กรมทรัพย์สินทางปัญญา แนะนำ 3 ลักษณะของเสียงที่จดทะเบียนได้
โดยเสียงที่จะนำมาจดทะเบียนอาจเป็นได้ทั้งเสียงของมนุษย์ เสียงของสัตว์ เสียงดนตรี หรือเสียงอื่นๆ เช่น เสียงอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะต้องส่งสิ่งบันทึกเสียงและต้องบรรยายเสียงให้ชัดเจน เช่น โน้ตดนตรี กราฟเสียง หรือสิ่งอื่นที่แสดงให้เห็นถึงลักษณะของเสียงนั้นด้วย
ลักษณะของเสียงที่จดทะเบียนได้
1) ต้องมีลักษณะบ่งเฉพาะ เช่น เสียงนั้นต้องไม่เล็งถึงลักษณะหรือคุณสมบัติของสินค้าโดยตรง
2) ต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย เช่น เสียงคำด่า เสียงคำหยาบ
3) เสียงนั้นต้องไม่ซ้ำกับของบุคคลอื่นที่จดทะเบียนไว้
ทั้งนี้ เครื่องหมายเสียงควรนำมาจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายบริการจะเหมาะสมกว่าเพราะสียงจะนำไปติดที่ตัวสินค้าไม่ได้
หลายๆคน คงจะคุ้นชินเมื่อมีรถไอศครีมสีขาวแดงขับผ่านมาพร้อมกับเสียงเพลงที่คุ้นเคย สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราสามารถแยกเเยะแบรนด์ไอศครีมได้ แม้ว่าเราจะไม่ได้หันไปมองนั่นคือเสียง เสียงเพลงที่มีทำนองโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์สามารถที่จะย้ำเตือนความทรงจำของเราได้ เสียงนั้นสามารถนำมาจดเครื่องหมายการค้าได้
เสียงที่จะนำมาจดทะเบียนอาจเป็นได้ทั้งเสียงของมนุษย์ เสียงของสัตว์ เสียงดนตรี หรือเสียงอื่นๆ เช่น เสียงอิเล็กทรอนิกส์
โดยจะต้องส่งสิ่งบันทึกเสียงและต้องบรรยายเสียงให้ชัดเจน เช่น โน้ตดนตรี กราฟเสียง หรือสิ่งอื่นที่แสดงให้เห็นถึงลักษณะของเสียงนั้นด้วย
ลักษณะของเสียงที่จดทะเบียนได้
1) ต้องมีลักษณะบ่งเฉพาะ เช่น เสียงนั้นต้องไม่เล็งถึงลักษณะหรือคุณสมบัติของสินค้าโดยตรง เสียงวัวใช้กับสินค้านมสด – เสียงนั้นต้องไม่เป็นเสียงโดยธรรมชาติของสินค้า เช่น เสียงไก่หรือเป็ดร้องใช้กับสินค้าไก่หรือเป็ด (ปศุสัตว์) – เสียงนั้นต้องไม่เกิดจากการทำงานของสินค้านั้น เช่น เสียงชักโครกใช้กับสินค้าสุขภัณฑ์ – เสียงนั้นต้องไม่เป็นสิ่งสามัญในการค้าขาย เช่น เสียงไซเรนใช้กับบริการรถพยาบาล
2) ต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย เช่น เสียงคำด่า เสียงคำหยาบ
3) เสียงนั้นต้องไม่ซ้ำกับของบุคคลอื่นที่จดทะเบียนไว้
แนะนำว่า เครื่องหมายเสียงควรนำมาจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายบริการจะเหมาะสมกว่าเพราะสียงจะนำไปติดที่ตัวสินค้าไม่ได้
ที่มา : https://shorturl.asia/nXtR9