สปสช. เปิดให้บริการเจาะเลือด-ตรวจแล็บที่คลินิกแล็บใกล้บ้าน 24 รายการแก่ผู้มีสิทธิบัตรทอง
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ร่วมกับ สภาเทคนิคการแพทย์ เปิดบริการตรวจทางห้องปฏิบัติการหรือแล็บ ณ คลินิกเทคนิคการแพทย์ที่เข้าร่วมให้บริการใกล้บ้าน เพื่อเป็นทางเลือกในการรับบริการแล็บให้กับผู้มีสิทธิบัตรทอง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
โดยคลินิกเทคนิคการแพทย์ที่เข้าร่วมให้บริการจะให้บริการเจาะเลือด เก็บสิ่งส่งตรวจ พร้อมทำการตรวจวิเคราะห์ผล ทั้งกรณีมารับบริการที่คลินิกเทคนิคการแพทย์ หรือกรณีให้ไปเจาะเลือดที่บ้าน พร้อมทำการตรวจวิเคราะห์ผลแล็บ โดยรายการบริการมีจำนวน 24 รายการ แยกเป็น บริการกรณีผู้ป่วยนอก (OP) จำนวน 22 รายการ และบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (PP) จำนวน 2 รายการ
- บริการกรณีผู้ป่วยนอก (OP) จำนวน 22 รายการ ตามหมวดหมู่ดังนี้
- การตรวจหาความเข้มข้น และความผิดปกติของเม็ดเลือด (Complete Blood Count: CBC )
- การตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (Blood Sugar)
- การตรวจน้ำตาลสะสม (HbA1C)
- การตรวจระดับไขมันในเลือด (Lipid Profile: Cholesterol, HDL, LDL, Triglyceride)
- ตรวจการทำงานของตับ (Liver Function Test : SGOT, SGPT, ALK, Total Protein, Total bilirubin, Direct bilirubin, Albumin)
- การตรวจหาค่ากรดยูริก (Uric Acid)
- การตรวจการทำงานของไต (BUN, Creatinine)
- การตรวจปัสสาวะ (Urinalysis)
- การตรวจไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg)
- บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (PP) จำนวน 2 รายการ คือ
- บริการตรวจการตั้งครรภ์
- บริการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง ด้วยวิธีการตรวจหาเลือดแฝงในอุจจาระ สำหรับประชาชนอายุ 50-70 ปี ทุก 2 ปี
- ทั้ง 2 รายการนี้ ประชาชนตามกลุ่มเป้าหมาย สามารถเข้ารับบริการได้ที่คลินิกเทคนิคการแพทย์ที่ร่วมโครงการได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
- บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (PP) จำนวน 2 รายการ คือ
- อัตราการชดเชยค่าบริการนั้น จะชดเชยเป็นค่าบริการเก็บสิ่งส่งตรวจ และค่าตรวจวิเคราะห์ผลทางห้องปฏิบัติการตามรายการและอัตราที่กำหนดตามรายการบริการ (Fee schedule) ส่วนกรณีเก็บสิ่งส่งตรวจที่บ้านจะจ่ายค่าเก็บสิ่งส่งตรวจที่บ้านเพิ่มเติม 80 บาท ทั้งนี้จะไม่สามารถเรียกเก็บเพิ่มเติมจากผู้รับบริการได้

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า การพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ นอกจากการสร้างความครอบคลุมและทั่วถึง ในการเข้าถึงบริการสุขภาพที่จำเป็นแล้ว การเพิ่มความสะดวกและลดความแออัดในการเข้ารับบริการ เป็นอีกหนึ่งภารกิจที่ สปสช. ให้ความสำคัญ จึงได้ประสานความร่วมมือกับองค์กรวิชาชีพต่างๆ เพื่อให้เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลและให้บริการผู้มีสิทธิบัตรทอง โดยที่ผ่านมา สปสช. ได้จับมือกับสภาเทคนิคการแพทย์ เพื่อเดินหน้านโยบาย “บริการตรวจทางห้องปฏิบัติการหรือแล็บ ณ คลินิกเทคนิคการแพทย์ที่เข้าร่วมให้บริการใกล้บ้าน (Lab Anywhere)”
ภาพรวมของบริการ Lab Anywhere คลินิกเทคนิคการแพทย์จะเป็นเครือข่ายร่วมให้บริการกับหน่วยบริการ โดยมี สปสช.เขตทำหน้าที่เป็นผู้จัดเครือข่าย ซึ่งคลินิกเทคนิคการแพทย์ที่เข้าร่วมให้บริการจะให้บริการเจาะเลือด เก็บสิ่งส่งตรวจ พร้อมทำการตรวจวิเคราะห์ผล ทั้งกรณีมารับบริการที่คลินิกเทคนิคการแพทย์ หรือกรณีให้ไปเจาะเลือดที่บ้าน พร้อมทำการตรวจวิเคราะห์ผลแล็บ โดยรายการบริการมีจำนวน 24 รายการ แยกเป็น บริการกรณีผู้ป่วยนอก (OP) จำนวน 22 รายการ และบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (PP) จำนวน 2 รายการ
นพ.จเด็จ กล่าวว่า สำหรับกลุ่มเป้าหมายบริการนั้น ในกรณีผู้ป่วยนอกเป็นสิทธิบริการเฉพาะผู้มีสิทธิบัตรทอง 30 บาท โดยเป็นกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่มีใบสั่งการตรวจทางห้องปฏิบัติการจากหน่วยบริการที่ดูแล ครอบคลุมทั้งผู้ที่มารับบริการที่คลินิกเทคนิคการแพทย์และที่บ้าน ซึ่งกรณีการรับบริการเก็บสิ่งส่งตรวจที่บ้านกำหนดเฉพาะผู้ป่วยที่ไม่สามารถมารับบริการที่หน่วยบริการเท่านั้น เช่น ผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่นอนติดเตียง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ผู้ป่วยชรา ผู้ป่วยที่มีภาวะพึ่งพิง หรือกรณีมีความจำเป็น
ส่วนบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคที่ดูแลประชาชนไทยทุกสิทธิการรักษาพยาบาล กำหนดให้บริการ 2 รายการ คือ 1.บริการตรวจทดสอบปัสสาวะ ในกรณีสงสัยว่าการตั้งครรภ์ 2.บริการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง ด้วยวิธีการตรวจหาเลือดแฝงในอุจจาระ สำหรับประชาชนอายุ 50-70 ปี ทุก 2 ปี ซึ่งทั้ง 2 รายการนี้ ประชาชนไทยตามกลุ่มเป้าหมายสามารถเข้ารับบริการได้ที่คลินิกเทคนิคการแพทย์ที่ร่วมโครงการได้ โดยไม่ต้องมีใบสั่งการตรวจทางห้องปฏิบัติการจากหน่วยบริการหรือสถานพยาบาล
นพ.จเด็จ กล่าวต่อว่า ในส่วนของความเชื่อมั่นต่อคุณภาพและมาตรฐานบริการ Lab Anywhere ทุกคลินิกเทคนิคการแพทย์ที่เข้าร่วม ต้องผ่านการรับรองมาตรฐานสภาเทคนิคการแพทย์ (LA; Laboratory Accreditation) หรือมาตรฐานห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (MOPH ) หรือ มาตรฐานราชวิทยาลัยพยาธิแพทย์แห่งประเทศไทย หรือ มาตรฐาน ISO 15189 ) และผ่านการพิจารณาการเข้าร่วมให้บริการจากสภาเทคนิคการแพทย์ก่อน นอกจากนี้ยังจะมีการกำกับติดตามคุณภาพการให้บริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจแก่สถานพยาบาลที่ส่งต่อคนไข้มารับบริการ ปัจจุบันมีคลินิกเทคนิคการแพทย์เข้าร่วมให้บริการแล้ว 32 แห่ง โดยในจำนวนนี้ 3 แห่ง อยู่ระหว่างดำเนินการขึ้นทะเบียน โดยในส่วนของคลินิกเทคนิคการแพทย์ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นที่เรียบร้อยและได้เปิดให้บริการ Lab anywhere แล้ว
“สปสช. และสภาเทคนิคการแพทย์ ได้ร่วมเปิดทางเลือกในการรับบริการแล็บให้กับผู้มีสิทธิบัตรทอง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งทั้งกรณีเข้ารับบริการผู้ป่วยนอกที่สถานพยาบาลเป็นผู้ส่งต่อ และบริการสร้างเสริมสุขภาพฯ 2 รายการ ที่ให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายใช้สิทธิบัตรทองเข้ารับบริการได้นั้น เป็นบริการที่ประชาชนเชื่อมั่นในคุณภาพและมาตรฐานได้เช่นเดียวกับการรับบริการที่โรงพยาบาล” เลขาธิการ สปสช. กล่าว
บริการกรณีผู้ป่วยนอก (OP) จำนวน 22 รายการ ตามหมวดหมู่ดังนี้
- การตรวจหาความเข้มข้น และความผิดปกติของเม็ดเลือด (Complete Blood Count: CBC )
- การตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (Blood Sugar)
- การตรวจน้ำตาลสะสม (HbA1C)
- การตรวจระดับไขมันในเลือด (Lipid Profile: Cholesterol, HDL, LDL, Triglyceride)
- ตรวจการทำงานของตับ (Liver Function Test : SGOT, SGPT, ALK, Total Protein, Total bilirubin, Direct bilirubin, Albumin)
- การตรวจหาค่ากรดยูริก (Uric Acid)
- การตรวจการทำงานของไต (BUN, Creatinine)
- การตรวจปัสสาวะ (Urinalysis)
- การตรวจไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
- สายด่วน สปสช. 1330
- ช่องทางออนไลน์
- ไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6
- Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand
- ไลน์ Traffy Fondue เป็นเพื่อนใน LINE ค้นหาไอดี @traffyfondue หรือคลิก https://lin.ee/nwxfnHw
ที่มา : https://www.nhso.go.th/news/4135
