สภาผู้แทนราษฎร ลงมติเห็นชอบร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม 400 เสียง ต่อ 10 เสียง
สภาผู้แทนราษฎร มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม โดยขั้นตอนหลังจากนี้จะเตรียมเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภา และ หากผ่านชั้นของวุฒิสภา แล้ว จึงจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป

เมื่อเวลา 14.03 น. วันที่ 27 มีนาคม 2567 ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ …) พ.ศ…. ตามที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับสมรสเท่าเทียมของกลุ่มหลากหลายทางเพศ ภายหลังจากมีการอภิปรายอย่างกว้างขวางในวาระ 2 จนครบ 38 มาตรา
จากนั้นประธานในที่ประชุมได้เรียกสมาชิกลงมติ ในวาระ 3 โดยมีผู้ลงมติจำนวน 414 คน ปรากฏว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
- เห็นด้วย 400 เสียง
- ไม่เห็นด้วย 10 เสียง
- งดออกเสียง 2 เสียง
- ไม่ลงคะแนน 3 เสียง
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีการลงมติว่าจะเห็นด้วยกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการเสียงข้างมากหรือไม่ โดยมีผู้ลงมติจำนวน 401 คน ปรากฏว่า
- เห็นด้วย 393 เสียง
- ไม่เห็นด้วย 3 เสียง
- งดออกเสียง 1 เสียง
- ไม่ลงคะแนน 4 เสียง
ทำให้ที่ประชุมมีมติเห็นชอบกับคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ทำให้คณะกรรมาธิการต่างปรบมือ และโบกธงสีรุ้งด้วยความดีใจ
สำหรับเนื้อหาของร่างกฎหมายดังกล่าว ได้กำหนดให้การสมรสหรือแต่งงานครอบคลุมบุคคลทุกเพศ ไม่จำกัดแค่เพศชายและเพศหญิง พร้อมทั้งให้อายุการสมรสเป็น 18 ปี จากเดิม 17 ปี และการบัญญัติคำว่า “บุพการีลำดับแรก” ในกฎหมายให้มีสิทธิและหน้าที่เทียบเท่าบิดามารดา
ทั้งนี้ ประเทศไทย จะถือเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นประเทศที่ 3 ในเอเชีย ที่ผ่านร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วุฒิสภาชุดปัจจุบัน จะหมดวาระลงในวันที่ 11 พ.ค.นี้ แต่จะยังคงอยู่รักษาการปฏิบัติหน้าที่ต่อ จนกว่าจะมีวุฒิสภาชุดใหม่เข้าปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งในการพิจารณาร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม รวมถึงร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 อาจอยู่ในช่วงรอยต่อดังกล่าว
ดังนั้น วุฒิสภา จึงได้มอบให้ฝ่ายกฎหมายของวุฒิสภา ไปศึกษาความพร้อมหากเกิดกรณีดังกล่าวขึ้น เพื่อไม่ให้กระทบต่อการพิจารณาร่างกฎหมายที่ยังค้างอยู่ในวุฒิสภาชุดปัจจุบัน
หากผ่านที่ประชุมวุฒิสภา ทางสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จะนำร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม ให้นายกฯนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อประกาศเป็นกฎหมายบังคับใช้ต่อไป
ที่มา : https://bit.ly/3PFtvGW
