การหมั้นและสินสอด

การหมั้น คืออะไร

  • การหมั้น ในความเข้าใจของประชาชนทั่วไปหมายถึง การจองตัวไว้ก่อนที่จะมีการแต่งงานกันหรือสมรสกันตามกฎหมาย แต่กฎหมายบัญญัติให้การหมั้น จะมีผลตามกฎหมายได้ การหมั้นนั้น จะกระทำได้เมื่อชายและหญิงมีอายุสิบเจ็ดปี บริบูรณ์ขึ้นไปเท่านั้น หากการหมั้นฝ่าฝืนโดยที่ชายหญิงที่หมั้นกันมีอายุไม่ถึงสิบเจ็ดปี การหมั้นนั้นตกเป็นโมฆะ และการหมั้นนั้นจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองด้วย ซึ่งอาจเป็นพ่อ แม่ หรือผู้มีอำนาจปกครองขณะนั้น ส่วนของหมั้นจะต้องมีการส่งมอบหรือโอนทรัพย์สินอันเป็นของหมั้นให้หญิงคู่หมั้นนั้นขณะที่ทำการหมั้นด้วย โดยฝ่ายชายเป็นผู้ส่งมอบของหมั้นเพื่อเป็นหลักฐานว่าจะสมรสกับหญิงนั้น หากส่งมอบให้ภายหลังการหมั้นไม่ถือว่าเป็นของหมั้น ทั้งนี้เป็นไปตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1435 มาตรา 1436 และมาตรา 1437 และเมื่อหมั้นแล้วให้ของหมั้นตกเป็นของหญิงทันที

การหมั้นสามารถที่จะบังคับให้อีกฝ่ายหนึ่งสมรสด้วยได้หรือไม่

  • กรณีเมื่อมีการหมั้นแล้ว หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ยอมสมรส อีกฝ่ายหนึ่งจะเรียกร้องให้ทำการสมรสด้วยไม่ได้ เพราะเหตุว่า การสมรสนั้นต้องเป็นการยินยอมที่จะอยู่กินฉันท์สามีภรรยากันด้วยความเต็มใจ ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1438 ที่บัญญัติว่า การหมั้นไม่เป็นเหตุที่จะร้องขอให้ศาลบังคับให้สมรสได้ แต่อย่างใดก็ดี ฝ่ายที่ผิดสัญญาไม่ทำการสมรสอีกฝ่ายหนึ่งมีสิทธิเรียกให้รับผิดใช้ค่าทดแทน รวมทั้งหากฝ่ายหญิงผิดสัญญาหมั้นให้คืนของหมั้นแก่ฝ่ายชายด้วยตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1439

หมั้นแล้วก็คลาดแคล้วได้

  • คนทั่วไปมักจะคิดว่า เมื่อมีการหมั้นหมายขึ้นแล้วจะต้องจบลงด้วยการแต่งงานกับอีกฝ่ายเสมอ ซึ่งข้อเท็จจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ เพราะหากฝ่ายใดเกิดเปลี่ยนใจภายหลัง เนื่องจากเหตุใด ๆ ก็ตาม ก็ไม่สามารถบังคับให้อีกฝ่ายหนึ่งแต่งงานด้วยได้ ส่วนฝ่ายที่ถูกถอนหมั้น มีสิทธิได้รับค่าทดแทน ถ้าเป็นกรณีฝ่ายหญิงซึ่งเป็นฝ่ายถูกหมั้นเป็นผู้ผิดสัญญาเสียเอง ฝ่ายชายสามารถเรียกของหมั้นคืนได้ ตัวอย่างเช่น นายสมชายกับนางสาวสมหญิงได้หมั้นหมายกันตามประเพณี ต่อมานางสาวสมหญิงเกิดเปลี่ยนใจ ไม่อยากแต่งงานกับนายสมชายแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ นายสมชายไม่สามารถบังคับให้นางสาวสมหญิงแต่งงานกับตนได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1438 ซึ่งในกรณีนี้ นางสาวสมหญิงเป็นฝ่ายผิดสัญญาหมั้นจึงต้องคืนของหมั้นทั้งหมดแก่นายสมชายด้วย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1439 ในทางกลับกันหากนายสมชายเป็นฝ่ายผิดสัญญาหมั้น ฝ่ายหญิงคือนางสาวสมหญิงไม่ต้องคืนของหมั้นและยังสามารถเรียกค่าทดแทนได้ด้วย

สินสอด

  • สินสอด หมายถึง ทรัพย์สินที่ฝ่ายชายให้แก่พ่อ แม่ หรือผู้รับบุตรบุญธรรมหรือผู้ปกครองฝ่ายหญิง เพื่อตอบแทนการที่หญิงยอมสมรส เป็นไปตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1437 ดังนั้น สินสอดเป็นทรัพย์สิน เช่น เงิน ทองคำ หรืออาจเป็นทรัพย์สินอย่างอื่นที่ฝ่ายชายให้แก่พ่อ แม่ หรือผู้ปกครองหรืออาจเป็นผู้รับบุตรบุญธรรมของฝ่ายหญิง เป็นการตอบแทนที่ให้หญิงนั้นยอมสมรสกับตนเอง แต่เมื่อทำการหมั้นแล้ว หากฝ่ายหญิงไม่ทำการสมรสกับฝ่ายชายโดยผิดสัญญาหรือมีเหตุการณ์หรือพฤติการณ์บางอย่างที่ฝ่ายหญิงต้องรับผิด ทำให้ฝ่ายชายไม่ควรสมรสกับฝ่ายหญิงฝ่ายชายสามารถเรียกสินสอดคืนได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1437 วรรคสอง และวรรคสามบัญญัติเอาไว้