทะเล พะยูน โลมาและวาฬ และปลากระดูกอ่อน โดยรวมสภาพดีขึ้น เต่าทะเล วางไข่ 604 รัง พะยูน มีจำนวน 273 ตัว แต่ยังมีการเกยตื้นตายทุกปี ส่วนโลมาและวาฬมี 2,310 ตัว ส่วนใหญ่เป็นโลมาหัวบาตรหลังเรียบ รองลงมาเป็นโลมาอิรวดี และโลมาหลังโหนก ส่วนกลุ่มปลากระดูกอ่อนพบปลาฉลามวาฬ 40 ตัว และกระเบนแมนต้า 10 ตัว
ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 24 จังหวัดของไทย แนวโน้มดีขึ้น ต้องอนุรักษ์ ป้องกันและแก้ไขประเด็นความสำคัญ สัตว์ทะเลหายากเกยตื้น น้ำมันรั่ว ก้อนน้ำมันดินและขยะทะเล
สภาพทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งนั้น มีแนวปะการังทั่วประเทศ ทั้งสิ้น 149,182 ไร่ มีแนวโน้มดีขึ้น เมื่อเทียบกับปี 63 – 64 ส่วนใหญ่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ดี ที่ร้อยละ 53 สมบูรณ์ปานกลางร้อยละ 22 และเสียหาย ร้อยละ 25 ส่วนปะการังฟอกขาวพบบางพื้นที่มีความรุนแรงต่ำ หญ้าทะเล มีเนื้อที่รวม 103,580 ไร่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จากปี 64
สถานการณ์สัตว์ทะเลหายาก ได้แก่ เต่าทะเล พะยูน โลมาและวาฬ และปลากระดูกอ่อน โดยรวมสภาพดีขึ้น เต่าทะเล วางไข่ 604 รัง พะยูน มีจำนวน 273 ตัว แต่ยังมีการเกยตื้นตายทุกปี ส่วนโลมาและวาฬมี 2,310 ตัว ส่วนใหญ่เป็นโลมาหัวบาตรหลังเรียบ รองลงมาเป็นโลมาอิรวดี และโลมาหลังโหนก ส่วนกลุ่มปลากระดูกอ่อนพบปลาฉลามวาฬ 40 ตัว และกระเบนแมนต้า 10 ตัว
ทางด้านสภาพทรัพยากรป่านั้น พบว่าป่าชายเลนมีพื้นที่คงสภาพ 1.73 ล้านไร่ มากที่สุดในชายฝั่งอันดามันตอนล่าง รองลงมาอันดามันตอนบน และภาคตะวันออก โดยป่าชายเลนบริเวณฝั่งอันดามันสามารถดูซับคาร์บอนฯ เฉลี่ย 52.76 ตันคาร์บอนฯ เทียบเท่าต่อไร ด้านป่าชายหาด มีทั้งสิ้น 47,149.30 ไร่ กระจายใน 18 จังหวัด ภาพรวมป่าชายหาดในไทยถูกทำลายจนเหลือผืนเล็กผืนน้อย เนื่องจากไม่ได้รับการอนุรักษ์และนำไปใช้ในเชิงท่องเที่ยว ในส่วนของป่าพรุ มีพื้นที่ 37,139.56 ไร่ กระจายอยู่ใน 12 จังหวัดชายฝั่งทะเล
สภาพแวดล้อมทางทะเล คุณภาพน้ำทะเลเสื่อมโทรมลงเล็กน้อย สาเหตุจากน้ำทิ้งจากชุมชน โรงงานอุตสาหกรรมและเกิดน้ำมันรั่ว พบว่าน้ำทะเลอยู่ในเกณฑ์ดีมากที่ ขณะที่นำทะเลเปลี่ยนสีและการสะพรั่งของสาหร่าย เกิดขึ้น 43 ครั้ง มีความถี่มากขึ้น และเกิดในพื้นที่อ่าวไทยฝั่งตะวันตกเพิ่มขึ้น สูงสุดที่ จ.สมุทรสาคร จากเดิมจะพบในอ่าวไทยฝั่งตะวันออก ที่ จ.ชลบุรีมากที่สุด
ส่วนเหตุน้ำมันรั่วนั้นเกิดขึ้นทั้งหมด 22 ครั้ง โดยพื้นที่เสี่ยงสูงคือ ระยองและชลบุรี เนื่องจากเป็นพื้นที่มีกิจกรรมชายฝั่งหลากหลายประเภท ทั้งการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรม ขณะทะเล สามารถจัดเก็บขยะตกค้าง ส่วนใหญ่เป็นขวดเครื่องดื่ม ถุงพลาสติก เศษโฟม จากการศึกษาสัตว์เกยตื้น 659 ตัว พบว่าเกิดผลกระทบจากขยะทะเล 168 ตัว จากทั้งการกินขยะทะเลและการถูกขยะพันรัด
ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ ได้มีข้อเสนอแนะ มาตรการและแผนงานจัดการกับทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทั้งระยะสั้น และระยะยาวเพื่อให้หน่วยงานเกี่ยวข้องประสานงานเพื่อดำเนินการต่อไป โดยในระยะสั้น 1-2 ปี มีทั้งการดำเนินการด้านมลพิษทางทะเลและขยะทะเล การคุ้มครองทะเลโดยวางแผนเชิงพื้นที่ การดูแลการกัดเซาะชายฝั่ง และบริการทะเลด้วยความยั่งยืนโดยกระบวนการมีส่วนร่วม ระยะยาว 3-5 ปีนั้น ดำเนินการทั้งด้านการสร้างองค์ความรู้และการติดตามการเปลี่ยนแปลงสถานภาพทรัพยากร ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน การอนุรักษ์และเฝ้าระวังตรวจตราทรัพยากรทางทะเลเพื่อการใช้ประโยชน์ที่ยั่งยืน การฟื้นฟูทรัพยากร การป้องกัน เฝ้าระวังและส่งเสริมการลดผลกระทบจากแผ่นดินและเกาะ การประกาศพื้นที่อนุรักษ์ ปรับปรุงกฎระเบียบ ตลอดจนการเพิ่มความร่วมมือระหว่างประเทศ
ที่มา : t.ly/eboL