การขอปล่อยชั่วคราว (การขอประกันตัว)

การขอปล่อยชั่วคราว

       การปล่อยชั่วคราว คือ การอนุญาตให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยพ้นจากการควบคุมของเจ้าพนักงานศาล ตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อไม่ให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยถูกควบคุมหรือขังเป็นเวลานานเกินกว่าจำเป็นในระหว่างการสอบสวนหรือการพิจารณาคดี เพราะหากไม่จำเป็นต้องควบคุมหรือขังผู้ต้องหาหรือจำเลยไว้ก็ควรที่จะให้ปล่อยชั่วคราวไป ตามหลักการของรัฐธรรมนูญที่ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด และก่อนมีคำ
พิพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้

การขอปล่อยผู้ต้องหาหรือจำเลยชั่วคราวทำได้ ดังนี้

  1. ชั้นฝากขัง ขอปล่อยชั่วคราวได้เมื่อผู้ต้องหาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือพนักงานอัยการนำตัวมาขออนุญาตฝากขังระหว่างที่ยังสอบสวนไม่แล้วเสร็จ
  2. ชั้นพิจารณาของศาลชั้นต้น เมื่อผู้ต้องหาถูกพนักงานอัยการฟ้องต่อศาลแล้วก็จะเปลี่ยนฐานะจากผู้ต้องหาเป็นจำเลย จึงมีสิทธิขอปล่อยชั่วคราวต่อศาลได้ หรือในคดีที่ราษฎรเป็นโจทก์เมื่อศาลประทับฟ้องแล้วจะขอปล่อยชั่วคราวก่อนวันนัด ในวันนัดหรือหลังจากวันนัดที่ระบุในหมายเรียกให้มาแก้คดีก็ได้
  3. ชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา กรณีที่จำเลยถูกขังหรือจำคุกโดยผลของคำพิพากษาศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์ หรือศาลอุทธรณ์ภาค จะขอปล่อยชั่วคราวก่อนที่จะยื่นอุทธรณ์หรือยื่นฎีกาพร้อมกันหรือหลังจากยื่นอุทธรณ์หรือฎีกาก็ได้แล้วแต่กรณี

ผู้มีสิทธิยื่นคำร้องขอปล่อยผู้ต้องหาหรือจำเลยชั่วคราว

  1. ผู้ต้องหา จำเลย หรือบุคคลที่ถูกกักขังหรือจำคุกในกรณีอื่น เช่น ศาลออกห มายจับ พยานที่จงใจไม่มาศาล หรือกรณีละเมิดอำนาจศาล หรือลูกหนี้ตามคำพิพากษาที่ถูกจับกุมโดยเหตุจงใจขัดขืนคำบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม าตรา 300 เป็นต้น บุคลเช่นว่านี้มีสิทธิยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวได้
  2. ผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้อง เช่น บุพการี ผู้สืบสันดาน สามี ภริยา ญาติพี่น้อง ผู้บังคับบัญชา นายจ้างบุคคลที่เกี่ยวพันโดยทางสมรส บุคคลที่ศาลเห็นวามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดเสมือนเป็นญาติพี่น้อง หรือมีความสัมพันธ์ในทางอื่นที่ศาลเห็นสมควรให้ประกันได้

ประเภทของการปล่อยผู้ต้องหาหรือจำเลยชั่วคราว

การปล่อยชั่วคราว แบ่งออกเป็น 3 ประเภท

  1. การขอปล่อยชั่วคราวโดยไม่มีประกัน คือ การปล่อยผู้ต้องหาหรือจำเลยชั่วคราวโดยไม่ต้องทำสัญญาประกันและไม่ต้องมีหลักประกัน เพียงแต่ให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยสาบานหรือปฏิญาณตนว่าจะมาตามนัด หรือหมายเรียกเท่านั้น
  2. การปล่อยชั่วคราวโดยมีประกัน คือ การปล่อยผู้ต้องหาหรือจำเลยชั่วคราวโดยก่อนปล่อยไปผู้ประกันต้องลงลายมือชื่อในสัญญาประกันต่อศาลว่าจะปฏิบัติตามนัดหรือหมายเรียกของศาล ถ้าไม่ปฏิบัติตามจะถูกปรับตามจำนวนที่กำหนดไว้ในสัญญาประกัน
  3. การปล่อยชั่วคราวโดยมีประกันและหลักประกัน คือ การปล่อยผู้ต้องหาหรือจำเลยชั่วคราว โดยผู้ประกันหรือผู้เป็นหลักประกันต้องลงลายมือในสัญญาประกันต่อศาลว่าจะปฏิบัติตามนัดหรือหมายเรียกของ ศาล และมีการวางหลักประกันไว้เพื่อที่จะสามารถบังคับเอากับหลักปร ะกันตามจำนวนที่ระบุไว้ เมื่อมีการ ผิดสัญญาประกัน

ข้อพิจารณาในการปล่อยชั่วคราว

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 108 บัญญัติว่า “ในการวินิจฉัยคำร้องขอให้ปล่อยชั่วคราว ต้องพิจารณาข้อเหล่านี้ประกอบ ซึ่งได้แก่

    1. ความหนักเบาแห่งข้อหา
    2. พยานหลักฐานที่ปรากฏแล้วมีเพียงใด
    3. พฤติการณ์ต่างๆ แห่งคดีเป็นอย่างไร
    4. เชื่อถือผู้ร้องขอประกันหรือหลักประกันได้เพียงใด
    5. ผู้ต้องหาหรือจำเลยน่าจะหลบหนีหรือไม่
    6. ภัยอันตรายหรือความเสียหาย ที่จะเกิดจากการปล่อยชั่วคราวมีเพียงใดหรือไม่
    7. ในกรณีที่ผู้ต้องหาหรือจำเลยต้องขังตามหมายศาล ถ้ามีคำคัดค้านของพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ โจทก์ หรือผู้เสียหาย แล้วแต่กรณี ศาลพึงรับประกอบการวินิจฉัยได้

เอกสารที่ต้องใช้ประกอบคำร้องขอปล่อยชั่วคราว

ตามปกติผู้ร้องขอประกันจะนำต้นฉบับเอกสารพร้อมสำเนามายื่นต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อตรวจสอบความ
ถูกต้อง เอกสารที่ใช้ประกอบคำร้องขอให้ปล่อยชั่วคราว มีดังนี้

    1. บัตรประจำตัวประชาชน บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือบัตรประจำตัวพนักงานรัฐวิสาหกิจของผู้ร้องขอประกัน
    2. ทะเบียนบ้าน (ฉบับเจ้าบ้าน) ของผู้ร้องขอประกัน
    3. กรณีผู้ขอประกันมีคู่สมรสจะต้องแสดงเอกสารเพิ่มเติม ได้แก่
      (1) บัตรประจำตัวประชาชน บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือบัตรประจำตัวพนักงานรัฐวิสาหกิจ และทะเบียนบ้านของคู่สมรส
      (2) ใบสำคัญการสมรส
      (3) หนังสือให้ความยินยอมของคู่สมรส
      (4) ถ้าหากผู้ขอประกนเป็นหม้ายโดยการตายของคู่สมรสหรอการหย่าต้องแสดงเอกสารใบมรณบัตรคู่สมรสหรือใบสำคัญการหย่า
    4. กรณีชื่อเจ้าของหลักทรัพย์ไม่ตรงกับที่ปรากฏในเอกสารสิทธิในหลักทรัพย์ ต้องมีหนังสือรับรองว่าเป็นบุคคลเดียวกัน หรือหลักฐานการเปลี่ยนชื่อหรือชื่อสกุล
    5. กรณีผู้ต้องหาหรือจำเลยเป็นชาวต่างประเทศ หากมีหนังสือเดินทาง (Passport) ต้องนำมาแสดงด้วย
    6. บัญชีเครือญาติหรือหลักฐานแสดงความสัมพันธ์กับผู้ต้องหาหรือจำเลย

หลักประกันที่สามารถนำมาวางเป็นประกันเพื่อขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจำเลย

  1. เงินสด
  2. หลักทรัพย์อื่น เช่น
    (1) โฉนดที่ดิน หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก. หรือ น.ส.3)
    (2) พันธบัตรรัฐบาล สลากออมสิน สลากออมทรัพย์ทวีสินของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์กรเกษตร
    (3) สมุดเงินฝากประจำหรือใบรับเงินฝากประจำของธนาคาร
    (4) หนังสือค้ าประกันหรือหนังสือรับรองของธนาคารเพื่อชำระเบี้ยปรับแทนในกรณีผิดสัญญาประกัน
    (5) หนังสือรับรองของบริษัทประกันภัย
  3. บุคคลเป็นประกันหรือหลักประกัน ต้องมีตำแหน่งหน้าที่การงานหรือมีรายได้แน่นอน เช่น เป็นข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ข้าราชการการเมืองหรือทนายความ และเป็นผู้มีความสัมพันธ์กับผู้ต้องหาหรือจำเลย เช่น เป็นบุพการี ผู้สืบสันดาน สามี ภริยา ญาติพี่น้อง ผู้บังคับบัญชา นายจ้าง โดยสามารถทำสัญญาประกันได้ในวงเงินไม่เกิน 10เท่าของอัตราเงินเดือนหรือรายได้เฉลี่ยต่อเดือน
  4. ส่วนราชการ ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการช่วยเหลือข้าราชการหรือลูกจ้างของทางราชการที่ต้องหาคดีอาญา
  5. ผู้ต้องหาหรือจำเลยอาจทำสัญญาประกันตนเองได้

เอกสารเกี่ยวกับหลักประกันที่ใช้ในการขอให้ปล่อยชั่วคราว

  1. กรณีใช้โฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก./ น.ส.3) เป็นหลักประกันต้องมีเอกสารหลักฐาน ประกอบด้วย
    (1) เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ เช่น โฉนดที่ดิน หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก./น.ส.3) หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุด หรือเอกสารสำคัญที่ดินอื่นๆ เป็นต้น
    (2) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านหรือสำเนาหนังสือรับรองนิติบุคคลของผู้ถือกรรมสิทธิ์หรือผู้ถือกรรมสิทธิ์รวม ที่เป็นปัจจุบันซึ่งเจ้าพนักงานรับรองไม่เกิน 1 เดือน (หากมีการเปลี่ยนชื่อหรือชื่อสกุล ต้องนำหลักฐานการเปลี่ยนชื่อหรือชื่อสกุลมาประกอบด้วย)
    (3) แผนที่การไปที่ตั้งทรัพย์ โดยให้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการออกสู่ทางสาธารณะด้วย (แผนที่ต้องเขียนอย่างชัดเจนให้สามารถเดินทางไปได้อย่างถูกต้อง)
    (4) ภาพถ่ายปัจจุบันของหลักทรัพย์ พร้อมรายละเอียดของทรัพย์ เช่น เลขที่โฉนดที่ดิน บ้านเลขที่ หมู่ที่ หมู่บ้าน ซอย ถนน ตำบล/แขวง อำเภอ/เขต สถานที่สำคัญซึ่งอยู่ใกล้เคียง (ภาพถ่ายต้องชัดเจนสามารถบรรยายสภาพทรัพย์ได้)
    (5) ราคาประเมินที่ดินหรือราคาประเมินอาคารชุด ที่เป็นปัจจุบันซึ่งเจ้าพนักงานที่ดินรับรอง ไม่เกิน1 เดือน
    (6) ในกรณีที่จะนำสิ่งปลูกสร้างในที่ดินมาร้องขอปล่อยชั่วคราวพร้อมกับโฉนดหรือ น.ส.3 ก. หรือ น.ส.3 จะต้องแสดงหลักฐานสำเนาทะเบียนบ้านและหนังสือรับรองราคาประเมินสิ่งปลูกสร้าง จากอำเภอหรือเขตด้วย
  2. กรณีประกันด้วยตัวบุคคล ตำแหน่ง เป็นหลักประกัน ต้องมีเอกสารหลักฐาน ประกอบด้วย
    (1) หนังสือรับรองตำแหน่ง และเงินเดือนจากหน่วยงานต้นสังกัด โดยหนังสือรับรองต้องแสดงสถานะ ระดับ อัตราเงินเดือน เงินเดือนคงเหลือสุทธิ และหากมีภาระผูกพันในการทำสัญญาประกันหรือใช้ตนเองเป็นหลักประกันรายอื่นให้แสดงภาระผูกพันนั้นด้วย
  3. กรณีหลักทรัพย์เป็นพันธบัตรรัฐบาล สลากออมสิน หรือสลากออมทรัพย์ทวีสิน ต้องมีหนังสือรับรองพันธบัตรรัฐบาล สลากออมสิน หรือสลากออมทรัพย์ทวีสิน จากธนาคารด้วย
  4. กรณีใช้ใบรับฝากประจำหรือสมุดเงินฝากประจำธนาคารมาเป็นหลักประกัน ต้องมีใบรับฝากประจำหรือสมุดเงินฝากประจำธนาคาร และหนังสือรับรองของธนาคารว่ามีเงินอยู่ตามจำนวนที่ปรากฏในใบรับหรือสมุดเงินฝากจริง และจะไม่ให้มีการถอนเงินจำนวนดังกล่าวจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเพิกถอนไปเป็นลายลักษณ์อักษร
  5. กรณีใช้หนังสือค้ าประกันของธนาคาร เป็นหลักประกัน ต้องมีหนังสือค้ าประกันของธนาคาร
  6. กรณีส่วนราชการ ตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการช่วยเหลือข้าราชการหรือลูกจ้างของทางราชการที่ต้องหาคดีอาญา ต้องมีหนังสือรับรองตามแบบที่กำหนดไว้ในระเบียบดังกล่าว

การมอบอำนาจให้บุคคลอื่นนำหลักทรัพย์ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจำเลย

       กรณีเจ้าของโฉนดที่ดินมอบอำนาจให้บุคคลอื่นยื่นคำร้องขอประกันตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยแทน ต้องมีหนังสือมอบอำนาจ โดยให้นายอำเภอหรือผู้รักษาราชการแทนลงลายมือชื่อและประทับตราประจำตาแหน่งรับรองการมอบอำนาจ พร้อมทั้งนำบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ และทะเบียนบ้านของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจมาด้วย

กรณีศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยผู้ต้องหาหรือจำเลยชั่วคราว

  1. ผู้ขอประกันมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งหรือขอปล่อยชั่วคราวใหม่ได้ เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างสอบสวน หรือไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น ตามที่ผู้ต้องหา จำเลย หรือผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้องยื่นคำร้องขอประกันตัวไว้ ผู้ขอประกัน มีสิทธิยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นดังกล่าวได้ หรืออาจขอปล่อยชั่วคราวใหม่ได้
  2. กำหนดเวลาการยื่นอุทธรณ์ การอุทธรณ์กรณีศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว กฎหมายมิได้กำหนดระยะเวลาไว้ ผู้ต้องหา หรือจำเลยมีสิทธิยื่นอุทธรณ์ได้ แม้เกิน 1 เดือนนับแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง (เทียบคำสั่งคำร้องศาลฎีกาที่ 617/2528)
  3. กรณีศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว คำสั่งของศาลอุทธรณ์ที่ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวยืนตามศาลชั้นต้นเป็นที่สุด ทั้งนี้ ไม่ตัดสิทธิที่จะยื่นคำร้องขอประกันตัวใหม่

การขอปล่อยชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์

  1. ผู้มีสิทธิยื่นคำร้องขอประกันตัวในชั้นอุทธรณ์ ได้แก่
    (1) จำเลย
    (2) ผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้อง เช่น บุพการี ผู้สืบสันดาน สามี ภริยาญาติพี่น้อง ผู้บังคับบัญชา นายจ้าง บุคคลที่เกี่ยวพันโดยทางสมรส บุคคลที่ศาลเห็นว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดเสมือนเป็นญาติพี่น้อง หรือมีความสัมพันธ์ในทางอื่นที่ศาลเห็นสมควรให้ประกันได้
  2. สถานที่ยื่นคำร้องขอประกันตัวชั้นอุทธรณ์
    (1) ในกรณีที่ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาแล้ว แม้ยังไม่มีการยื่นอุทธรณ์ หรือมีการยื่นอุทธรณ์แล้วแต่ยังไม่ได้ส่งสำนวนไปยังศาลอุทธรณ์ ให้ยื่นคำร้องขอประกันตัวในระหว่างอุทธรณ์ที่ศาลชั้นต้นที่พิพากษาคดีนั้น
    (2) หากศาลชั้นต้นส่งสำนวนคดไปยังศาลอุทธรณ์แล้ว จะยื่นที่ศาลชั้นต้นที่พิพากษาคดีนี้ หรือจะยื่นโดยตรงที่ศาลอุทธรณ์ก็ได้
  3. ตราบใดที่ศาลอุทธรณ์ ยังไม่มีคำพิพากษามีสิทธิยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวได้ และหากศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว มีสิทธิยื่นอีกได้
  4. การอ่านคำสั่งของศาล เมื่อศาลอุทธรณ์ทำคำสั่งเสร็จแล้ว จะส่งคำสั่งไปให้ศาลชั้นต้นอ่านคำสั่งให้ผู้อุทธรณ์คำสั่งทราบ ศาลชั้นต้นจะแจ้งให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยและผู้ขอประกันทราบโดยเร็ว
  5. กรณีศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในชั้นอุทธรณ์ กรณีศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ผู้ขอประกันมีสิทธิ
    ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งต่อไปยังศาลฎีกาได้

การขอปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกา

  1. ผู้มีสิทธิยื่นคำร้องขอประกันตัวในชั้นฎีกา
    (1) จำเลย
    (2) ผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้อง เช่น บุพการี ผู้สืบสันดาน สามี ภริยาญาติพี่น้อง ผู้บังคับบัญชา นายจ้าง บุคคลที่เกี่ยวพันโดยทางสมรส บุคคลที่ศาลเห็นว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดเสมือนเป็นญาติพี่น้อง หรือมีความสัมพันธ์ในทางอื่นที่ศาลเห็นสมควรให้ประกันได้
  2. สถานที่ยื่นคำร้องขอประกันตัวในชั้นฎีกา
    (1) ในกรณีที่ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว แม้ยังไม่มีการยื่นฎีกา ให้ยื่นคำร้องขอประกันตัวในระหว่างฎีกาที่ศาลชั้นต้นที่พิพากษาคดีนั้น
    (2) หากศาลชั้นต้นส่งสำนวนคดีไปยังศาลฎีกาแล้ว จะยื่นที่ศาลชั้นต้นที่พิพากษาคดีนั้น หรือจะยื่นโดยตรงต่อศาลฎีกาก็ได้
  3. ตราบใดที่ศาลฎีกายังไม่มีคำพิพากษามีสิทธิยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวได้ และหากศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว มีสิทธิยื่นอีกได้
  4. การอ่านคำสั่งของศาล เมื่อศาลฎีกาทำคำสั่งเสร็จแล้ว จะส่งคำสั่งไปให้ศาลชั้นต้นอ่านคำสั่งให้ผู้อุทธรณ์คำสั่งทราบ ศาลชั้นต้นจะแจ้งให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยและผู้ขอประกันทราบโดยเร็ว

หน้าที่ของผู้ประกัน

  1. เมื่อศาลอนุญาตให้ปล่อยผู้ต้องหาหรือจำเลยชั่วคราวแล้ว ผู้ประกันต้องส่งตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยต่อศาลตามกำหนด หรือมอบอำนาจให้ผู้อื่นส่งแทนได้ หากผู้ต้องหาหรือจำเลยมาศาลแต่ผู้ประกันไม่มาศาล ไม่ถือว่าผิดสัญญาประกัน แต่ถือว่าผู้ประกันทราบคำสั่งศาลและวันนัดส่งตัวคราวต่อไป
  2. กรณีศาลอนุญาตให้ประกันโดยมีเงื่อนไข เช่น ให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานสอบสวนหรือเจ้าหน้าที่ศาล ให้เข้ารับการตรวจบ าบัดรักษาและรับคำปรึกษาแนะนำ หรือเข้าร่วมกิจกรรม ผู้ต้องหาหรือจำเลยและผู้ขอประกันต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว
  3. หากผู้ประกันไม่ส่งตัวผู้ต้องหาหรอจำเลยตามนัดโดยไม่มีเหตุอันสมควร หรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนด ถือเป็นการผิดสัญญาประกัน ศาลมีอำนาจสั่งบังคับตามสัญญาประกันได้

การขอถอนหลักประกัน การขอรับหลักทรัพย์หรือเงินสดที่เป็นหลักประกันคืนจากศาล

  1. ผู้ประกันอาจของถอนสัญญาประกันหรือขอถอนหลักประกันต่อศาลได้ โดยต้องส่งตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยต่อศาล เมื่อศาลอนุญาตความรับผิดตามสัญญาประกันเป็นอันสิ้นสุดลง
  2. เมื่อคดีถึงที่สุดหรือศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ถอนประกัน หรือสัญญาประกันสิ้นสุดลงด้วยเหตุอื่น ความรับผิดตามสัญญาประกันสิ้นสุดลง ผู้ประกันสามารถขอรับหลักประกันคืน โดยยื่นคำร้องต่อศาลและแนบหลักฐานคือ ใบรับหลักฐานหรือใบรับเงินที่ศาลออกให้เมื่อครั้งยื่นขอประกันตัว หากใบรับหลักฐานหรือใบรับเงินสูญหาย ต้องแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและนำใบรับแจ้งความมาแสดงต่อศาล

ขั้นตอนการยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว

  1. ผู้ขอประกันติดต่อขอประกันตัวผู้ต้องหรือจำเลย ที่งานบริการประชาชน ชั้น 2 พร้อมแสดงเอกสารหลักฐานประกอบการยื่นคำร้องขอประกันตัว
  2. เจ้าหน้าที่งานบริการประชาชนตรวจสอบเอกสารหลักฐาน และแจ้งหลักเกณฑ์การขอประกันตัวให้ผู้ขอประกันทราบ
  3. ผู้ขอประกันกรอกรายละเอียดแบบบันทึกข้อมูลผู้ประกัน คำร้องขอประกัน และสัญญาประกันพร้อมลงลายมือชื่อ
  4. เจ้าหน้าที่งานบริการประชาชนด าเนินการเสนอผู้พิพากษาพิจารณาสั่ง