กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) พร้อมเริ่มทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ โดยให้เวลาผ่อนชำระสูงสุด 15 ปี ในการชำระเงินงวดสุดท้ายผู้กู้ยืมต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปี ให้ส่วนลดเบี้ยปรับ 100% ปลดภาระผู้ค้ำประกันหลังจากทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ ปรับเปลี่ยนลำดับการตัดชำระใหม่จากเดิม เบี้ยปรับ ดอกเบี้ย เงินต้น เป็นตัดเงินต้นส่วนที่ครบกำหนด ดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ โดยเปิดให้ผู้กู้ยืมเข้าทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับกองทุนได้ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไป ผู้กู้สามารถลงทะเบียนนัดหมายวันเข้าทำสัญญาล่วงหน้าทางเว็บไซต์ www.studentloan.or.th ทั้งนี้ ในช่วง 3 เดือนแรก กองทุนจะเปิดให้เข้ามาทำสัญญาทุกวันไม่เว้นวันหยุด เวลา 09.00 – 20.00 น. และจะเปิดโอกาสให้ลูกหนี้ได้ทำสัญญาตามจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศต่อไป
กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) พร้อมเริ่มทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ โดยให้เวลาผ่อนชำระสูงสุด 15 ปี ในการชำระเงินงวดสุดท้ายผู้กู้ยืมต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปี ให้ส่วนลดเบี้ยปรับ 100% ปลดภาระผู้ค้ำประกันหลังจากทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ ปรับเปลี่ยนลำดับการตัดชำระใหม่จากเดิม เบี้ยปรับ ดอกเบี้ย เงินต้น เป็นตัดเงินต้นส่วนที่ครบกำหนด ดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ โดยเปิดให้ผู้กู้ยืมเข้าทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับกองทุนได้ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไป ผู้กู้สามารถลงทะเบียนนัดหมายวันเข้าทำสัญญาล่วงหน้าทางเว็บไซต์ www.studentloan.or.th ทั้งนี้ ในช่วง 3 เดือนแรก กองทุนจะเปิดให้เข้ามาทำสัญญาทุกวันไม่เว้นวันหยุด เวลา 09.00 – 20.00 น. และจะเปิดโอกาสให้ลูกหนี้ได้ทำสัญญาตามจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศต่อไป
นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ได้เปิดเผยว่า “ขณะนี้กองทุนฯ ได้เตรียมดำเนินการทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อช่วยเหลือและแบ่งเบาภาระของผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนให้เป็นไปตามประกาศหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา และตามพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 โดยผู้กู้ยืมที่มีสิทธิ์เข้าทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ ได้แก่ กลุ่มก่อนฟ้องคดี กลุ่มที่บอกเลิกสัญญาแล้วแต่ยังไม่ฟ้องคดี กลุ่มที่ฟ้องคดีแล้วแต่ศาลยังไม่มีคำพิพากษา กลุ่มที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วแต่ยังไม่บังคับคดีและได้บังคับคดีแล้ว รวมทั้งกลุ่มอื่น ๆ ทั้งหมด โดยกำหนดเงื่อนไขให้ผู้กู้ยืมจะต้องผ่อนชำระเงินคืนกองทุนฯ เป็นรายเดือนในอัตราเท่ากันทุกเดือน ผู้กู้ยืมต้องชำระภายในวันที่ 5 ของทุกเดือนให้เสร็จสิ้นภายใน 15 ปี และในการชำระเงินงวดสุดท้าย ผู้กู้ยืมต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปีบริบูรณ์
ทั้งนี้ ผู้กู้ยืมสามารถลงทะเบียนนัดหมายเข้าทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ได้ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2567 ทางเว็บไซต์ www.studentloan.or.th และจะเริ่มทำสัญญาได้ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไป ที่สำนักงานของกองทุนฯ หลังจากนั้นจะเริ่มเปิดให้ผู้กู้เข้าทำสัญญาได้ตามจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งกองทุนฯจะได้ประกาศให้ทราบต่อไป ทั้งนี้ ในช่วงแรกคาดว่าจะมีลูกหนี้เข้ามาทำสัญญาจำนวนมาก ดังนั้น ในช่วง 3 เดือนแรกกองทุนฯ จะเปิดให้เข้ามาทำสัญญาทุกวันไม่เว้นวันหยุดเวลา 09.00 – 20.00 น. ซึ่งการปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าว จะส่งผลให้ผู้กู้สามารถกลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติ ปลดภาระผู้ค้ำประกัน รวมถึงลดกระบวนการดำเนินคดี/บังคับคดี ซึ่งคาดว่าจะมีเงินกลับเข้ามาที่กองทุนฯ อย่างต่อเนื่อง และทำให้มีเงินหมุนเวียนเพื่อส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้แก่นักเรียน นักศึกษา รุ่นน้องต่อไป”
กลุ่มเป้าหมาย
- กลุ่มก่อนฟ้องคดี
- กลุ่มที่บอกเลิกสัญญาแล้วแต่ยังไม่ฟ้องคดี
- กลุ่มที่ฟ้องคดีแล้วแต่ศาลยังไม่มีคำพิพากษา
- กลุ่มที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วแต่ยังไม่บังคับคดีและได้บังคับคดีไปแล้ว
- กลุ่มอื่น ๆ ทั้งหมด
เงื่อนไขการปรับโครงสร้างหนี้
- ผู้กู้ยืมจะต้องผ่อนชำระเงินคืนกองทุนเป็นรายเดือนในอัตราเท่ากันทุกเดือน
- ผู้กู้ยืมต้องชำระภายในวันที่ 5 ของทุกเดือนให้เสร็จสิ้นภายใน 15 ปี
- ในการชำระเงินงวดสุดท้าย ผู้กู้ยืมต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปีบริบูรณ์
การคำนวณยอดหนี้ที่จะนำมาปรับโครงสร้างหนี้
- กองทุนฯ จะนำรายการชำระหนี้ของผู้กู้ยืมนับแต่วันที่ครบกำหนดชำระหนี้ครั้งแรกมาคำนวณใหม่ตามที่กฎหมายกำหนด
- ในกรณีคำนวณยอดหนี้ใหม่แล้วไม่มียอดหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยคงเหลือ กองทุนฯจะปรับโครงสร้างหนี้ให้ผู้กู้ยืมและให้ส่วนลดเบี้ยปรับ 100% โดยถือว่าผู้กู้ยืมได้ชำระหนี้ปิดบัญชีเรียบร้อยแล้ว
- สำหรับผู้กู้ยืมที่มียอดหนี้คงเหลือและอยู่ระหว่างการผ่อนชำระ กองทุนฯจะนำรายการชำระหนี้ของผู้กู้ยืมเงินแต่ละรายนับแต่วันครบกำหนดชำระหนี้ครั้งแรกมาคำนวณตัดชำระหนี้ใหม่ จากเดิมตัดเบี้ยปรับ ดอกเบี้ย และเงินต้น แต่เมื่อปรับโครงสร้างหนี้ใหม่จะตัดเงินต้น (เฉพาะส่วนที่ครบกำหนด) ดอกเบี้ย และเบี้ยปรับตามลำดับ
- อัตราดอกเบี้ย 1% ต่อปี และอัตราเบี้ยปรับ 0.5% ต่อปี
- ในส่วนของเบี้ยปรับทั้งหมด กองทุนฯจะพักแขวนไว้ เมื่อผู้กู้ได้ทำการชำระหนี้ปิดบัญชีจะได้รับส่วนลดเบี้ยปรับ 100%
- เมื่อทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้แล้วผู้ค้ำประกันจะหลุดพ้นจากสัญญาค้ำประกันเงินกู้ทันที
- ในกรณีที่ผู้กู้ยืมผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้สะสมถึง 6 งวด หรือเมื่อผู้กู้ยืมมีงวดผ่อนชำระเหลือไม่ถึง 6 งวด หากผิดนัดชำระงวดใดงวดหนึ่งถือว่าผิดนัดชำระหนี้ทั้งหมด ให้ถือว่าสัญญาปรับโครงสร้างหนี้สิ้นสุดลงและให้ผู้กู้ยืมผูกพันรับผิดตามสัญญาเดิม กองทุนฯจะนำเบี้ยปรับที่ตั้งพักแขวนไว้กลับมาเป็นทุนทรัพย์เพื่อดำเนินการฟ้องร้องหรือบังคับคดีกับผู้กู้ยืมต่อไป
ที่มา :
- https://www.studentloan.or.th/th/news/1706259507
- https://bit.ly/3UgPzem
