กระทรวงแรงงาน เตรียมเจรจาอิสราเอล ให้นายจ้างดูแลสวัสดิการและความปลอดภัยแก่ลูกจ้างชาวไทย

กระทรวงแรงงาน เตรียมเจรจาอิสราเอล ให้นายจ้างดูแลสวัสดิการและความปลอดภัยแก่ลูกจ้างชาวไทย

  • กระทรวงแรงงาน เตรียมเจรจาอิสราเอล เพิ่มโควตาให้นายแจ้งดูแลสวัสดิการและความปลอดภัยแก่ลูกจ้างชาวไทย เงินเดือนเริ่ม 6 หมื่นบาท
  • ซึ่งปัจจุบันได้ประกาศยกเลิกชะลอการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในอิสราเอล
  • ทั้งนี้ แรงงานไทยยังมีความต้องการไปทำงานที่อิสราเอลเพราะมีรายได้สูง
  • กระทรวงแรงงานจะเดินทางไปอิสราเอลเพื่อเจรจาเพิ่มโควตาให้กับแรงงานไทยสามารถไปทำงานได้เพิ่มขึ้น
  • พร้อมทั้งเยี่ยมเยียนแรงงานไทยในอิสราเอลและดูแลสภาพความเป็นอยู่ ความปลอดภัยในการทำงาน

 

         นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีแรงงานไทยทำงานอยู่ในรัฐอิสราเอล 13,546 คน ส่วนใหญ่เดินทางไปทำงานด้วยวิธีกรมการจัดหางานจัดส่ง แจ้งการเดินทางด้วยตนเอง และบริษัทจัดหางานจัดส่ง ตามลำดับ โดยรัฐอิสราเอลเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการจัดส่งโดยรัฐ ผ่านโครงการความร่วมมือไทย-อิสราเอล เพื่อการจัดหางาน (Thailand – Israel Cooperation on the Placement of Workers : TIC) เพื่อไปทำงานภาคเกษตร มีระยะเวลาการจ้างงานตามสัญญาจ้าง 2 ปี ต่อได้ไม่เกิน 5 ปี 3 เดือน รายได้เฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 5,880 เชลเกล คิดเป็นเงินไทยประมาณ 60,000 บาทต่อเดือน ที่ผ่านมา (ตั้งแต่ปี 2564 – 2566) มีการจัดส่งแรงงานผ่านโครงการ TIC แล้วถึง 18,439 คน ประมาณการรายได้อย่างน้อย 67,879 ล้านบาท ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 กรมการจัดหางานได้ประกาศยกเลิกชะลอการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในรัฐอิสราเอล ทุกวิธีการเดินทาง และความพร้อมที่จะส่งแรงงานไทยไปทำงานในรัฐอิสราเอลอีกครั้ง เนื่องจากแรงงานไทยยังมีความต้องการไปทำงานที่อิสราเอลเพราะมีรายได้สูง นายจ้างเองก็ต้องการแรงงานไทยเป็นจำนวนมาก เพราะคนไทยมีความเชี่ยวชาญด้านการเกษตร มีความรับผิดชอบ และมีความอดทนสูง นอกจากงานภาคเกษตรแล้ว งานภาคก่อสร้างในรัฐอิสราเอลยังเป็นอีกโอกาสสำคัญของแรงงานไทย เพราะทราบว่านายจ้างมีความต้องการมากถึง 20,000 อัตรา ในเร็ว ๆ นี้จึงเป็นโอกาสดีที่คณะผู้บริหารกระทรวงแรงงานจะเดินทางไปรัฐอิสราเอลเพื่อเจรจาเพิ่มโควตาให้กับแรงงานไทยสามารถไปทำงานได้เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งเยี่ยมเยียนแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในรัฐอิสราเอล เพื่อดูแลความเป็นอยู่ สภาพการทำงานและความปลอดภัยในการทำงาน

          ด้านนายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า หลังจากที่กรมการจัดหางานได้ประกาศ “ยกเลิกการชะลอการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในรัฐอิสราเอล ทุกวิธีการเดินทาง” ได้ติดตาม และประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในรัฐอิสราเอล ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง โดยจะเชิญหน่วยงานด้านการทหารมาให้ความรู้เรื่องแนวปฏิบัติ/รับมือ สถานการณ์ฉุกเฉิน/ภาวะสงคราม แก่คนหางานก่อนเดินทางไปทำงานรัฐอิสราเอล และเชิญบริษัทจัดหางานที่จัดส่งแรงงานไปทำงานในรัฐอิสราเอลมารับทราบแนวปฏิบัติเพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อแรงงานไทยมากที่สุด

          ทั้งนี้ สามารถติดตามข่าวสารของกรมการจัดหางาน ผ่านเว็บไซต์ doe.go.th หรือทางเพจเฟซบุ๊ก กรมการจัดหางาน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694

 


 

ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/83511