การลงทะเบียนโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ของประชาชนกลุ่มที่มี Smart Phone

กำหนดการของประชาชนกลุ่มที่มี Smart Phone

สมัครเข้าร่วมโครงการ

    • 1 สิงหาคม – 15 กันยายน 2567
      ** เปิดลงทะเบียน ในวันที่ 1 สิงหาคม เวลา 8.00 น. เป็นต้นไป หลังจากนั้นลงได้ตลอด 24 ชม.

จุดบริการสอบถามข้อมูล (Walk-in) และให้ช่วยเหลือเบื้องต้นในการลงทะเบียนโครงการ ฯ

ตรวจสอบผลการลงทะเบียน

    • 22 กันยายน 2567 ⚠️ เลื่อนออกไปจากกำหนดการเดิม 📢 รอการประกาศวันลงทะเบียนใหม่อย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง
      ประชาชนทั่วไป กลุ่มที่มี Smart Phone จะได้รับผลแจ้งสิทธิพร้อมกัน ผ่านการแจ้งเตือนในแอปพลิเคชั่นทางรัฐ

สำหรับผู้ที่ไม่มีสมาร์ตโฟน

    • จะเปิดให้ลงทะเบียนในรอบถัดไป ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน – 15 ตุลาคม 2567 ⚠️ เลื่อนออกไปจากกำหนดการเดิม 📢 รอการประกาศวันลงทะเบียนใหม่อย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง
    • สถานที่ที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งจะมีการแจ้งระบุสถานที่อย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยจะต้องใช้บัตรประชาชนในการใช้จ่าย และต้องตรวจสอบคุณสมบัติสถานะบุคคลตามทะเบียนบ้าน

คุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับเงินดิจิทัล

  1. กลุ่มประชากรที่มีที่อยู่ในทะเบียนบ้าน
  2. สัญชาติไทย
  3. มีอายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ปิดรับลงทะเบียน (ก่อน 16 กันยายน 2567)
  4. ไม่เป็นผู้มีรายได้เกิน 840,000 บาทสำหรับปีภาษี 2566 โดยกรมสรรพากรประมวลผลข้อมูลผู้มีรายได้ 7 วัน ก่อนเปิดลงทะเบียนโครงการ
  5. ไม่เป็นผู้ที่มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) รวมกันเกิน 500,000 บาท โดยตรวจสอบข้อมูลเงินฝาก 6 ประเภท ได้แก่
         (1) เงินฝากกระแสรายวัน
         (2) เงินฝากออมทรัพย์
         (3) เงินฝากประจำ
         (4) บัตรเงินฝาก
         (5) ใบรับฝากเงิน และ
         (6) ผลิตภัณฑ์เงินฝากในชื่อเรียกอื่นใดที่มีลักษณะเดียวกับของ (1) – (5)
         **ทั้งนี้ เงินฝากดังกล่าวให้หมายความถึงเฉพาะเงินฝากที่อยู่ในรูปสกุลเงินบาทเท่านั้น ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 และไม่รวมถึงเงินฝากในบัญชีร่วม
  6. ต้องไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำ
  7. ต้องไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ
  8. ต้องไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ
  • เงินฝากทุกบัญชี รวมกันไม่เกิน 500,000 บาท
  • นับเฉพาะบัญชีเงินฝากอย่างเดียว รวมทุกบัญชีธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ
  • นับเฉพาะเงินฝากที่อยู่ในสกุลเงินบาทเท่านั้น
  • เงินเกษียณ ถ้ามีในบัญชีก็นับรวมด้วย
  • ไม่นับ
    –  กองทุนรวม ,เงินฝากสหกรณ์, สลากออมสิน, สลาก ธ.ก.ส. เพราะตรวจสอบไม่ได้
    –  เงินสดไม่นับ 

คือ สถาบันการเงินของรัฐที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น ได้แก่

    1. ธนาคารออมสิน
    2. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
    3. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)
    4. ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) (Update 2024-07-22)
  • คนเร่ร่อน หากมีสัญชาติไทยและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ก็สามารถเช้าร่วมโครงการฯ ได้
  • กลุ่มชาติพันธุ์ จากการตรวจสอบเบื้องต้นกลุ่มนี้อาจมีชื่อในทะเบียนบ้าน แต่ไม่ได้มีสัญชาติไทย จึงไม่สามารถเข้าร่วมโครงการฯ ได้
  • กลุ่มทะเบียนบ้านกลาง คือ บุคคลที่ย้ายออกและยังไม่ได้เข้าบ้านใหม่ เช่น คนหนีคดี หายสาบสูญ กลุ่มนี้ จึงไม่ได้ถือว่ามีชื่อตามเกณฑ์ของโครงการฯ

กรณีแก้ที่อยู่ไม่ตรง หรือต้องการย้ายทะเบียนบ้าน

  • ขอให้ประชาชนดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนการทำกดเข้าร่วมโครงการ ฯ เพราะระบบวอลเล็ต จะล๊อคที่อยู่ตอนลงทะเบียน 
  • การย้ายที่อยู่หลังลงทะเบียนทำได้ แต่ไม่เปลี่ยนโลเคชั่นการใช้

ดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ"

ดาวน์โหลด

การติดตั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS

    1. เปิดแอปพลิเคชัน “App Store”
    2. กดปุ่มแว่นขยายเพื่อค้นหาแอปพลิเคชัน
    3. พิมพ์ “ทางรัฐ”
    4. กดปุ่ม “ติดตั้ง” หรือ “Install”

การติดตั้งบนระบบปฏิบัติการ Android

  1. เปิดแอปพลิเคชัน “Play Store”
  2. กดปุ่มแว่นขยายเพื่อค้นหาแอปพลิเคชัน
  3. พิมพ์ “ทางรัฐ”
  4. กดปุ่ม “ติดตั้ง” หรือ “Install”

⚠️⚠️ หากท่านดาวน์โหลดและติดตั้งแอป ฯ ทางรัฐก่อนวันที่ 1 สิงหาคม 67 ขอให้ทำการอัพเดทแอป ฯ ทางรัฐก่อนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ เนื่องจากมีการอัพเดทเวอร์ชั่น ⚠️⚠️

การลงทะเบียนแอป ฯ ทางรัฐ และ ลงทะเบียนโครงการ ฯ

ก่อนวันที่ 1 สิงหาคม 2567

    1. เปิดแอป ฯ ทางรัฐ > กดปุ่ม สมัครสมาชิก / เข้าสู่ระบบ > กดที่คำว่า สมัครสมาชิก
    2. กดปุ่ม สมัครด้วยบัตรประชาชน ไม่ต้องใช้แอปอื่น ไม่ต้องไปเสียบบัตรที่ Counter Service ช่วยให้ท่านลงทะเบียนได้ง่ายกว่าเดิม
    3. อ่านข้อกำหนดและความเป็นส่วนตัว > กด ✅ ที่ ฉันยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไข > กด ยอมรับ
    4. อ่านข้อแนะนำในการถ่ายรูปบัตรประชาชน จากนั้น ⚪ กดปุ่มเพื่อถ่ายรูป
    5. กรอกข้อมูลของท่านและตรวจสอบให้ถูกต้องตามบัตรประชาชน > กดปุ่ม  ยืนยันตัวตน
    6. อ่านข้อแนะนำในการสแกนใบหน้า > เริ่มสแกนใบหน้าของท่าน
    7. กำหนด ชื่อบัญชีผู้ใช้และรหัสผ่าน ในการเข้าสู่แอป ฯ แล้วกด ยืนยัน
    8. ตั้งค่า PIN Code 6 หลัก แล้วกด ยืนยัน PIN Code อีกครั้ง
    9. เปิดใช้งานการสแกนใบหน้าของท่าน โดยกดปุ่ม ใช้งาน
    10. จากนั้น กด เริ่มใช้งาน ได้เลย 
    11. ระบบจะพาท่านกลับมาที่หน้าหลัก ให้กดที่หมวดหมู่ นโยบายรัฐบาล
    12. เลือกที่บริการ ลงทะเบียนขอรับสิทธิ Digital Wallet
    13. อ่านรายละเอียดบริการ จากนั้นกดปุ่ม อนุญาต แล้วเตรียมพร้อมรอติดตามประกาศวันกดยืนยันขอรับสิทธิจากรัฐบาลอย่างเป็นทางการ

หมายเหตุ 

    • กรณีที่สแกนหน้าไม่ผ่าน สามารถสร้างบัญชีและเข้าใช้งานแอปทางรัฐได้ก่อน แล้วค่อยทำการสแกนใบหน้าภายหลัง โดยกดที่ปุ่ม สร้างบัญชี
    • ท่านสามารถเข้าชมคลิปวีดีโอขั้นตอนในการสมัครเข้าใช้งานแอปฯ “ทางรัฐ” ได้ที่ Youtube ช่อง DGA Thailand

ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป

1. กลุ่มที่ไม่เคยลงทะเบียนและยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ”

    1. ดาวน์โหลดแอป ฯ ทางรัฐ ผ่าน Google Play หรือ App Store
    2. เข้าสู่แอป ฯ ทางรัฐ แล้วกดปุ่ม ลงทะเบียนรับสิทธิโครงการฯ ที่หน้าแรกของแอปพลิเคชันทางรัฐ
    3. อ่านรายละเอียดเงื่อนไขผู้ได้รับสิทธิ ฯ แล้วกด ถัดไป
    4. อ่านข้อกำหนดและความเป็นส่วนตัวของโครงการ ฯ จากนั้น กด ✅ ฉันยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไข แล้วกด ยอมรับ
    5. อ่านข้อกำหนดและความเป็นส่วนตัวของโครงการ ฯ จากนั้น กด ✅ ฉันยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไข แล้วกด ยอมรับ
    6. กรอกเลขบัตรประชาชนและเลขหลังบัตรประชาชน แล้วกดปุ่ม ตรวจสอบข้อมูล
    7. กรอกข้อมูลส่วนบุคคล คำนำหน้า ชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด ตามบัตรประชาชนให้ถูกต้อง แล้วกดปุ่ม ดำเนินการต่อ ** กรณีไม่ทราบวันเกิด เดือนเกิด ให้เลือกเครื่องหมายลบ หรือ – 
    8. อ่านข้อคำแนะนำในการสแกนใบหน้า (เพื่อใช้ในการยืนยันอัตลักษณ์)
      แล้วกดปุ่น เริ่มสแกนใบหน้า
    9. กรุณาจัดวางใบหน้าให้อยู่ในกรอบ เมื่อสแกนใบหน้าสำเร็จ ระบบจะนำท่านสู่ขั้นตอนถัดไป
    10. หน้าจอจะแสดงผล รับข้อมูลการลงทะเบียนของคุณเรียบร้อยแล้ว
    11. ระบบจะเริ่มทำการตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคุลของท่าน ในขั้นตอนนี้ท่านสามารถปิดแอป ฯ และกลับเข้ามาตรวจสอบผลภายหลังได้ 
      ** กรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคล หรือผลการสแกนหน้าไม่ตรงกับฐานข้อมูลทะเบียนราษฏร์ ระบบจะแสดงข้อแนะนำเพื่อให้ท่านปฏิบัติตามแก้ไขและดำเนินการอีกครั้ง
    12. เมื่อระบบตรวจสอบข้อมูลเสร็จสิ้นสมบูรณ์ จะมีกล่องข้อความแจ้งให้ผู้ใช้งานสร้างบัญชีผู้ใช้ ให้กดปุ่น สร้างบัญชีทางรัฐ
    13. ตั้งชื่อบัญชีผู้ใช้และรหัสผ่านในการเข้าสู่แอป ฯ ทางรัฐ และกดปุ่น ยืนยัน
    14. ตั้งรหัส Pin Code 6 หลัก สำหรับเข้าใช้งานแอป ฯ ทางรัฐ
    15. เมื่อสิ้นสุดขั้นตอนนี้ จะถือว่าลงทะเบียนสำเร็จ ระบบจะส่งข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเริ่มเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบสิทธิตามเงื่อนไขโครงการ ฯ

หมายเหตุ อย่าลบแอป ฯ ทางรัฐ หากกดปุ่ม ลงทะเบียนรับสิทธิโครงการฯ แล้ว

ขั้นตอนการลงทะเบียนสำหรับผู้ที่ไม่เคยลงทะเบียนแอป ฯ ทางรัฐ
(ผู้ใช้ใหม่/ไม่เคยติดตั้งแอป ฯ ทางรัฐ)
คลิกเพื่อดาวน์โหลดภาพขั้นตอนการลงทะเบียนขนาดใหญ่

2. กลุ่มที่เคยลงทะเบียนและยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ”

    1. คลิกปุ่ม ลงทะเบียนรับสิทธิโครงการฯ ที่หน้าแรกของแอปพลิเคชันทางรัฐ
      ** หากไม่ขึ้นปุ่มนี้ ให้ท่านทำการอัพเดทแอป ฯ ทางรัฐ เนื่องจากมีการอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 67 (โดยเข้าไปที่ Google Play หรือ App Store ค้นหาแอป ฯ ทางรัฐ แล้วกดอัพเดท)
    2. กด อนุญาต ให้แอปพลิเคชันเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
      ** ระบบอาจให้ท่านสแกนหน้าเพื่อยืนยันอัตลักษณ์ หรือกรอกเบอร์โทรศัพท์ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกยังไม่สมบูรณ์
    3. อ่านรายละเอียดเงื่อนไขผู้ได้รับสิทธิ ฯ แล้วกด ถัดไป
    4. อ่านข้อกำหนดและความเป็นส่วนตัว จากนั้นกด ✅ ฉันยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไข แล้วกด ยอมรับ
    5. เมื่อสิ้นสุดขั้นตอนนี้ ระบบจะแสดงหน้าจอ ตรวจสอบสิทธิดิจิทัลวอลเล็ต จะถือว่าการลงทะเบียนสำเร็จ ระบบจะนำข้อมูลส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสิทธิตามเงื่อนไขของโครงการฯ ท่านสามารถกลับเข้ามาตรวจสอบสถานะได้โดยใช้ข้อมูลบัญชีผู้ใช้ของท่าน

หมายเหตุ อย่าลบแอป ฯ ทางรัฐ หากกดปุ่ม ลงทะเบียนรับสิทธิโครงการฯ แล้ว

ผู้ที่เคยลงทะเบียนแอป ฯ ทางรัฐ
(ติดตั้งแอป ฯ และยืนยันตัวตนแล้ว)

คลิกเพื่อดาวน์โหลดภาพขั้นตอนการลงทะเบียนขนาดใหญ่

ตรวจสอบผลการลงทะเบียน/ตรวจสอบสถานะการรับสิทธิโครงการ ฯ

วันแจ้งผลสิทธิดิจิทัลวอลเล็ต

  • 22 กันยายน 2567 เป็นต้นไป ⚠️ เลื่อนออกไปจากกำหนดการเดิม 📢 รอการประกาศวันลงทะเบียนใหม่อย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง

ช่องทางตรวจสอบผลการลงทะเบียน

  • การแจ้งเตือนในแอปพลิเคชั่นทางรัฐ

ขั้นตอนการตรวจสอบผลการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ฯ

  1. เปิดแอป ฯ ทางรัฐ ทำการเข้าสู่ระบบ จากนั้นกดปุ่ม ตรวจสอบสถานะ
  2. ระบบจะขออนุญาตเข้าถึงข้อมูล และขอเบอร์โทรศัทพ์มือถือเพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน ให้ท่านกดปุ่น ยืนยันข้อมูล
  3. กรอกเบอร์โทรศัพท์ และกดปุ่น รับรหัสทาง SMS (OTP)
  4. กรอกรหัส OTP ที่ได้รับ และกดปุ่ม ยืนยันเบอร์โทรศัพท์มือถือ
  5. กดปุ่ม อนุญาต ให้แอป ฯ เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
  6. ระบบจะแสดงผลว่า สถานะในการรับสิทธิตามโครงการ ฯ ของท่านอยู่ในขั้นตอนใด
    –  ขั้นตอนที่ 3 อยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ ระบบอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลของผู้ลงทะเบียนกับหน่วยงานเจ้าของข้อมูลตามหลักเกณฑ์เงื่อนไข การเข้าร่วมโครงการฯ ตามที่คณะกรรมการนโยบาย ฯ และคณะอนุกรรมการกำกับ ฯ กำหนด
    –  ขั้นตอนที่ 4 ไม่ได้รับสิทธิ์ ระบบทำการประมวลผลแจ้งข้อมูลผู้สมัครว่าข้อใดที่ไม่ตรงกับเงื่อนไขประชาชนกลุ่มเป้าหมาย โดยประชาชนสามารถขอทบทวนสิทธิกับหน่วยงานที่ไม่ผ่านเกณฑ์ก่อนดำเนินการบนแอป ฯ ทางรัฐอีกครั้ง ตามระยะเวลาที่กำหนด
    –  ขั้นตอนที่ 5 ได้รับสิทธิดิจิทัลวอลเล็ต  ระบบตรวจสอบข้อมูลผู้ลงทะเบียนกับหน่วยงานเจ้าของข้อมูลตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขของโครงการฯ และผู้ลงทะเบียนมีข้อมูลตรงกับประชาชนกลุ่มเป้าหมายและได้รับสิทธิ

การขอทบทวนสิทธิ์

ช่องทางการขอทบทวนสิทธิ์

    • ยืนทบทวนสิทธิ์ ผ่านแอปทางรัฐ
    • โดยจะเปิดให้ทบทวนสิทธิ์หลังจากปิดรับลงทะเบียนแล้ว และกำหนดเป็นระยะเวลา

ขั้นตอนการขอทบทวนสิทธิ์

    • ตรวจสอบสถานะ
      1. เปิดแอปพลิเคชั่น ทางรัฐ 
      2. หน้าแรก > กดปุ่ม “ตรวจสอบสถานะ”
      3. ระบบแจ้งผล “ท่านไม่ได้รับสิทธิ์” โดยแจ้งประชาชนว่าให้ติดต่อหน่วยงานใด
    • ติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูลตามเงื่อนไขโครงการ ฯ
      • ประชาชนติดต่อกับหน่วยงานเจ้าของข้อมูลตามเงื่อนไขโครงการ ฯ เพื่อทำการแก้ไขข้อมูลที่ไม่ผ่านเกณฑ์ (จะมีแจ้งในแอป ฯ) ตัวอย่าง เช่น
        คุณสมบัติไม่ผ่าน กรณีมีเงินฝากเกินต้องติดต่อธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่ผู้ลงทะเบียนฝากเงิน
        – คุณสมบัติไม่ผ่านกรณีมีเงินได้พึงประเมินเกิน ต้องติดต่อกรมสรรพากร
    • เมื่อหน่วยงานแก้ไขข้อมูลให้เสร็จแล้ว ให้ประชาชนทำการตรวจสอบสถานะอีกครั้ง
      1. หน้าแจ้งผล “ท่านไม่ได้รับสิทธิ์” > กดปุ่ม “ดำเนินการต่อ”
      2. กดปุ่ม “ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว” 
      3. อ่านรายละเอียดการสมัคร > กดปุ่ม “ถัดไป” 
      4. อ่านข้อกำหนดและความเป็นส่วนตัว > ติ๊ก “ฉันยอมรับ” > กดปุ่ม “ยอมรับ”
      5. รอผลการตรวจสอบการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ฯ

ระยะเวลาตรวจสอบสิทธิ์

    • ใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 1-2 สัปดาห์

ถามตอบ ประชาชนกลุ่มที่มี Smart Phone

คุณสมบัติผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ ฯ

คุณสมบัติประชาชนที่จะสามารถเข้าร่วมโครงการฯ มีดังนี้

  1. กลุ่มประชากรที่มีที่อยู่ในทะเบียนบ้าน 
  2. สัญชาติไทย
  3. มีอายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ปิดรับลงทะเบียน
  4. ไม่เป็นผู้มีรายได้เกิน 840,000 บาทสำหรับปีภาษี 2566 โดยกรมสรรพากรประมวลผลข้อมูลผู้มีรายได้ 7 วัน ก่อนเปิดลงทะเบียนโครงการ
  5. ไม่เป็นผู้ที่มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันเกิน 500,000 บาท 
    • โดยตรวจสอบข้อมูลเงินฝาก 6 ประเภท ได้แก่
      (1) เงินฝากกระแสรายวัน
      (2) เงินฝากออมทรัพย์
      (3) เงินฝากประจำ   
      (4) บัตรเงินฝาก
      (5) ใบรับฝากเงิน และ
      (6) ผลิตภัณฑ์เงินฝากในชื่อเรียกอื่นใด ที่มีลักษณะเดียวกับของ (1) – (5)
    • ทั้งนี้ เงินฝากดังกล่าวให้หมายความถึงเฉพาะเงินฝากที่อยู่ในรูปสกุลเงินบาทเท่านั้น ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 และไม่รวมถึงเงินฝากในบัญชีร่วม 
    • สถาบันการเงินเฉพาะกิจ 4 แห่งได้แก่
      –  ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
      –  ธนาคารออมสิน
      –  ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
      –  ธนาคารอาคารสงเคราะห์
  6. ไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำ
  7. ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ
  8. ไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ

คุณสมบัติประชาชนที่สำคัญ ได้แก่  1 มีสัญชาติไทย และ 2. มีที่อยู่ในทะเบียนบ้าน ดังนั้น 

  1. คนเร่ร่อน หากมีสัญชาติไทยและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ก็สามารถเช้าร่วมโครงการฯ ได้
  2. กลุ่มชาติพันธุ์ จากการตรวจสอบเบื้องต้นกลุ่มนี้อาจมีชื่อในทะเบียนบ้าน แต่ไม่ได้มีสัญชาติไทย จึงไม่สามารถเข้าร่วมโครงการฯ ได้
  3. กลุ่มทะเบียนบ้านกลาง คือ บุคคลที่ย้ายออกและยังไม่ได้เข้าบ้านใหม่ เช่น คนหนี้คดีหายสาญสูญ กลุ่มนี้ จึงไม่ได้ถือว่ามีชื่อตามเกณฑ์ของโครงการฯ

ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่ผู้ลงทะเบียนฝากเงิน

การนับวัน จะนับ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 เท่านั้น โดยไม่ได้สนใจวันก่อนหน้าว่าท่านมีเงินในบัญชีเท่าไหร่ หาก ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 มีเงินในบัญชีเกิน 500,000 บาท คือจะไม่ได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการ

ทางรัฐบาลมีการกำหนดเป็นไตรมาสมาก่อนแล้วว่าต้องเป็นช่วงไหนบ้าง (เป็นนโยบายจากทางรัฐบาล)

  • ผู้ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านกลาง ไม่สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ 
  • หากต้องการลงทะเบียน ให้ย้ายเข้าทะเบียนบ้านอื่น ก่อนทำการลงทะเบียน

ไม่กำหนด แต่ ณ วันที่สมัครจนถึงวันที่ตรวจสอบ จะต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน

  • ขั้นตอนการตรวจสอบสิทธิ์ตามเงื่อนไขโครงการฯ ระบบจะตรวจสอบข้อมูลจากที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ไม่ได้ตรวจจากบัตรประจำตัวประชาชน
  • แต่ทั้งนี้แนะนำให้ไปทำบัตรใหม่ เพื่อให้ข้อมูลอัพเดท และหากมีการย้ายทะเบียนควรดำเนินการให้แล้วเสร็จอย่างน้อย 1- 2 วัน จึงลงทะเบียนโครงการฯ ต่อไป

ต้องลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ฯ โดย

  1. ดาวน์โหลดและติดตั้งแอป ฯ ทางรัฐ 
  2. ลงทะเบียนใช้งานแอป ฯ ทางรัฐ และทำการยืนยันตัวตน 
  3. วันที่ 1 สิงหาคม – 15 กันยายน 2567 คลิกปุ่ม “ลงทะเบียนรับสิทธิโครงการฯ” ที่หน้าแรกของแอป ฯ ทางรัฐ เพื่อเข้าร่วมโครงการ

จากข้อกำหนดคุณสมบัติ ไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำ

  • ผู้ต้องโทษ/ พักโทษ ใส่กำไล EM = อยู่นอกเรือนจำ 
  • หากลงทะเบียนรับสิทธิ์ทัน ในช่วงที่เปิดรับ ก็สามารถใช้สิทธิ์ได้ 
  • โดยผู้ได้รับสิทธิ์ ต้องไม่เข้าเงื่อนไขข้ออื่น เช่น ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืน ในมาตรการ/โครงการอื่นๆ ของรัฐ เป็นต้น

ทั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการแจ้งรายละเอียดเพื่อดูแลกลุ่มนี้ต่อไปชัดเจนอีกครั้ง

ได้ เพราะถือเป็นว่าประชาชนคนไทยมีบัตรประชาชน และไม่ได้มีข้อห้ามลงทะเบียนแต่อย่างใด

ปัญหาช่องทางการลงทะเบียน

1 ช่องทาง คือ แอปพลิเคชั่น ทางรัฐ บนสมาร์ทโฟน

  • หากประชาชนมีแอป ThaiD และเคยยืนยันตัวตนกับ ThaiD แล้วสามารถพิสูจน์ยืนยันตัวตน (KYC) ผ่านแอป ThaiD ได้เลย
  • แต่หากยังไม่มีแอป ThaiD ขอแนะนำให้ทำการพิสูจน์ยืนยันตัวตน (KYC) กับแอปทางรัฐเลย

ปัญหาดาวน์โหลดและติดตั้งแอป ฯ ทางรัฐ

ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันที่เก่ากว่าที่ระบุอาจมีประเด็นด้านความมั่นคงปลอดภัย มีความเสี่ยงต่อการถูกติดตั้งซอฟต์แวร์ไม่พึงประสงค์ ขอให้ท่านอัพเดทระบบปฏิบัติการให้เป็นเวอร์ชันปัจจุบัน

  • ยังไม่มีให้ดาวน์โหลดจาก HUAWEI APPGallery โดยตรงเนื่องจากอยู่ระหว่างการพัฒนา หากเรียบร้อยแล้วจะมีการประชาสัมพันธ์ให้ทราบอีกครั้ง
  • แต่ผู้ที่ใช้สมาร์ตโฟนหัวเว่ย สามารถติดตั้งผ่าน Google Play ได้ โดยมีวิธีดำเนินการดังนี้
    1. ไปที่ HUAWEI APPGallery
    2. ค้นหาคำว่า “Google Play” แล้วกดติดตั้ง
    3. หลังจากติดตั้งเสร็จแล้ว ให้นำแอป Google Play ไปไว้หน้าแรก ด้วยการกดค้างไว้
    4. กดเข้าแอป Google Play และล็อกอินใช้งาน ก็จะสามารถโหลดแอปทางรัฐมาใช้งานได้

  • สมาร์ทโฟนของท่านอาจมีการตั้งค่าบางอย่างที่มีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตี หรืออาจมีซอฟต์แวร์ไม่พึงประสงค์
  • ขอความกรุณาท่านแก้ไขการตั้งค่าดังกล่าว หรือลบซอฟต์แวร์ไม่พึงประสงค์ออกจากเครื่อง
  • อ่านเพิ่มเติม

ต้องขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ เนื่องจากบริการบนทางรัฐเป็นบริการที่เชื่อมโยงกับข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ซึ่งบางครั้งระบบของทางหน่วยงานอาจมีการปรับปรุงข้อมูลเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น กรุณาทดลองเข้าใช้บริการใหม่ภายหลัง

ต้องขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ เนื่องจากบริการบนทางรัฐเป็นบริการบนทางรัฐเป็นบริการที่เชื่อมโยงกับข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐต่างๆซึ่งบางครั้งระบบของทางหน่วยงานอาจมีการปรับปรุงข้อมูลเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น กรุณาทดลองเข้าใช้บริการใหม่ภายหลัง

     กรณีระบบพบการ sharing หรือบันทึกหน้าจอ ระหว่างการใช้งานทางรัฐ จึงทำให้ระบบระงับการใช้งานเพื่อความปลอดภัยของท่านและจะไม่สามารถใช้งานแอปพลิเคชันได้จนกว่าจะปิดโปรแกรมการบันทึก หรือ sharing หน้าจอ

     เบื้องต้นแนะนำให้ดำเนินการดังนี้

    1. ให้หยุดการบันทึกหน้าจอ
    2. ตรวจสอบแอปพลิเคชันที่ไม่น่าไว้ใจและลบออก
    3. หากไม่หายให้ลองปิดเปิดเครื่องใหม่เพื่อ disconnect ในกรณีที่ท่านอาจจะถูกใช้แอปพลิเคชันบางอย่างควบคุมหน้าจออยู่

ทำการตรวจสอบว่าโทรศัพท์ หรืออุปกรณ์ที่ท่านใช้มีการ root หรือไม่

  • สามารถตรวจสอบได้ผ่านทางแอปพลิเคชัน ‘Advanced Root Checker’
  • ให้ท่านทำการดาวน์โหลดและติดตั้งผ่านทาง Google Play Store
  • หากตรวจพบ ให้ท่านดำเนินการยกเลิกการ root หรือเปลี่ยนไปใช้โทรศัพท์หรืออุปกรณ์ที่มีความปลอดภัย และไม่ผ่านการเจลเบรคหรือรูท

     สมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android นั้น จะมีตัวเลือกที่ชื่อว่า ทางเลือกผู้พัฒนา (Developer Options) อยู่ ส่วนใหญ่แล้วมักถูกใช้โดยนักพัฒนา ทดสอบรันแอปบนคอมพิวเตอร์ เพื่อควบคุมการทำงานของสมาร์ทโฟนได้โดยตรง 

     หากเราไม่ได้ใช้ทางเลือกนี้ควรปิดไว้ ถึงจะสามารถเข้าใช้บริการแอปได้เป็นปกติวิธีการปิดจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อของโทรศัพท์โดยมีขั้นตอนในแต่ละยี่ห้อดังนี้

    • Xiaomi/Realme/Redmi
      1. ไปที่ การตั้งค่า > การตั้งค่าเพิ่มเติม
      2. การตั้งค่าเพิ่มเติม > ตัวเลือกสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์
      3. ตัวเลือกสำหรับนักพัฒนา ซอฟต์แวร์ > กดปิด
    • Samsung/Vivo/Oppo/infinix
      1. ไปที่ การตั้งค่า > ระบบและการอัปเดต
      2. ระบบและการอัปเดต > ตัวเลือกสำหรับนักพัฒนา
      3. ตัวเลือกสำหรับนักพัฒนา > กดปิด
  • ความต้องการชั้นต่ำ
    – ระบบปฏิบัติการ Android Version 6 และ iOS Version 14.3 ขึ้นไป
    – สามารถ Download จาก Google Play Store หรือ Apple Store
  • กรณี โทรศัพท์ยี่ห้อ Huawei อยู่ระหว่างการพัฒนาแอปพลิชัน หากเรียบร้อยแล้วจะมีการประชาสัมพันธ์ให้ทราบอีกครั้ง
โทรติดต่อ ☎️ 1111 เพื่อแจ้งประเด็นปัญหา และแก้ไขปัญหาเบื้องต้น
โทรติดต่อ ☎️ 1111 เพื่อแจ้งประเด็นปัญหา และแก้ไขปัญหาเบื้องต้น

แอปฯ ทางรัฐ รองรับการดาวน์โหลดผ่าน Store ไทย เท่านั้น

ปัญหาขั้นตอนการลงทะเบียนของประชาชน

  • สถานะการลงทะเบียนโครงการฯ เสร็จสมบูรณ์ต่อเมื่อผู้ใช้ถูกพาเข้าสู่ขั้นตอนที่ 3 ตรวจสอบสิทธิกับหน่วยงาน เรากำลังตรวจสอบสิทธิของท่านกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  • ความหมายคือทำการตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคล และยืนยันอัตลักษณ์ พร้อมกับการสร้างบัญชีผู้ใช้ (บัญชีผู้ใช้, รหัสผ่าน และ PIN) เสร็จสมบูรณ์
  • กรณีสิ้นสุดที่ขั้นตอนที่ 1 (รับข้อมูลการลงทะเบียน) หรือ ขั้นตอนที่ 2 (ตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคล) ให้ลองกด X ที่มุมขวาบน เพื่อไปที่หน้าแรก แล้วกดตรวจสอบสถานะ
    ** หากยังขั้นอยู่ในขั้นตอนที่ 1/2 แสดงว่าระบบกำลังตรวจสอบข้อมูลของท่านกับทะเบียนราษฎร์อยู่ ให้รอสักระยะเวลาหนึ่ง

ตัวอย่างหน้าจอ ขั้นตอนที่ 3

รับเงินผ่านแอปพลิเคชั่นของธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ หากไม่มีต้องดาวน์โหลดแอปของธนาคารและเปิดใช้งาน

หากไม่มีวัน เดือนเกิดให้ระบุ “” (เครื่องหมายยัติภังค์ หรือ เครื่องหมายลบ)

ถ้าติดตั้งแอปก่อนวันที่ 1 ส.ค. 67 จะต้องอัพเดทให้เป็นเวอร์ชั่นใหม่

  • กดอัปเดตเวอร์ชั่น แอป ฯ ทางรัฐ ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด

ถ้าติดตั้งแอปก่อนวันที่ 1 ส.ค. 67 จะต้องอัพเดทให้เป็นเวอร์ชั่นใหม่

  • ท่านอาจเคยลงทะเบียนกับระบบบริการภาครัฐที่เชื่อมต่อกับระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนของ สพร. (DGA) หากท่านไม่แน่ใจว่า เคยลงทะเบียนไว้กับระบบใด หรือใช้รหัสผ่านใด ให้กด “ลืมรหัสผ่าน” เพื่อทำการกู้คืนรหัสผ่านของท่าน (Reset Password)
  • หากยังพบปัญหาให้ติดต่อมาที่ ☎️ 1111 เพื่อแจ้งปัญหา

ขั้นตอนการกู้คืนรหัสผ่านของท่าน (Reset Password)

    1. กดปุ่ม “เข้าสู่ระบบ” และไปที่เมนู “ลืมรหัสผ่าน
    2. การกรอกข้อมูลลตามบัตรประชาชน เลขประจำตัวประชาชน รหัสด้านหลังบัตรประชาชน ชื่อ นามสกุล และวันเดือนปีเกิด ตามขั้นตอน
    3. กำหนดรหัสผ่านใหม่

  • ขอให้ท่านทำการกดที่ไอคอน “ลืมรหัสผ่าน” และทำตามขั้นตอนที่ปรากฎบนแอปพลิเคชันไปเรื่อย ๆ
  • เมื่อได้รหัสผ่านใหม่แล้วให้ทำการเข้าสู่ระบบและทำการลงทะเบียนได้ตามขั้นตอนปกติต่อไป

ขั้นตอนการกู้คืนรหัสผ่านของท่าน (Reset Password)

    1. กดปุ่ม “เข้าสู่ระบบ” และไปที่เมนู “ลืมรหัสผ่าน
    2. การกรอกข้อมูลลตามบัตรประชาชน เลขประจำตัวประชาชน รหัสด้านหลังบัตรประชาชน ชื่อ นามสกุล และวันเดือนปีเกิด ตามขั้นตอน
    3. กำหนดรหัสผ่านใหม่

  • ทุกท่านสามารถลงทะเบียนโครงการฯ ได้ แม้ยังไม่เคยพิสูจน์ยืนยันตัวตน (KYC) ผ่านแอปฯ (สมัครสมาชิกแอปฯทางรัฐ)
  • โดยกดปุ่ม “ลงทะเบียนรับสิทธิ โครงการฯ’ ที่หน้าแรกของแอปฯ ทางรัฐ
  • ท่านไม่จําเป็นต้องล็อคอินแอปฯ ทางรัฐ ก็สามารถลงทะเบียนได้ ระบบจะนําข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านกรอก ไปตรวจสอบกับทะเบียนราษฎร์ แล้วจะให้ท่านสร้างบัญชีในภายหลัง

กรณีที่มีการสมัครผ่าน thaid ไว้แล้ว สามารถกดลืมรหัสผ่านที่หน้าแอปทางรัฐ เพื่อเข้าใช้งานได้เลย

ขั้นตอนการกู้คืนรหัสผ่านของท่าน (Reset Password)

    1. กดปุ่ม “เข้าสู่ระบบ” และไปที่เมนู “ลืมรหัสผ่าน
    2. การกรอกข้อมูลลตามบัตรประชาชน เลขประจำตัวประชาชน รหัสด้านหลังบัตรประชาชน ชื่อ นามสกุล และวันเดือนปีเกิด ตามขั้นตอน
    3. กำหนดรหัสผ่านใหม่

🟢 ระบบปฏิบัติการ Android รบกวนให้ท่านทำการเปลี่ยนเบราว์เซอร์เริ่มต้น (Default Browser) บนมือถือดังนี้

    1. ไปที่การตั้งค่า (Setting)เลือกเมนู แอปพลิเคชััน (Apps)
    2. กดที่ไอคอน 3 จุดด้านขวาบน (Three Dots, Ellipsis, More Options) เลือก แอปพลิเคชันเริ่มต้น (Default Apps)
    3. เลือก แอปเบราว์เซอร์ (Browser App)
    4. เปลี่ยนเป็นแอปพลิเคชันที่ต้องการ (ในที่นี้เลือกเป็น Chrome) เสร็จแล้วจึง กลับไปทำการสมัครและยืนยันตัวตนใหม่อีกครั้ง

🍎 ระบบปฏิบัติการ iOS 

    • ขอแนะนำให้ตรวจสอบเวอร์ชันของแอปและทำการ update ให้เป็นปัจจุบัน 
    • เมื่อทำการดาวน์โหลด ThaiD พร้อมสมัครเรียบร้อยแล้ว ให้ทำการ restart เครื่อง 1 ครั้ง
    • เสร็จแล้วกดเข้าสู่แอปด้วย ThaiD จากแอปทางรัฐ และกดตามขั้นตอนที่ระบุในแอปพลิเคชัน

ให้ท่านเลือกที่ปีเกิดก่อน แล้วเลือกเดือน และเลือกวันที่ 29 เป็นอันดับสุดท้าย

เบื้องต้น ท่านสามารถยืนยันต้นในการลงทะเบียนได้ ณ จุดที่มีการเปิดบริการให้สามารถ Walkin เข้าไปได้ เช่น ไปรษณีย์ที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศ

** กรณีนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลง รอการประกาศจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง

  • พักการใช้งานสักระยะเวลาหนึ่ง ค่อยกลับมาลงทะเบียนใหม่ เนื่องจากรัฐบาลให้เวลาลงทะเบียนเป็นระยะเวลา 45 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม – 15 กันยายน 2567 *หลีกเลี่ยงการลงทะเบียนหรือใช้งานในช่วงวันแรกๆ และช่วงใกล้สิ้นสุดระยะเวลา เพราะอาจจะมีผู้ใช้งานจำนวนมาก
  • โทรติดต่อ ☎️ 1111 เพื่อแจ้งประเด็นปัญหา และแก้ไขปัญหาเบื้องต้น
โทรติดต่อ ☎️ 1111 เพื่อแจ้งประเด็นปัญหา และแก้ไขปัญหาเบื้องต้น
  1. แนะนำให้ตรวจสอบความครบถ้วนถูกต้อง
    • โดยกรอกข้อมูลตามบัตรประชาชน
    • หากวัน เดือนเกิดไม่มี ให้ใส่เครื่องหมาย – ตามบัตรประชาชน
  2. สามารถตรวจสอบ แก้ไขข้อมูล ชื่อ นามสกุล วัน เดือน ปีเกิด ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ได้ด้วยตัวเองที่ https://connect.egov.go.th เมนู ข้อมูลส่วนบุคคล

สามารถลงทะเบียนได้ แต่การดาวน์โหลดแอป ต้องตั้งพื้นที่ของ Store ให้เป็นประเทศไทย จึงจะสามารถดาวน์โหลดแอป ฯ ทางรัฐได้ 

ให้รอประมาณ 3-5 วัน ระบบกำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลของผู้ลงทะเบียนกับฐานข้อมูล ทะเบียนราษฎร์ กรมการปกครอง

  • ให้ดำเนินการติดตั้งแอปฯ ทางรัฐใหม่ และเข้าสมัครบัญชีแอปฯทางรัฐ โดยดำเนินการตามที่ แอปฯ แนะนำทีละขั้นตอน โดยเข้าสมัครสมาชิกที่ปุ่ม “สมัครสมาชิก
  • หากยังไม่ขึ้นรูปตามภาพด้านล่างให้ ปิดแอปฯ จากหน้าจอโทรศัพท์ (Kill) แอปฯ อีกรอบเพื่อให้ขึ้นหน้าจอสมัครสมาชิกตามด้านล่าง และ ท่านสามารถสมัครบัญชีแอปฯ ทางรัฐ และเข้าลงทะเบียนโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ได้เช่นเดียวกัน

ปัญหาการสแกนหน้า/ถ่ายรูปบัตรประชาชน

  • ในกรณีระบบแจ้งผลการยืนยันใบหน้าไม่ตรงกับฐานข้อมูลทะเบียนราษฏร์ ให้ท่านทำตามคำแนะนำในการถ่ายรูปอย่างเคร่งครัด
    • ให้เห็นใบหน้าชัดเจน
    • จัดวางใบหน้าให้อยู่ในกรอบที่กำหนด
    • อยู่ในที่ซึ่งมีแสงสว่างเพียงพอ
  • หากใบหน้าปัจจุบันมีความแตกต่างจากรูปบนบัตรประชาชนค่อนข้างมาก ซึ่งอาจเกิดจาก อ้วนขึ้น หรือ ผอมลง หรือมีการทำศัลยกรรม กรุณาติดต่อหน่วยสำนักงานเขต หรือจุดบริการในการทำบัตรประชาชนใหม่เพื่อปรับปรุงรูปใบหน้าในฐานข้อมูลทะเบียนราษฏร์
  • การแก้ไขปัญหาเบื้องต้น
    • หากเกิดจากบัตรจาง ไม่ชัดเจน ต้องทำบัตรประชาชนใหม่
    • ระวังแสงสะท้อนจากหลอดไฟ
  • หากไม่สามารถแก้ไขเบื้องต้นได้  โทรติดต่อ ☎️ 1111
  • การแก้ไขปัญหาเบื้องต้น
    • หากท่านใส่แว่น ให้ถอดแว่นออกก่อน
    • แสงสว่างอาจไม่เพียงพอ
  • หากไม่สามารถแก้ไขเบื้องต้นได้  โทรติดต่อ ☎️ 1111

เกิดจากระบบเกิดขัดข้องในบางเวลา รบกวนท่านดำเนินการสแกนหน้าใหม่อีกครั้ง

อาจเกิดจากการยืนยันอัตลักษณ์ยังไม่สมบูรณ์ หรือไม่มีข้อมูลมือถือในระบบ
ระบบจะแจ้งเตือนให้สแกนหน้าเพื่อยืนยันอัตลักษณ์ หรือขอข้อมูลเบอร์มือถือ ก่อนอนุญาตให้เดนินการลงทะเบียนโครงการในลำดับถัดไป

หากท่านสแกนหน้าผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐไม่สำเร็จ และใบหน้าท่านไม่ได้เปลี่ยนจากภาพบนบัตรประจำตัวประชาชน ท่านสามารถไปยืนยันตัวตน ณ จุดให้บริการของไปรษณีย์ไทย Counter Service หรือตู้บุญเติม

หลังจากทำบัตรประชาชนใหม่ ท่านสามารถทำการสแกนหน้าเพื่อยืนยันตัวตนผ่านแอป ฯ ทางรัฐได้เลย

ปัญหาการยืนยันหมายเลขโทรศัพท์ / OTP

เพื่อให้กระบวนการพิสูจน์และยืนยันตัวบุคคลมีความน่าเชื่อถือสูงเทียบเท่าแอปพลิเคชันของธนาคาร และให้ระบบสามารถติดต่อท่านได้กรณีที่ท่านลืมรหัสผ่าน (Password) และใช้ยกระดับความปลอดภัยโดยการใช้ 2 Factor Authentication ได้

เคสนี้อาจจะเกิดเมื่อระบบขัดข้องเป็นบางเวลา อาจจะต้องเว้นไปสักระยะเวลาหนึ่ง แล้วค่อยลองใหม่อีกครั้งหนึ่ง

  • โปรดตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ที่ระบุให้ถูกต้อง และยืนยันเบอร์โทรศัพท์อีกครั้งหนึ่ง
  • หากคุณยังไม่ได้รับรหัส OTP ผ่าน SMS ภายใน 5 นาที กรุณากลับมาทำรายการอีกครั้งในภายหลัง 1-2ชั่วโมง
  • ผู้ใช้งานอาจจะยืนยันเบอร์โทรไปแล้วแต่แอป ฯ ยังไม่ได้อัพเดทข้อมูล
  • ที่ทำได้ตอนนี้คือ kill แอป ฯ (ปิดหน้าจอแอปฯทิ้งจากหน้าจอโทรศัพท์) แล้วกลับเข้ามาใหม่ หรือ logout แล้ว login in ใหม
  1. แนะนำให้กดลืมรหัสผ่าน
    • เลือกตั้งรหัสผ่านใหม่ทางบัตรประชาชน ให้กรอกข้อมูลตามบัตรฯ เพื่อตั้งรหัสผ่านใหม่
    • หลังจากเข้าใช้งานได้แล้ว ให้เข้าไปแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นปัจจุบัน เช่น อีเมล โทรศัพท์
  2. สามารถตรวจสอบ แก้ไขข้อมูล ชื่อ นามสกุล วัน เดือน ปีเกิด ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ได้ด้วยตัวเองที่ https://connect.egov.go.th เมนู ข้อมูลส่วนบุคคล

❌❌ อย่าลบแอปฯ “ทางรัฐ” ❌❌

DGA ไม่แนะนำให้ลบแอปฯ ทางรัฐออกจากอุปกรณ์ของท่าน เนื่องจากอาจทำให้ไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้ชั่วคราว และไม่แนะนำให้สมัครยืนยันตัวตนผ่านเว็บไซต์อื่นก่อน

แต่หาก “ลบแอปฯ ไปแล้ว” โดยที่ก่อนลบได้กดลงทะเบียนโครงการฯ Digital Wallet ไว้แล้ว โปรดทราบว่าระบบได้รับข้อมูลการลงทะเบียนโครงการฯ Digital Wallet ของท่านแล้ว

ในกรณีที่ยังไม่เคยมีบัญชีทางรัฐมาก่อน แม้จะไม่สามารถเข้าสู่ระบบเพื่อตรวจสอบสถานะได้ในขณะนี้ ท่านสามารถทำการสมัครและยืนยันตัวตนสร้างบัญชีแอปฯ ทางรัฐได้ภายหลัง เร็วๆ นี้

❌❌ อย่าลบแอปฯ “ทางรัฐ” ❌❌

DGA ไม่แนะนำให้ลบแอปฯ ทางรัฐออกจากอุปกรณ์ของท่าน เนื่องจากอาจทำให้ไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้ชั่วคราว และไม่แนะนำให้สมัครยืนยันตัวตนผ่านเว็บไซต์อื่นก่อน

แต่หาก “ลบแอปฯ ไปแล้ว” โดยที่ก่อนลบได้กดลงทะเบียนโครงการฯ Digital Wallet ไว้แล้ว โปรดทราบว่าระบบได้รับข้อมูลการลงทะเบียนโครงการฯ Digital Wallet ของท่านแล้ว

ในกรณีที่ยังไม่เคยมีบัญชีทางรัฐมาก่อน แม้จะไม่สามารถเข้าสู่ระบบเพื่อตรวจสอบสถานะได้ในขณะนี้ ท่านสามารถทำการสมัครและยืนยันตัวตนสร้างบัญชีแอปฯ ทางรัฐได้ภายหลัง เร็วๆ นี้

ยืนยันตนด้วยช่องทางอื่น (7-11 / ไปรษณีย์ ฯลฯ)

ท่านสามารถแจ้งปัญหาที่พบได้ที่ อีเมล์ contact@​dga.or.th พร้อมรายละเอียดชื่อ-นามสกุล​ อีเมล/เบอร์ติดต่อ​ และหน้าจอที่พบปัญหา​

ท่านสามารถแจ้งปัญหาที่พบได้ที่ อีเมล์ contact@​dga.or.th พร้อมรายละเอียดชื่อ-นามสกุล​ อีเมล/เบอร์ติดต่อ​ และหน้าจอที่พบปัญหา​

ปัญหา Log In / Username / Password / PIN Code

ผู้ใช้สามารถทำการ Login ได้ครั้งละ 1 อุปกรณ์เท่านั้น

หมายเลขโทรศัพท์ ใช้ในการยืนยืนตนเท่านั้น แต่ไม่มีผลต่อการใช้เงิน

การเปลี่ยน Username

    • ผู้ใช้ไม่สามารถทำการเปลี่ยน Username ได้
    • หากผู้ใช้ลืม Username ที่เคยสมัครไว้ ผู้ใช้สามารถใช้เลขบัตรประชาชน 13 หลักในการ Login แทนได้

การเปลี่ยน Password

    • สามารถเปลี่ยน Password ได้ 
    • ไปที่เมนู ตั้งค่า (รูปฟันเฟือง) > ตั้งค่าความปลอดภัย > เปลี่ยนรหัสผ่าน > ระบบจะให้ท่านพิมพ์รหัสผ่านปัจจุบัน และรหัสใหม่
    • หากท่านจำ Password ปัจจุบันไม่ได้ สามารถกดลืมรหัสผ่านได้ โดยทำตามขั้นตอนการลืมรหัสผ่าน

ในกรณีที่ ลืมรหัสผ่าน (Password) จากหน้าแรก (ขั้นตอนการสมัครสมาชิก)

  1. กดปุ่ม “เข้าสู่ระบบ” และไปที่เมนู “ลืมรหัสผ่าน
  2. การกรอกข้อมูลลตามบัตรประชาชน เลขประจำตัวประชาชน รหัสด้านหลังบัตรประชาชน ชื่อ นามสกุล และวันเดือนปีเกิด ตามขั้นตอน
  3. กำหนดรหัสผ่านใหม่

ในกรณีที่ลืมรหัส Pin Code จากหน้าจอที่ให้ระบุ PIN Code ท่านสามารถกดที่ “ลืม Pin Code” แล้วปฏิบัติตามขั้นตอนที่แอปพลิเคชันกำหนด เพื่อกำหนด PIN Code ใหม่ได้

  • ประชาชนสามารถตรวจสอบ แก้ไขข้อมูล ชื่อ นามสกุล วัน เดือน ปีเกิด ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ได้ตัวเองที่  https://connect.egov.go.th 
  • กรณีลืมรหัสผ่าน ให้กดเข้าสู่ระบบ > ลืมรหัสผ่าน > กู้คืนบัญชี โดยระบุเลขประจำตัวประชาชน

ปัญหาการแก้ไขข้อผิดพลาดจากการบันทึกข้อมูล

ท่านสามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ด้วยตนเองที่ แอป ฯ ทางรัฐ โดยไปที่เมนูตั้งค่า > ข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านสามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ด้วยตนเองที่ แอป ฯ ทางรัฐ โดยไปที่เมนูตั้งค่า > ข้อมูลส่วนบุคคล

ให้ตรวจสอบข้อมูลให้ตรงกับบัตรประชาชนและกดดำเนินการอีกครั้ง

    • เลขบัตรประชาชน
    • เลขหลังบัตรประชาชน (Laser code)
    • ชื่อจริงภาษาไทย ตามบัตรประชาชน
    • นามสกุลภาษาไทย ตามบัตรประชาชน
    • วันเดือนปีเกิด (พ.ศ.) ตามบัตรประชาชน (หากไม่มีวัน เดือนเกิดให้ระบุ – )
  • กรณีชื่อไม่ตรง – ในระบบจะขึ้นให้สามารถแก้ไขข้อมูลบัตรประชาชนได้
  • กรณีรูปไม่ตรง – อาจจะต้องติดต่อที่ว่าการอำเภอ หรือทำบัตรใหม่
  • หน้าแรกของแอปทางรัฐ จะมีข้อความแจ้งเตือน “ข้อมูลส่วนบุคคล/การยืนยันใบหน้าไม่ตรงกับข้อมูลทะเบียนราษฎร์
  • ผู้ใช้งานจะต้องกดปุ่ม “แก้ไขข้อมูล” เพื่อดำเนินการต่อ
  • ขึ้นข้อความ “ข้อมูลส่วนบุคคลไม่ตรงกับทะเบียนราษฎร์
    1. กดปุ่ม “กรอกข้อมูลอีกครั้ง” เพื่อทำการกรอกข้อมูลใหม่
    2. ระบบจะแสดงข้อมูลที่กรอกมาก่อนหน้า กดปุ่ม “แก้ไขข้อมูล” เพื่อทำการแก้ไข
    3. กรอกข้อมูลใหม่และยืนยันข้อมูลอีกครั้ง
    4. ระบบจะแสดงหน้าจอ ขั้นตอนที่ 1-2 เพื่อรอการตรวจสอบข้อมูลต่อไป
  • หน้าแรกของแอปทางรัฐ จะมีข้อความแจ้งเตือน “ข้อมูลส่วนบุคคล/การยืนยันใบหน้าไม่ตรงกับข้อมูลทะเบียนราษฎร์
  • ผู้ใช้งานจะต้องกดปุ่ม “แก้ไขข้อมูล” เพื่อดำเนินการต่อ
  • ขึ้นข้อความ “การยืนยันใบหน้าของคุณ ไม่ตรงกับข้อมูลทะเบียนราษฎร์
    1. กดปุ่ม “สแกนใบหน้าอีกครั้ง” เพื่อทำการยืนยันอัตลักษณ์ใหม่
    2. กดปุ่ม “เริ่มสแกนใบหน้า” และทำตามคำแนะนำของระบบ
    3. ระบบจะแสดงหน้าจอ ขั้นตอนที่ 1-2 เพื่อรอการตรวจสอบข้อมูลต่อไป
  • หน้าแรกของแอปทางรัฐ จะมีข้อความแจ้งเตือน “ข้อมูลส่วนบุคคล/การยืนยันใบหน้าไม่ตรงกับข้อมูลทะเบียนราษฎร์
  • ผู้ใช้งานจะต้องกดปุ่ม “แก้ไขข้อมูล” เพื่อดำเนินการต่อ
  • ขึ้นข้อความ “การยืนยันใบหน้าของคุณ ไม่ตรงกับข้อมูลทะเบียนราษฎร์
    1. กดปุ่ม “สแกนใบหน้าอีกครั้ง
    2. ระบบจะแสดงข้อมูลที่กรอกมาก่อนหน้า กดปุ่ม “แก้ไขข้อมูล” เพื่อทำการแก้ไข
    3. กรอกข้อมูลใหม่และยืนยันข้อมูลอีกครั้ง
    4. กดปุ่ม “เริ่มสแกนใบหน้า” และทำตามคำแนะนำของระบบ
    5. ระบบจะแสดงหน้าจอ ขั้นตอนที่ 1-2 เพื่อรอการตรวจสอบข้อมูลต่อไป

ปัญหาตรวจสอบผลการลงทะเบียน/ตรวจสอบสิทธิ์ดิจิทัลวอลเล็ต

ประชาชนทั่วไป กลุ่มที่มี Smart Phone จะได้รับผลแจ้งสิทธิพร้อมกัน ผ่านการแจ้งเตือนในแอปพลิเคชั่นทางรัฐ ในวันที่ 22 กันยายน 2567 เป็นต้นไป ⚠️ เลื่อนออกไปจากกำหนดการเดิม 📢 รอการประกาศวันลงทะเบียนใหม่อย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง

ให้ท่านดำเนินการตรวจสอบข้อมูลกับหน่วยงานเจ้าของข้อมูลตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขต่าง ๆ ของโครงการ ฯ เพื่อทำการแก้ไขข้อมูลที่ไม่ผ่านเกณฑ์ (จะมีแจ้งในแอป ฯ ทางรัฐ) ตัวอย่าง เช่น

    • เงื่อนไขด้านอายุ ติดต่อ กรมการปกครอง หรือสำนักงานเขตใกล้บ้านท่าน
    • กรณีมีเงินฝากเกินกำหนด ขอให้ท่านตรวจสอบสมุดบัญชีเงินฝากของท่านด้วยตนเองในแต่ละบัญชี และติดต่อธนาคารพาณิชย์รวมถึงสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่ผู้ลงทะเบียนฝากเงินไว้
    • กรณีมีเงินได้พึงประเมินเกินกำหนด ติดต่อกรมสรรพากร

กรณีระบบแสดงหน้าจอขั้นตอนที่ 4 ท่านไม่ได้รับสิทธิ ให้ดำเนินการดังต่อไปนี้

  1. ประชาชนจะต้องติดต่อขอตรวจสอบแก้ไขข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผู้เป็นเจ้าของข้อมูลตามเงื่อนไขต่างๆ ของโครงการฯ (ในหน้าจอของขั้นตอนที่ 4 จะมีรายละเอียดแจ้ง) เช่น
    –  เงื่อนไขด้านอายุ ติดต่อ กรมการปกครอง หรือสำนักงานเขตใกล้บ้านท่าน
    –  กรณีมีเงินฝากเกินกำหนด ขอให้ท่านตรวจสอบสมุดบัญชีเงินฝากของท่านด้วยตนเองในแต่ละบัญชี และติดต่อธนาคารพาณิชย์รวมถึงสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่ผู้ลงทะเบียนฝากเงินไว้
    –  กรณีมีเงินได้พึงประเมินเกินกำหนด ติดต่อกรมสรรพากร
  2. หลังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขเสร็จสิ้น
    – ให้ท่านกดเปิดแอป ฯ ทางรัฐ กดตรวจสอบสถานะ 
    – ในหน้าจอขั้นตอนที่ 4 กดปุ่ม ดำเนินการต่อ
    – ระบบจะแสดงกล่องข้อความ ท่านได้ดำเนินการติดต่อขอทบทวนสิทธิกับหน่วยงานเรียบร้อยแล้วหรือไม่ 
    – กดปุ่ม ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว
    – ระบบจะแสดงหน้าจอรายละเอียดการสมัคร กด ถัดไป และ ยอมรับ
  3. จากนั้นรอประมาณ 1-2 อาทิตย์ ให้เข้ามากด ตรวจสอบสถานะ อีกครั้งหนึ่ง

กรณีที่ผู้ใช้งานทำการลบแอปพลิเคชันหรือเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือแล้วต้องการตรวจสอบสถานะการสมัครโครงการฯ สามารถดำเนินการได้ดังนี้

    1. ทำการเข้าสู่แอปพลิเคชันทางรัฐ
    2. คลิกปุ่ม “ลงทะเบียนรับสิทธิโครงการฯ” ที่หน้าแรกของแอปพลิเคชันทางรัฐ
    3. ยอมรับเงื่อนไขโครงการฯ
    4. กรอกข้อมูลบัตรประชาชน
    5. ระบบจะนำผู้ใช้งานเข้าสู่การสร้างบัญชีหรือเข้าสู่ระบบเพื่อตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน
    6. หลังจากทำการสร้างบัญชีหรือเข้าสู่ระบบทางรัฐเรียบร้อย ท่านสามารถตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนของท่านได้อย่างต่อเนื่อง

*** DGA ไม่แนะนำให้ลบแอปฯ ทางรัฐออกจากอุปกรณ์ของท่าน เนื่องจากอาจทำให้ไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้ชั่วคราว และไม่สามารถเช็กสถานะการลงทะเบียนรับสิทธิ์ Digital Wallet ของตนเองได้

  • แต่หากท่าน “ลบแอปฯ ไปแล้ว” โดยที่ก่อนลบได้กดลงทะเบียนโครงการฯ Digital Wallet ไว้แล้ว โปรดทราบว่าระบบได้รับข้อมูลการลงทะเบียนโครงการฯ Digital Wallet ของท่านแล้ว
  • ในกรณีที่ยังไม่เคยมีบัญชีทางรัฐมาก่อน แม้ท่านไม่สามารถเข้าสู่ระบบเพื่อตรวจสอบสถานะได้ในขณะนี้ ท่านสามารถทำการสมัครและยืนยันตัวตนสร้างบัญชีแอปฯ ทางรัฐได้ในเร็วๆ นี้ โดย DGA จะมีการแจ้งให้ทราบผ่านช่องทาง Facebook “DGA Thailand”
  • หลังจากที่ระบบเปิดให้ท่านยืนยันตัวตนสร้างบัญชีทางรัฐสำเร็จก็จะสามารถตรวจสอบสถานะ Digital Wallet ของตนเองได้ตามปกติ

ปัญหาการขอทบทวนสิทธิ์

สามารถยืนทบทวนสิทธิ์ได้ โดยทำเรื่องผ่านแอปทางรัฐ

เปิดให้ทบทวนสิทธิ์หลังจากปิดรับลงทะเบียนแล้ว และกำหนดเป็นระยะเวลา

ใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 1-2 สัปดาห์ **รอประกาศจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้งหนึ่ง

ยังไม่ได้ระบุจำนวนครั้ง แต่จะเปิดให้ทบทวนสิทธิ์หลังจากปิดรับลงทะเบียนแล้ว และกำหนดเป็นระยะเวลา

บทความที่เกี่ยวข้อง