กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก อบรมแพทย์แผนไทยทั่วประเทศ เพื่อขยายผลการดูแลผู้ป่ายแบบประดับประคองด้วยการแพทย์แผนไทย 

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก อบรมแพทย์แผนไทยทั่วประเทศ เพื่อขยายผลการดูแลผู้ป่ายแบบประดับประคองด้วยการแพทย์แผนไทย 

          กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก อบรมแพทย์แผนไทยทั่วประเทศ ดูแลสุขภาพผู้ป่วยระยะประคับประคองด้วยการแพทย์แผนไทย แบบบูรณาการ ตามหลัก “ธรรมานามัย”แบบองค์รวม ครอบคลุมทั้งด้านร่างกาย ด้านจิตใจ ด้านจิตสังคม ด้านจิตวิญญาณ และ สิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการดูแลผู้ป่วย ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน


 

          นายแพทย์ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ผู้ป่วยระยะประดับประคองPalliative care ส่วนใหญ่มักเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บป่วยจากกลุ่มโรค ต่างๆ อาทิ โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองฯลฯที่มีอาการเจ็บปวดขึ้นเรื่อยๆหรือแม้แต่ผู้ปวยระยะสุดท้าย ดังนั้น การดูแลผู้ป่วยระยะนี้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ควรยึดหลักให้ผู้ป่วยมีความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยคำนึงถึงความต้องการทางด้านร่างกาย ด้านจิตใจ ด้านจิตสังคม ด้านจิตวิญญาณ และ สิ่งแวดล้อม ซึ่งการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคองที่ดี ควรเริ่มตั้งแต่ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยโรคควบคู่ไปกับการบำบัดรักษาอื่นๆ

          การดูแลสุขภาพผู้ป่วยแบบบูรณาการด้วยการแพทย์แผนไทยตามหลัก”ธรรมานามัย”เป็นการดูแลสุขภาพผู้ป่วยแบบองค์รวมที่ครอบคลุมทั้งด้านร่างกาย ด้านจิตใจ ต้านจิตสังคม ด้านจิตวิญญาณ และสิ่งแวดล้อม ซึ่งประกอบด้วยการดูแลสุขภาพ 3 องค์ประกอบ ดังนี้

          1.กายานามัย (Healthy body) เป็นการดูแลสุขภาพต้นร่างกายให้แข็งแรง เริ่มตั้งแต่อาหาร ย่า และ การออกกำลังกายการให้ยาสมุนไพรในการรักษา ควรให้ยาตามอาการ ตามสภาพร่างกายของผู้ป่วย อาหาร การรักษาโรคทางแพทย์แผนไทยให้ความสำคัญกับ”อาหาร”ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น พืช ผัก ผลไม้ที่มีกากใยสูง อาหารที่ช่วยให้ย่อยง่าย นอกจากนี้ยังพบว่า การนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ รวมถึง การออกกำลังกายด้วยฤษีตัดตน หรือ การออกกำลังกายอื่นๆ ตามความเหมาะสมจะช่วยให้ผู้ป่วยมีการเคลื่อนไหวที่ดีขึ้น ลดอาการปวดกล้ามเนื้อ ระบบการทำงานของอวัยวะต่างๆดีขึ้น ซึ่งมีผลต่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ป่วย

          2.จิตตานามัย (Healthy mind) คือ การดูแลจิตใจและความรู้สึกของผู้ป่วย การแพทย์แผนไทยให้ความสำคัญในด้านจิตใจของผู้ป่วยเป็นหลัก เพื่อมุ่งหวังให้ผู้ป่วยมีกำลังใจที่ จะต่อสู้กับอาการเจ็บป่วย โดยยึดคำว่า”จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว” โดยได้แนะนำกิจกรรมบำบัดต่างๆที่มีป ระโยชน์ทางด้านจิตใจ ได้แก่ สมาธิบำบัด, สวดมนต์บำบัด, ศิลปะบำบัด, ดนตรีบำบัด,หัวเราะบำบัดซึ่งกิจกรรมข้างต้นจะช่วยให้จิตใจสงบ ปราศจากความเครียด ส่งเสริมให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น

          3.ชีวิตานามัย (Hcalthy bchavior)เป็นการดูแลต้านการดำเนินชีวิตในทางที่ชอบ สุจริตตามบริบทของสังคม วัฒนธรรม ประเพณี เช่น การประกอบอาชีพที่ดี และการปรับสภาพแวตล้อมภายนอก เช่น การปลูกต้นไม้ ดูแลความสะอาดของบ้านเรือน และจัดวางวั สดุอุปกรณ์ต่างๆให้เหมาะสมมีอาหารสะอาด ซึ่งศาสตร์การแพทย์แผนไทยให้ความสำคัญเรื่องอาหารที่ไม่สมควรบริโภค คือ อาหารบูดเน่า อาหารดิบ รวมถึงอาหารที่ก่อให้เกิดโรค เช่น การตกค้างหรือปนเปื้อนสารเคมีต่างๆ ของหมักดอง และ อาหารที่ปรุงไม่ได้มาตรฐานต่างๆ ซึ่งผู้ดูแลหรือ ญาติควรดูแลตามสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวนั้นๆ ที่ขึ้นอยู่กับความเข้าใจของผู้ดูแล ส่วนมากญาติจะจัดให้ดีที่ สุดเท่าที่ทำได้เพื่อคนที่ตนรัก หากทำได้ดังนี้ จะทำให้ผู้ป่วยมีสภาพร่างกายและจิตใจที่ดีขึ้น

          ด้านนายสมศักดิ์ กรีชัย ผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์แผนไทย กล่าวว่า ทางสถาบันการแพทย์แผนไทย ได้นำศาสตร์แผนไทยมารักษาในคลินิก ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 ลักษณะประเภท คือ คลินิกดูแลคุณแม่หลังคลอด คลินิกรักษาโรคสะเก็ดเงิน คลินิกรักษาอาการปวดเรื้อรังและนอนไม่หลับ คลินิกรักษาผู้ติดยาเสพติด และ คลินิกดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง ดังนั้น แพทย์แผนไทยและสหวิซาชีพจึงต้องมีความเชี่ยวชาญหรือชำนาญในเรื่องตังกล่าว เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการดูแลรักษาผู้ป่วยในแต่ละกลุ่มโรคอาการปัจจุบัน การรักษาผู้ป่วยแบบประคับประคอง มีความชับช้อนทางการรักษา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกจึงจัดการอบรมฟื้นฟูการดูแลผู้ป่วยระยะประดับประคอง ด้วยการแพทย์แผนไทยแบบบูรณาการ ให้กับแพทย์แผนไทยทั่วประเทศเพื่อให้นำองค์ความรู้ที่ได้ ไปประยุกต์ใช้ในการดูแลสุขภาพผู้ป่วยร่วมกับสหวิชาชีพ และ สามารถสนับสนุนการสร้างแนวทางการดูแลสุขภาพอย่างไร้ร้อยต่อด้วยการแพทย์แผนไทยให้ครอบคลุมทุกเขตสุขภาพทั่วป ระเทศ เพื่อการพัฒนา และขับเคลื่อนงานในสถานบริการสาธารณสุขได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ ยั่งยืน

          หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามโตยตรงได้ที่ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก หมายเลขโทรศัพท์ 0 21495678 หรือช่องทางออนไลน์ที่เฟซบุ๊ก https:/www.facebook.con/ dtam.moph และ ไลน์แอดกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก line @DTAM

 


ที่มา : https://pr.moph.go.th/?url=pr/detail/2/02/195324/