กรมชลประทาน สั่งเจ้าหน้าที่โครงการชลประทานเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำและสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด

กรมชลประทาน สั่งเจ้าหน้าที่โครงการชลประทานเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำและสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด

        กรมชลประทาน สั่งเจ้าหน้าที่โครงการชลประทานเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำและสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด สั่งการให้โครงการชลประทานในพื้นที่ที่ยังมีปริมาณฝนตกอยู่ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำและสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด เร่งช่วยเหลือประชาชนให้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว เน้นบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำต่างๆ โดยจัดการจราจรน้ำให้สอดคล้องเชื่อมโยงกัน เพื่อให้สามารถระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมประชาสัมพันธ์ถึงสถานการณ์น้ำให้ประชาชนทราบอย่างต่อเนื่อง


 


        นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำผ่านระบบ Video Conference ไปยังสำนักงานชลประทานที่ 1-17 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำแหล่งน้ำและแม่น้ำสายหลักต่างๆ สำหรับเป็นข้อมูลในการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องและเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ พร้อมกล่าวว่า ปัจจุบัน (2ต.ค.66) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันกว่า 52,000 ล้านลูกบาศก์เมตร เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณกว่า 13,600 ล้านลูกบาศก์เมตร พร้อมสั่งการให้โครงการชลประทานในพื้นที่ที่ยังมีปริมาณฝนตกอยู่ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำและสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด เร่งช่วยเหลือประชาชนให้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว เน้นบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำต่างๆโดยจัดการจราจรน้ำให้สอดคล้องเชื่อมโยงกัน เพื่อให้สามารถระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมประชาสัมพันธ์ถึงสถานการณ์น้ำให้ประชาชนทราบอย่างต่อเนื่อง



ที่มา : https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG231002215208342