ครม. อนุมัติงบ 450 ล้านบาท แก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ปี 2567 – 2570

ครม. อนุมัติงบ 450 ล้านบาท แก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ปี 2567 – 2570

           ที่ประชุม ครม. มีมติอนุมัติงบประมาณ 450 ล้านบาท ให้กรมประมงดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ แก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ระยะเวลาดำเนินการ เดือนกรกฎาคม 2567 – กันยายน 2570 โดยยกให้เป็น “วาระแห่งชาติ” เพื่อมุ่งเน้นกำจัดปลาเอเลี่ยนสปีชีส์ จากแหล่งน้ำทั่วไทย พร้อมฟื้นฟูสัตว์น้ำท้องถิ่น เพิ่มความหลากหลายทางธรรมชาติต่อไป


 

           ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (20 ส.ค.67) มีมติเห็นชอบ แผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ พ.ศ. 2567 – 2570 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอ โดยมีระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ กรกฎาคม 2567 – กันยายน 2570 ใช้งบประมาณ 450 ล้านบาท พร้อมยกแผนปฏิบัติการปลาหมอคางดำฯ เป็นวาระแห่งชาติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุม กำจัด และลดจำนวนปลาหมอคางดำที่แพร่ระบาดในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เป้าหมายกำจัดปลาหมอคางดำออกจากแหล่งน้ำไม่น้อยกว่า 5,000 ตัน รวมทั้งส่งเสริมให้ใช้ประโยชน์จากปลาหมอคางดำ และฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพของแหล่งน้ำที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดดังกล่าว เช่น การปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำอื่น ๆ ตามความเหมาะของแหล่งน้ำ ไม่น้อยกว่า 20 ล้านตัว ตลอดจนประชาสัมพันธ์และการสร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชน ให้ทราบถึงผลกระทบ และการดำเนินการร่วมแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ รวมทั้งพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมด้านการประมง ในการป้องกันสัตว์น้ำต่างถิ่นรุกราน

แผนปฏิบัติการปลาหมอคางดำ ประกอบด้วย 7 มาตรการ ได้แก่

1. การควบคุมและกำจัดปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำทุกแห่งที่พบการแพร่ระบาด
2. การกำจัดปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำธรรมชาติ โดยการปล่อยปลาผู้ล่าอย่างต่อเนื่อง
3. การนำปลาหมอคางดำที่กำจัดออกจากระบบนิเวศไปใช้ประโยชน์ เข่น การจัดหาแหล่งกระจายและจำหน่ายปลาหมอคางดำที่ถูกกำจัดออกจากระบบนิเวศ
4. การสำรวจและเฝ้าระวังการแพร่กระจายประชากรปลาหมอคางดำในพื้นที่เขตกันชน
5. สร้างความรู้ ความตระหนัก และการมีส่วนร่วมในการกำจัดปลาหมอคางดำ
6. การพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดปลาหมอคางดำ
7. การฟื้นฟูระบบนิเวศ



        เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยสาระสำคัญ คือ เรื่อง แผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ พ.ศ. 2567-2570 ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอ ดังนี้

1. แผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ พ.ศ. 2567-2570 (แผนปฏิบัติการปลาหมอคางดำฯ)

2. แผนปฏิบัติการปลาหมอคางดำฯ เป็นวาระแห่งชาติ

3. ให้กระทรวงเกษตรฯ ยกเว้นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2563 เรื่อง แนวทางการจัดทำแผนระดับที่ 3 ที่เป็นแผนปฏิบัติการด้าน …. เพื่อเสนอให้สามารถนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีได้โดยเร็วต่อไป

        คณะกรรมการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำในการประชุมครั้งที่ 2/2567 เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน) มีมติเห็นชอบในหลักการของแผนปฏิบัติการปลาหมอคางดำฯ โดยแผนปฏิบัติการดังกล่าวประกอบด้วย 7 มาตรการ (14 กิจกรรม) ระยะเวลาดำเนินการ เดือนกรกฎาคม 2567 – กันยายน 2570 วงเงินงบประมาณ 450 ล้านบาท


โดยมีรายละเอียดสำคัญ ดังนี้

(1) ควบคุม กำจัด และลดประชากรปลาหมอคางดำที่แพร่ระบาดในทุกพื้นที่ของ ประเทศไทย รวมทั้งส่งเสริมให้มีการใช้ประโยชน์จากปลาหมอคางดำ

(2) ฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพของแหล่งน้ำที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ ระบาดของปลาหมอคางดำ

(3) สร้างเครือข่ายความร่วมมือในพื้นที่ของทุกภาคส่วน ทั้งภาคประชาชน ภาครัฐ ภาคเอกชน และการมีส่วนร่วมในการรับมือกับการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำใน พื้นที่รอยต่อและพื้นที่ที่มีความเสี่ยง

(4) ประชาสัมพันธ์และการสร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชนให้ทราบถึงผลกระทบ และการดำเนินการร่วมแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ

(5) พัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมด้านการประมงในการป้องกันสัตว์น้ำต่างถิ่นรุกราน

ทั้งนี้ กิจกรรมและมาตรการทั้งหมด มีตัวชี้วัดสำคัญ ได้แก่

(1) กำจัดประชากรปลาหมอคางดำออกจากแหล่งน้ำไม่น้อยกว่า 5,000 ตัน

(2) ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ และฟื้นฟู ความหลากหลายทางชีวภาพตามความเหมาะสมของแหล่งน้ำไม่น้อยกว่า 20 ล้านตัว

(3) ประชาสัมพันธ์ ส่งเสริม สร้างความรู้และแรงจูงใจให้ประชาชนทุกภาคส่วนตระหนักถึงผลกระทบ รวมทั้งจัดให้มีการใช้ประโยชน์จากปลาหมอคางดำ เพื่อกำจัดและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบไม่น้อยกว่า 5,000 ตัน

(4) สร้างเครือข่ายจากทุกภาคส่วน ทั้งภาคประชาชน ภาครัฐ และภาคเอกชน ที่มีความ พร้อมรับมือการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำในพื้นที่รอยต่อและพื้นที่ที่มีความเสี่ยง

(5) สร้างงานวิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการประมง เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำและสัตว์น้ำต่างถิ่นรุกราน

        สำนักงบประมาณเห็นสมควรให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขอยกเว้นการดำเนินการตามมติ คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เรื่อง แนวทางจัดทำแผนระดับที่ 3 ที่เป็นแผนปฏิบัติการด้าน …. เพื่อให้สามารถนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีได้โดยเร็วต่อไป สำหรับค่าใช้จ่ายตามแผนปฏิบัติการดังกล่าว จำนวน 450 ล้านบาทถ้วน เห็นควรให้กรมประมงใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับการจัดสรร

        หรือพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ หรือโอนเงินจัดสรร หรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรรแล้วแต่กรณี ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2562 มาดำเนินการในโอกาสแรก ทั้งนี้ หากพิจารณาแล้วยังคงมีความจำเป็นต้องขอใช้งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ขอให้กรมประมงจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินงบประมาณ และดำเนินการตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. 2562 และขอให้จัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ โดยคำนึงถึงความจำเป็น เหมาะสม ประหยัด และคุ้มค่า เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป



ที่มา :

  • t.ly/Kis3I
  • https://www.thairath.co.th/agriculture/agricultural-policy/2809289