สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ย้ำถูก ‘งูฉก’ ถือเป็นกรณีวิกฤตฉุกเฉินอันตรายถึงชีวิต เข้ารักษาได้ทุกที่

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ย้ำถูก ‘งูฉก’ ถือเป็นกรณีวิกฤตฉุกเฉินอันตรายถึงชีวิต เข้ารักษาได้ทุกที่

          สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ย้ำถูก ‘งูฉก’ ถือเป็นกรณีวิกฤตฉุกเฉินอันตรายถึงชีวิต เข้ารักษาที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดได้ทุกที่ จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้บอกเล่าประสบการณ์คุณแม่ถูกงูเขียวหางไหม้ฉก แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาลที่ไหนก็ได้ที่ใกล้ที่สุด เพราะถือว่าเป็น “อาการวิกฤติฉุกเฉิน” เสี่ยงต่อชีวิต

          สปสช. ย้ำ ‘ถูกงูกัด (ฉก) ถือเป็นกรณีวิกฤตฉุกเฉินอันตรายถึงแก่ชีวิต สามารถเข้ารับบริการที่โรงพยาบาล(หน่วยบริการ) ที่ให้ที่สุดได้ทุกแห่ง เพื่อทำการรักษาช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที

          สอบถามเพิ่มเติมรายละเอียดการใช้สิทธิฉุกเฉินวิกฤตได้ผ่านทางสายด่วน สปสช.1330 หรือ ไลน์ไอดี : @nhso


 


          สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แชร์โพสต์ที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้บอกเล่าประสบการณ์คุณแม่ถูกงูเขียวหางไหม้ฉก แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาลที่ไหนก็ได้ที่ใกล้ที่สุด เพราะถือว่าเป็น “อาการวิกฤติฉุกเฉิน” เสี่ยงต่อชีวิต ซึ่งเจ้าตัวได้พาคุณแม่เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลบางปะกอก 9 โดยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้แจ้งเรื่องสิทธิพื้นฐานของสปสช. หรือสิทธิบัตรทอง ให้ญาติคนไข้ได้ทราบว่าสามารถใช้สิทธิบัตรทองในกรณีวิกฤติฉุกเฉินได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย รักษาใน 72 ชั่วโมง ยกเว้นค่าใช้จ่ายส่วนเกิน พร้อมชื่นชมและขอบคุณ บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ รพ. ทุกคนที่รักษาด้วยจรรยาบรรณ นอกจากนี้เจ้าตัวยังบอกในตอนท้ายด้วยว่า ‘เจ้าหน้าที่ฝากบอกว่า ถ้ามีอาการวิกฤติฉุกเฉิน ให้ถามหาสิทธิได้เลยนะ จะได้ช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายได้มาก’


          โดย สปสช. ได้แชร์โพสต์ต้นทางและระบุข้อความว่า ‘ถูกงูกัด (ฉก) ถือเป็นกรณีวิกฤตฉุกเฉินอันตรายถึงแก่ชีวิต สามารถเข้ารับบริการที่โรงพยาบาล(หน่วยบริการ) ที่ให้ที่สุดได้ทุกแห่ง ย้ำนะคะ ทุกแห่งจริงๆ เพื่อทำการรักษาช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที สอบถามเพิ่มเติมรายละเอียดการใช้สิทธิฉุกเฉินวิกฤตได้ผ่านทางสายด่วน สปสช.1330 หรือ ไลน์ไอดี : @nhso


          สปสช.ต้องขอขอบคุณเจ้าของเรื่องที่นำมาแชร์ประสบการณ์ตรงของคุณแม่นะคะ และยิ่งไปกว่านั้น สปสช.ขอขอบคุณ บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลบางปะกอก 9 ที่แนะนำการใช้สิทธิฉุกเฉินวิกฤต ให้ญาติและคนไข้นะคะ’

สำหรับ 6 อาการวิกฤต หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีอาการเหล่านี้ รีบไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันที

  • หมดสติ ไม่รู้สึกตัว ไม่หายใจ
  • หายใจเร็ว หอบเหนื่อยรุนแรง หายใจติดขัดมีเสียงดัง
  • เจ็บหน้าอกเฉียบพลัน รุนแรง
  • ซึมลง เหงื่อแตก ตัวเย็น
  • แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก อาการพูดผิดปกติ หรือชักต่อเนื่องไม่หยุด
  • มีอาการอื่นร่วมที่มีผลต่อการหายใจ ระบบการไหลเวียนโลหิต และระบบสมองที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต


          คนไทยทุกคนไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถใช้สิทธิ UCEP ได้ทันที ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน จนพ้นวิกฤตและสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างปลอดภัย (ไม่เกิน 72 ชั่วโมง) เพียงยื่นบัตรประชาชนของผู้ป่วย และแจ้งใช้สิทธิ UCEP ตามนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่ เจ็บป่วยฉุกเฉิน โทร. 1669



ที่มา : t.ly/cKqxW