กระตุ้นเศรษฐกิจ 67, ข่าวสารกิจกรรม, โครงการภาครัฐ
ตรวจสอบสิทธิและตรวจสอบผลการรับโอนเงิน
ข้อมูลทั่วไปของโครงการ
ที่มาการดำเนินโครงการ
นายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 โดยมีนโยบายสำคัญที่จะเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย ควบคู่กับการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบางเป็นลำดับแรก
เหตุผลความจำเป็นของการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ
โดยที่คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2567 จะขยายตัวที่ร้อยละ 2.5 ต่อปีเป็นระดับที่ต่ำกว่าอัตราการขยายตัวเฉลี่ยในอดีต ต่ำกว่าอัตราการขยายตัวตามศักยภาพ (Potential Growth) และต่ำกว่าอัตราการขยายตัวของประเทศในภูมิภาค หนี้ภาคครัวเรือน และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอยู่ในระดับสูง ปัจจัยดังกล่าวทำให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบางที่มีกำลังซื้อที่อ่อนแอ ได้รับผลกระทบเป็นกลุ่มแรก ๆ
จึงจำเป็นที่จะต้องเร่งการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพิจารณาจัดสรรเงินเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการก่อนเป็นกลุ่มแรก เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพของผู้มีรายได้น้อยและคนพิการซึ่งมีกำลังซื้ออ่อนแอให้ได้ ทั่วถึง
นอกจากนี้ เมื่อมีพิจารณาจากลักษณะการใช้จ่ายของกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว เมื่อมีรายได้เพิ่มขึ้นจะมีความโน้มเอียงที่จะใช้จ่ายบริโภคสูงกว่าประชาชนกลุ่มอื่น ดังนั้นการจัดสรรเงินให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการจะเอื้อให้เกิดการใช้จ่าย และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างชัดเจน และเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโดยรวมอย่างรวดเร็ว
วัตถุประสงค์โครงการ
- เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพและเพิ่มศักยภาพของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ ซึ่งเป็นผู้มีรายได้น้อยและ ผู้เปราะบางที่ขาดความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ให้มีโอกาสเข้าถึงการใช้จ่ายที่จำเป็นในการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
- ทั้งยังช่วยเพิ่มการบริโภคที่จะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบและกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ ในช่วงปลายปี 2567 ได้อย่างรวดเร็ว
วิธีดำเนินโครงการ
- จัดสรรเงินให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ คนละ 10,000 บาท เพื่อนำไปจับจ่ายใช้สอย โดยไม่กำหนดเงื่อนไขในการใช้จ่าย
จำนวนเงินงบประมาณรวมที่ใช้ในโครงการ
- วงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 145,552.40 ล้านบาท
กลุ่มเป้าหมาย
1. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ทำการยืนยันตัวตน (e-KYC) สำเร็จแล้ว
- ตรวจสอบตามฐานข้อมูลของโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ พ.ศ. 2565 โดยใช้ข้อมูลอ้างอิง ณ วันที่ 31 ส.ค. 67 จำนวนประมาณ 12.40 ล้านคน
- ทั้งนี้ ให้รวมถึง
– คนพิการที่บัตรประจำตัวคนพิการหมดอายุ
– คนพิการที่ไม่มีบัตรประจำตัวคนพิการแต่ได้รับเงินเบี้ยความพิการตามฐานข้อมูล อทป. กทม. และพัทยา - ซึ่งคนพิการดังกล่าวมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและทำ e-KYC สำเร็จแล้ว
2. คนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ
- ตรวจสอบตามฐานข้อมูลของ พก. โดยใช้ข้อมูลอ้างอิง ณ วันที่ 31 ส.ค. 67 จำนวนประมาณ 2.15 ล้านคน
- ให้รวมถึง คนพิการที่ไม่มีบัตรประจำตัวคนพิการแต่ได้รับเงินเบี้ยความพิการอยู่แล้ว (คนพิการที่ขึ้นทะเบียนไว้ตาม ฐานข้อมูลของ อปท. กทม. หรือเมืองพัทยา แต่ยังไม่ปรากฏข้อมูลในฐานข้อมูลของกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต คนพิการ (พก.)) ทั้งที่ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแต่ไม่ได้ทำ e-KYC ภายในวันที่ 31 ส.ค. 67
กลุ่มที่ไม่ได้รับสิทธิ
- ผู้ที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ ในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ตรวจสอบตามฐานข้อมูลของ พม. โดยใช้ข้อมูลอ้างอิง ณ วันที่ 31 ส.ค. 67) จะไม่ได้รับสิทธิ เนื่องจากได้รับการดูแลค่าใช้จ่ายจากรัฐอย่างครอบคลุมแล้ว
- ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ยืนยันตัวตนหลังวันที่ 31 ส.ค. 67 หรือไม่ได้ยืนยันตัวตน
- คนพิการ ไม่มีข้อมูลการขอรับเบี้ยพิการ ภายในวันที่ 31 ส.ค. 67
วิธีจัดสรรหรือโอนเงิน 10,000 บาทต่อคน
1. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
รูปแบบที่ 1 : บัญชีธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน
- โอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน
- ไม่มีการโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับหมายเลขโทรศัพท์
- โอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน
รูปแบบที่ 2 : บัญชีเงินฝากธนาคารตามที่ได้แจ้งความประสงค์ใน “หนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีร่วมกับบุคคลอื่น หรือบุคคลอื่น”
- กรณีผู้ป่วยติดเตียงหรือผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ที่ไม่สามารถผูกพร้อมเพย์ได้
- จะโอนเงินผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารตามที่ได้แจ้งความประสงค์ใน “หนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีร่วมกับบุคคลอื่น หรือบุคคลอื่น” ซึ่งได้แจ้งไว้ ณ สำนักงานคลังจังหวัดหรือกรมบัญชีกลาง ตามแนวทางการจ่ายเงินของกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจ ฐานรากและสังคม
- กรณียังไม่ได้แจ้งความประสงค์ ให้นำแบบฟอร์มหนังสือให้ความยินยอมฯ และเอกสารหลักฐาน ไปยืนได้ที่กรมบัญชีกลางหรือสำนักงานคลังจังหวัดทุกจังหวัด
- หนังสือให้ความยินยอมโอนเงินเข้าบัญชีร่วมกับบุคคลอื่นหรือเข้าบัญชีบุคคลอื่น
– สามารถดาวน์โหลดได้ที่ เว็บไซต์โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 > ดาวน์โหลดเอกสารโครงการ
– หรือขอรับได้ที่กรมบัญชีกลางหรือสำนักงานคลังจังหวัด - สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ได้รับสิทธิ์โครงการฯ และผู้รับโอนเงินสวัสดิการแทน พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้องทั้ง 2 ฉบับ
- เอกสารแสดงความสัมพันธ์ของผู้ได้รับสิทธิ์โครงการฯ และผู้รับโอนเงินสวัสดิการแทนเช่น สำเนาสูติบัตร สำเนาทะเบียนบ้าน เป็นต้น พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ
- สำเนาหน้าสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์/สะสมทรัพย์/เผื่อเรียก/กระแสรายวัน (ยกเว้นประเภทเงินฝากประจำ/ออมทรัพย์พิเศษ/บัญชีที่มีเงื่อนไข) ของผู้รับเงินสวัสดิการแทน พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง
- ใบรับรองแพทย์ (ถ้ามี)
- หนังสือให้ความยินยอมโอนเงินเข้าบัญชีร่วมกับบุคคลอื่นหรือเข้าบัญชีบุคคลอื่น
- กรณีผู้ป่วยติดเตียงหรือผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ที่ไม่สามารถผูกพร้อมเพย์ได้
2. คนพิการ
- 2.1 โอนเงินตามช่องทางการรับเงินเบี้ยความพิการ ซึ่งได้รับข้อมูลจาก อปท. กทม. และเมืองพัทยา
- กรณีเคยได้รับเงิน เบี้ยความพิการจาก อปท. เป็นเงินสด จะได้รับเงิน 10,000 บาท เป็นเงินสดผ่าน อปท. ดังเดิม)
- 2.2 กรณีคนพิการที่ปรากฏข้อมูลในฐานข้อมูลของ พก. แต่ไม่ปรากฏข้อมูลช่องทางการรับเงินเบี้ยความพิการ ตามข้อ (2.1)
- จะโอนเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน
- ยกเว้น กรณีคนพิการติดเตียงหรือไม่สามารถผูกพร้อมเพย์ได้
– ให้ ลงทะเบียนและยื่นคำขอรับเงินเบี้ยความพิการ ต่อ อปท. ที่ตนมีภูมิลำเนา ณ ที่ทำการ อปท. หรือสถานที่ที่ อปท. กำหนด
– ภายในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 ก่อนการโอนเงินเบี้ยความพิการ
– เพื่อที่กรมบัญชีกลางจะใช้บัญชีเงินฝากธนาคารที่รับเงินเบี้ยความพิการดังกล่าว สำหรับการโอนเงินโครงการให้ ต่อไป
- 2.1 โอนเงินตามช่องทางการรับเงินเบี้ยความพิการ ซึ่งได้รับข้อมูลจาก อปท. กทม. และเมืองพัทยา
การจ่ายเงิน
กำหนดการจ่ายเงินครั้งแรก
กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางจะเริ่มทยอยจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2567 เป็นต้นไป โดยขณะนี้กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางได้เตรียมความพร้อมที่จะจ่ายเงิน ดังนี้
วัน เดือน ปี | กลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับเงิน |
25 กันยายน 2567 | คนพิการ และผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 0 |
26 กันยายน 2567 | ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 1-3 |
27 กันยายน 2567 | ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 4-7 |
30 กันยายน 2567 | ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 8-9 |
หมายเหตุ:
- คนพิการ หมายถึง ผู้ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านคนพิการ
- ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หมายถึง ผู้ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567
กรณีที่จ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายไม่สำเร็จในครั้งแรก
กรณีที่จ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายไม่สำเร็จในครั้งแรก จะมีการดำเนินการจ่ายเงินซ้ำ (Retry) ให้แก่ กลุ่มเป้าหมายดังกล่าวจำนวน 3 ครั้ง โดยเมื่อพ้นกำหนดการ Retry ครั้งที่ 3 แล้ว จะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการ
กำหนดการจ่ายเงินซ้ำ : ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
1. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ยืนยันตัวตน (e-KYC) ภายใน 31 ส.ค. 67
ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชนเรียบร้อยแล้ว
กรณีไม่สามารถดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์ได้ (ผู้ป่วยติดเตียง/ผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป)
ได้ทำหนังสือให้ความยินยอมฯ แล้ว
เลขประจำตัวประชาชน หลักสุดท้าย | จ่ายเงินรอบแรก | วันที่จ่ายเงินซ้ำ | ||
ครั้งที่ 1 (ต.ค. 67) | ครั้งที่ 2 (พ.ย. 67) | ครั้งที่ 3 (ธ.ค. 67) | ||
เลข 0 | พ. 25 ก.ย. 67 | จ. 21 ต.ค. 67 | พฤ. 21 พ.ย. 67 | พฤ. 19 ธ.ค. 67 |
เลข 1 2 3 | พฤ. 26 ก.ย. 67 | |||
เลข 4 5 6 7 | ศ. 27 ก.ย. 67 | อ. 22 ต.ค. 67 | ศ. 22 พ.ย. 67 | ศ. 20 ธ.ค. 67 |
เลข 8 9 | จ. 30 ก.ย. 67 |
หมายเหตุ ข้อมูลจากกรมบัญชีกลาง
2. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ยืนยันตัวตน (e-KYC) ภายใน 31 ส.ค. 67
แต่ยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน
จะต้องดำเนินการผูกพร้อมเพย์ก่อนวันจ่ายเงิน 3 วัน
2.1 กรณีจ่ายรอบแรก
เลขประจำตัวประชาชน หลักสุดท้าย | ต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน (วันที่) | เพื่อรับเงินรอบแรกใน (วันที่) |
เลข 0 | อา. 22 ก.ย. 67 | พ. 25 ก.ย. 67 |
เลข 1 2 3 | จ. 23 ก.ย. 67 | พฤ. 26 ก.ย. 67 |
เลข 4 5 6 7 | อ.24 ก.ย. 67 | ศ. 27 ก.ย. 67 |
เลข 8 9 | ศ. 27 ก.ย. 67 | จ. 30 ก.ย. 67 |
2.2 กรณีจ่ายเงินซ้ำ
เลขประจำตัวประชาชน หลักสุดท้าย | ครั้งที่ 1 | ครั้งที่ 2 | ครั้งที่ 3 | |||
ดำเนินการภายใน | วันจ่ายเงิน | ดำเนินการภายใน | วันจ่ายเงิน | ดำเนินการภายใน | วันจ่ายเงิน | |
เลข 0 | ศ. 18 ต.ค. 67 | จ. 21 ต.ค. 67 | จ. 18 พ.ย. 67 | พฤ. 21 พ.ย. 67 | จ. 16 ธ.ค. 67 | พฤ. 19 ธ.ค. 67 |
เลข 1 2 3 | ||||||
เลข 4 5 6 7 | ส. 19 ต.ค. 67 | อ. 22 ต.ค. 67 | อ. 19 พ.ย. 67 | ศ. 22 พ.ย. 67 | อ. 17 ธ.ค. 67 | ศ. 20 ธ.ค. 67 |
เลข 8 9 |
หมายเหตุ ข้อมูลจากกรมบัญชีกลาง
3.ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ยืนยันตัวตน (e-KYC) ภายใน 31 ส.ค. 67
แต่ยังไม่ได้ทำหนังสือให้ความยินยอมฯ
ในกรณีไม่สามารถดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์ได้ (ผู้ป่วยติดเตียง/ผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป)
จะต้องดำเนินการยืนหนังสือให้ความยินยอมฯ ให้เรียบร้อยภายในวันที่กำหนด
เพื่อรับเงินในรอบนั้นๆ ดังนี้
3.1 กรณีจ่ายรอบแรก
เลขประจำตัวประชาชน หลักสุดท้าย | ปชช. ยื่นหนังสือให้ความยินยอม ฯ ณ สนง.คลังจังหวัด/กรมบัญชีกลาง | จนท. สนง.คลังจังหวัด/กรมบัญชีกลาง อนุมัติข้อมูลในระบบยินยอมฯ | วันจ่ายเงิน รอบแรก |
เลข 0 | ส. 31 ส.ค. 67 | ส. 31 ส.ค. 67 | พ. 25 ก.ย. 67 |
เลข 1 2 3 | ส. 31 ส.ค. 67 | ส. 31 ส.ค. 67 | พฤ. 26 ก.ย. 67 |
เลข 4 5 6 7 | ส. 31 ส.ค. 67 | ส. 31 ส.ค. 67 | ศ. 27 ก.ย. 67 |
เลข 8 9 | ส. 31 ส.ค. 67 | ส. 31 ส.ค. 67 | จ. 30 ก.ย. 67 |
3.2 กรณีจ่ายเงินซ้ำ ครั้งที่ 1
เลขประจำตัวประชาชน หลักสุดท้าย | ปชช. ยื่นหนังสือให้ความยินยอม ฯ ณ สนง.คลังจังหวัด/กรมบัญชีกลาง | จนท. สนง.คลังจังหวัด/กรมบัญชีกลาง อนุมัติข้อมูลในระบบยินยอมฯ | วันจ่ายซ้ำ ครั้งที่ 1 |
เลข 0 | จ. 30 ก.ย. 67 | พฤ. 10 ต.ค. 67 | จ. 21 ต.ค. 67 |
เลข 1 2 3 | |||
เลข 4 5 6 7 | จ. 30 ก.ย. 67 | พฤ. 10 ต.ค. 67 | อ. 22 ต.ค. 67 |
เลข 8 9 |
3.3 กรณีจ่ายเงินซ้ำ ครั้งที่ 2
เลขประจำตัวประชาชน หลักสุดท้าย | ปชช. ยื่นหนังสือให้ความยินยอม ฯ ณ สนง.คลังจังหวัด/กรมบัญชีกลาง | จนท. สนง.คลังจังหวัด/กรมบัญชีกลาง อนุมัติข้อมูลในระบบยินยอมฯ | วันจ่ายซ้ำ ครั้งที่ 2 |
เลข 0 | พฤ. 31 ต.ต. 67 | ศ. 15 พ.ย. 67 | พฤ. 21 พ.ย. 67 |
เลข 1 2 3 | |||
เลข 4 5 6 7 | พฤ. 31 ต.ต. 67 | ศ. 15 พ.ย. 67 | ศ. 22 พ.ย. 67 |
เลข 8 9 |
3.4 กรณีจ่ายเงินซ้ำ ครั้งที่ 3
เลขประจำตัวประชาชน หลักสุดท้าย | ปชช. ยื่นหนังสือให้ความยินยอม ฯ ณ สนง.คลังจังหวัด/กรมบัญชีกลาง | จนท. สนง.คลังจังหวัด/กรมบัญชีกลาง อนุมัติข้อมูลในระบบยินยอมฯ | วันจ่ายซ้ำ ครั้งที่ 3 |
เลข 0 | ศ. 29 พ.ย. 67 | ศ. 6 ธ.ค. 37 | พฤ. 19 ธ.ค. 67 |
เลข 1 2 3 | |||
เลข 4 5 6 7 | ศ. 29 พ.ย. 67 | ศ. 6 ธ.ค. 37 | ศ. 20 ธ.ค. 67 |
เลข 8 9 |
หมายเหตุ ข้อมูลจากกรมบัญชีกลาง
กำหนดการจ่ายเงินซ้ำ : คนพิการ
1. คนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการในฐานข้อมูลของกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ณ วันที่ 31 ส.ค. 67
บัตรคนพิการยังไม่หมดอายุ
มีข้อมูลการจ่ายเบี้ยคนพิการถูกต้อง
วันที่จ่ายเงินครั้งแรก | วันที่จ่ายเงินซ้ำ | ||
ครั้งที่ 1 (ต.ค. 67) | ครั้งที่ 2 (พ.ย. 67) | ครั้งที่ 3 (ธ.ค. 67) | |
พ. 25 ก.ย. 67 | จ. 21 ต.ค. 67 | พฤ. 21 พ.ย. 67 | พฤ. 19 ธ.ค. 67 |
หมายเหตุ ข้อมูลจากกรมบัญชีกลาง
2. มีบัตรประจำตัวคนพิการที่ยังไม่หมดอายุ
2.1 บัตรยังไม่หมดอายุ แต่ข้อมูลการจ่ายเบี้ยความพิการไม่ถูกต้อง
ให้ทำการแก้ไขข้อมูลบัญชีเงินฝากธนาคารที่รับเงินเบี้ยความพิการของ อปท. กทม. และเมืองพัทยา ให้เรียบร้อยภายในวันที่กำหนด ดังนี้
จ่ายเงินครั้งแรก | การจ่ายเงินซ้ำ | ||||||
ครั้งที่ 1 | ครั้ง 2 | ครั้งที่ 3 | |||||
ดำเนินการภายใน | วันที่ จ่ายเงิน | ดำเนินการภายใน | วันที่ จ่ายเงิน | ดำเนินการภายใน | วันที่ จ่ายเงิน | ดำเนินการภายใน | วันที่ จ่ายเงิน |
ศ. 30 ส.ค. 67 | พ. 25 ก.ย. 67 | ศ. 27 ก.ย. 67 | จ. 21 ต.ค. 67 | พ. 30 ต.ค. 67 | พฤ. 21 พ.ย. 67 | พฤ. 28 พ.ย. 67 | พฤ. 19 ธ.ค. 67 |
2.2 บัตรยังไม่หมดอายุ แต่ไม่มีข้อมูลการจ่ายเบี้ยความพิการ ให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งตามข้อด้านล่างนี้ ภายในวันที่กำหนด
2.2.1 ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือ
จ่ายเงินครั้งแรก | การจ่ายเงินซ้ำ | ||||||
ครั้งที่ 1 | ครั้ง 2 | ครั้งที่ 3 | |||||
ดำเนินการภายใน | วันที่ จ่ายเงิน | ดำเนินการภายใน | วันที่ จ่ายเงิน | ดำเนินการภายใน | วันที่ จ่ายเงิน | ดำเนินการภายใน | วันที่ จ่ายเงิน |
อา.22 ก.ย. 67 | พ. 25 ก.ย. 67 | ศ. 18 ต.ค. 67 | จ. 21 ต.ค. 67 | จ. 18 พ.ย. 67 | พฤ. 21 พ.ย. 67 | จ. 16 ธ.ค. 67 | พฤ. 19 ธ.ค. 67 |
.
2.2.2 ยื่นคำขอรับเงินเบี้ยความพิการ ต่อ อปท. กทม. และเมืองพัทยา ที่ต้นมีภูมิลำเนาให้เรียบร้อยภายในวันที่กำหนด ดังนี้
จ่ายเงินครั้งแรก | การจ่ายเงินซ้ำ | ||||||
ครั้งที่ 1 | ครั้ง 2 | ครั้งที่ 3 | |||||
ดำเนินการภายใน | วันที่ จ่ายเงิน | ดำเนินการภายใน | วันที่ จ่ายเงิน | ดำเนินการภายใน | วันที่ จ่ายเงิน | ดำเนินการภายใน | วันที่ จ่ายเงิน |
ศ. 30 ส.ค. 67 | พ. 25 ก.ย. 67 | ศ. 27 ก.ย. 67 | จ. 21 ต.ค. 67 | พ. 30 ต.ค. 67 | พฤ. 21 พ.ย. 67 | พฤ. 28 พ.ย. 67 | พฤ. 19 ธ.ค. 67 |
หมายเหตุ ข้อมูลจากกรมบัญชีกลาง
3. บัตรประจำตัวคนพิการหมดอายุ ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือมีแต่ไม่ได้ยืนยันตน (e-KYC) หรือยืนยันตนหลัง 31 ส.ค. 67
3.1 บัตรหมดอายุ แต่มีข้อมูลการรับเบี้ยความพิการ
ดำเนินการต่ออายุบัตร/ทำบัตรฯ ภายในวันที่กำหนด ดังนี้
จ่ายเงินครั้งแรก | การจ่ายเงินซ้ำ | ||||||
ครั้งที่ 1 | ครั้ง 2 | ครั้งที่ 3 | |||||
ดำเนินการภายใน | วันที่ จ่ายเงิน | ดำเนินการภายใน | วันที่ จ่ายเงิน | ดำเนินการภายใน | วันที่ จ่ายเงิน | ดำเนินการภายใน | วันที่ จ่ายเงิน |
พฤ. 12 ก.ย. 67 | พ. 25 ก.ย. 67 | พฤ. 10 ต.ค. 67 | จ. 21 ต.ค. 67 | อ. 12 พ.ย. 67 | พฤ. 21 พ.ย. 67 | อ. 3 ธ.ค. 67 | พฤ. 19 ธ.ค. 67 |
3.2 บัตรหมดอายุ และไม่มีข้อมูลการรับเบี้ยความพิการ ต้องดำเนินการ 2 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 ต่ออายุบัตร/ทำบัตรประจำตัวผู้พิการ
จ่ายเงินครั้งแรก | การจ่ายเงินซ้ำ | ||||||
ครั้งที่ 1 | ครั้ง 2 | ครั้งที่ 3 | |||||
ดำเนินการภายใน | วันที่ จ่ายเงิน | ดำเนินการภายใน | วันที่ จ่ายเงิน | ดำเนินการภายใน | วันที่ จ่ายเงิน | ดำเนินการภายใน | วันที่ จ่ายเงิน |
พฤ. 12 ก.ย. 67 | พ. 25 ก.ย. 67 | พฤ. 10 ต.ค. 67 | จ. 21 ต.ค. 67 | อ. 12 พ.ย. 67 | พฤ. 21 พ.ย. 67 | อ. 3 ธ.ค. 67 | พฤ. 19 ธ.ค. 67 |
ขั้นตอนที่ 2 ให้เลือกดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ระหว่าง
ขั้นตอน 2.1 ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือ
จ่ายเงินครั้งแรก | การจ่ายเงินซ้ำ | ||||||
ครั้งที่ 1 | ครั้ง 2 | ครั้งที่ 3 | |||||
ดำเนินการภายใน | วันที่ จ่ายเงิน | ดำเนินการภายใน | วันที่ จ่ายเงิน | ดำเนินการภายใน | วันที่ จ่ายเงิน | ดำเนินการภายใน | วันที่ จ่ายเงิน |
อา.22 ก.ย. 67 | พ. 25 ก.ย. 67 | ศ. 18 ต.ค. 67 | จ. 21 ต.ค. 67 | จ. 18 พ.ย. 67 | พฤ. 21 พ.ย. 67 | จ. 16 ธ.ค. 67 | พฤ. 19 ธ.ค. 67 |
.
ขั้นตอน 2.2 ยื่นคำขอรับเงินเบี้ยความพิการ ต่อ อปท. กทม. และเมืองพัทยา ที่ต้นมีภูมิลำเนาให้เรียบร้อยภายในวันที่กำหนด
จ่ายเงินครั้งแรก | การจ่ายเงินซ้ำ | ||||||
ครั้งที่ 1 | ครั้ง 2 | ครั้งที่ 3 | |||||
ดำเนินการภายใน | วันที่ จ่ายเงิน | ดำเนินการภายใน | วันที่ จ่ายเงิน | ดำเนินการภายใน | วันที่ จ่ายเงิน | ดำเนินการภายใน | วันที่ จ่ายเงิน |
ศ. 30 ส.ค. 67 | พ. 25 ก.ย. 67 | ศ. 27 ก.ย. 67 | จ. 21 ต.ค. 67 | พ. 30 ต.ค. 67 | พฤ. 21 พ.ย. 67 | พฤ. 28 พ.ย. 67 | พฤ. 19 ธ.ค. 67 |
หมายเหตุ ข้อมูลจากกรมบัญชีกลาง
4. ไม่มีบัตรประจำตัวคนพิการในฐานข้อมูลของ พก. พม. แต่ได้รับเงินเบี้ยความพิการ
ดำเนินการทำบัตรประจำตัวคนพิการ ภายในวันที่กำหนด ดังนี้
จ่ายเงินครั้งแรก | การจ่ายเงินซ้ำ | ||||||
ครั้งที่ 1 | ครั้ง 2 | ครั้งที่ 3 | |||||
ดำเนินการภายใน | วันที่ จ่ายเงิน | ดำเนินการภายใน | วันที่ จ่ายเงิน | ดำเนินการภายใน | วันที่ จ่ายเงิน | ดำเนินการภายใน | วันที่ จ่ายเงิน |
พฤ. 12 ก.ย. 67 | พ. 25 ก.ย. 67 | พฤ. 10 ต.ค. 67 | จ. 21 ต.ค. 67 | อ. 12 พ.ย. 67 | พฤ. 21 พ.ย. 67 | อ. 3 ธ.ค. 67 | พฤ. 19 ธ.ค. 67 |
หมายเหตุ ข้อมูลจากกรมบัญชีกลาง
คำแนะนำในการเตรียมความพร้อมเพื่อให้ได้รับเงินจากภาครัฐ
** ต้องดำเนินการให้ทันตามกำหนดเวลา มิฉะนั้นอาจไม่ได้รับเงินจากโครงการ **
1. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือคนพิการที่เข้าข่ายได้รับโอนเงินทางบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน
- กรณีไม่เคยมีอยู่ ให้เร่งติดต่อธนาคารที่มีบัญชีเงินฝากเพื่อผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน โดยต้องดำเนินการให้แล้วโดยเร็ว หรือภายในวันที่ 17 ธันวาคม 2567
- หากกรณีมีอยู่แล้ว โปรดตรวจสอบว่าบัญชีดังกล่าวยังมีสถานะที่รับเงินได้ตามปกติหรือไม่ (สถานะ active) และต้องแก้ไขให้แล้วเสร็จโดยเร็ว หรือภายในวันที่ 17 ธันวาคม 2567
2. กรณีคนพิการที่ไม่มีบัตรประจำตัวคนพิการแต่ได้รับเงินเบี้ยความพิการ และคนพิการที่บัตรประจำตัวคนพิการหมดอายุ
- ให้ติดต่อยื่นขอมีบัตรหรือขอต่ออายุบัตรโดยเร็ว หรือภายในวันที่ 3 ธ.ค. 2567
(2.1) ยื่นคำขอมีบัตรประจำตัวคนพิการเพื่อยืนยันตัวตน ที่ศูนย์บริการคนพิการจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ
- ตั้งแต่วันจันทร์ – วัน ศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. – 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
- เอกสารหลักฐาน ดังนี้
– บัตรประจำตัวประชาชน/สูติบัตรสำหรับบุคคลอายุต่ำกว่าสิบห้าปี
– ทะเบียนบ้าน (ถ้ามี)
– รูปถ่ายคนพิการ ขนาด 1 นิ้ว (กรณีที่ไม่ได้มายื่นด้วยตนเอง)
– เอกสารรับรองความพิการ (กรณีที่พิการเชิงประจักษ์ตามประกาศฯ ไม่ต้องใช้เอกสารรับรองความพิการ)
– หนังสือสำคัญแสดงการเปลี่ยนชื่อตัว หรือชื่อสกุล (ถ้ามี)
หมายเหตุ: กรณีคนพิการที่ได้รับเงินเบี้ยความพิการแต่ไม่มีในฐานข้อมูลของ พก. อาจเกิดจากเป็นคนพิการ ที่ใช้บัตรประจำตัวคนพิการแบบเก่า (แบบเล่ม) และไม่ได้มีการยื่นเพื่อลงทะเบียนในระบบ)
(2.2) ต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการ ที่ศูนย์บริการคนพิการจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ
- ตั้งแต่วันจันทร์ – วันศุกร์ ระหว่าง เวลา 08.30 น. – 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
- เอกสารหลักฐาน ดังนี้
– บัตรประชาชน
– ทะเบียนบ้าน (ถ้ามี)
– บัตรประจำตัวคนพิการใบเดิม
– เอกสารรับรองความพิการ (กรณีมีความพิการเพิ่มหรือเปลี่ยนไปจากเดิม)
– หนังสือสำคัญแสดงการเปลี่ยนชื่อตัว หรือชื่อสกุล (ถ้ามี)
☎️ ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขอมีบัตรหรือต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการ
- โทรศัพท์สายด่วน พม. โทร. 1300
- กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (หน่วยงานออกบัตรประจำตัวคนพิการ)
หมายเลขโทรศัพท์ 0 2354 3388 ต่อ 701 – 702
การตรวจสอบสิทธิและตรวจสอบผลการรับโอนเงิน
กำหนดการตรวจสอบสิทธิและตรวจสอบผลการรับโอนเงิน
ตรวจสอบสิทธิ
- ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2567 เป็นต้นไป
ตรวจสอบผลการโอนเงิน
- สามารถตรวจสอบผลการโอนในวันถัดไปหลังจากวันที่กำหนดโอนเงิน
ช่องทางตรวจสอบของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
1. เว็บไซต์
2. แอปพลิเคชัน “รัฐจ่าย” (โดยกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง)
3. ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
หมายเลขโทรศัพท์ 0 2109 2345
ตั้งแต่วันจันทร์ – วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. – 17.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
4. ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ผ่านระบบตอบรับอัตโนมัติ หมายเลขโทรศัพท์ 02 109 2345 กด 1 กด 5
ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง
5. Call Center กรมบัญชีกลาง
หมายเลขโทรศัพท์ 0 2270 6400
ตั้งแต่วันจันทร์ – วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. – 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
ช่องทางตรวจสอบของคนพิการ
1. เว็บไซต์
2. แอปพลิเคชัน “รัฐจ่าย” (โดยกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง)
3. ศูนย์ช่วยเหลือสังคม
- สายด่วน
1300
- สายด่วน
4. กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (หน่วยงานออกบัตรประจำตัวคนพิการ)
หมายเลขโทรศัพท์ 0 2354 3388 ต่อ 701 – 702
5. ศูนย์บริการคนพิการจังหวัดทั่วประเทศ
ตั้งแต่วันจันทร์ – วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. – 16.30 น. ยกเว้น วันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
ตรวจสอบสถานที่ตั้งและเบอร์โทรศัพท์ของศูนย์บริการคนพิการแต่ละแห่ง
6. อปท. กทม. หรือเมืองพัทยา ที่คนพิการรับเงินเบี้ยความพิการ
ตั้งแต่วันจันทร์ – วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. – 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
ช่องทางติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
1. ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
หมายเลขโทรศัพท์ 0 2109 2345
ตั้งแต่วันจันทร์ – วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. – 17.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
2. ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
-
ผ่านระบบตอบรับอัตโนมัติ หมายเลขโทรศัพท์ 02 109 2345 กด 1 กด 5
ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง
-
3. Call Center กรมบัญชีกลาง
หมายเลขโทรศัพท์ 0 2270 6400
ตั้งแต่วันจันทร์ – วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. – 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
คนพิการ
1. ศูนย์ช่วยเหลือสังคม
- สายด่วน
1300
- สายด่วน
2. กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (หน่วยงานออกบัตรประจำตัวคนพิการ)
หมายเลขโทรศัพท์ 0 2354 3388 ต่อ 701 – 702
3. ศูนย์บริการคนพิการจังหวัดทั่วประเทศ
ตั้งแต่วันจันทร์ – วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. – 16.30 น. ยกเว้น วันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
ตรวจสอบสถานที่ตั้งและเบอร์โทรศัพท์ของศูนย์บริการคนพิการแต่ละแห่ง
4. อปท. กทม. หรือเมืองพัทยา ที่คนพิการรับเงินเบี้ยความพิการ
ตั้งแต่วันจันทร์ – วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. – 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
Infographic
ข่าวโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ฯ
- โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เฟส 3 ยังไม่เข้าประชุม ครม. นายกรัฐมนตรียืนยัน “ยังไม่ยกเลิกโครงการ”
- กระทรวงการคลัง รายงานผลการโอนเงินตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ รอบการจ่ายเงินซ้ำ ครั้งที่ 3
- ที่ประชุมโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 3 มีมติให้โอนเงิน 10,000 บาทแก่ประชาชนกลุ่มอายุ 16 – 20 ปี
- รัฐบาล เปิดเผยแนวทางการลงทะเบียนเพื่อสำรวจประชาชนที่ไม่มีสมาร์ตโฟน
- กระทรวงพาณิชย์ จัดโครงการ “ชูใจ วัยเก๋า 60+” ตอบรับนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ
- กระทรวงการคลัง รายงานผลการโอนเงินตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ
- กระทรวงการคลัง ยืนยันผู้ที่ลงทะเบียนโครงการกระตุ้นฯ เฟส 2 ไม่ผ่าน ห้ามลงทะเบียนในกลุ่มไม่มีสมาร์ตโฟน
- รัฐบาล ยืนยันพร้อมโอน 10,000 บาทเฟส 2 ในวันจันทร์ที่ 27 ม.ค. 68 ไม่มีเปลี่ยนแปลง
- รัฐบาล ย้ำเตือน เงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 2 อายุ 60 ปีขึ้นไป อย่าลืมตรวจสอบสิทธิ วันที่ 22 ม.ค. 68
- การเตรียมความพร้อมของผู้สูงอายุเพื่อรับสิทธิตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ
ถาม-ตอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ
ข้อมูลทั่วไป
- ประเมินว่าการดำเนินโครงการจะส่งผลให้เศรษฐกิจ (ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ: GDP) ขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ ร้อยละ 0.35 ต่อปี เมื่อเทียบกับกรณีไม่มีโครงการ
- ขณะนี้รัฐบาลมีความจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มที่เปราะบาง 2 กลุ่ม ได้แก่ ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการ ก่อนเป็นอันดับแรก
- อย่างไรก็ดี รัฐบาลยังมีนโยบายที่จะเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตต่อไป ตามที่ได้แถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภาไว้ เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 โดยจะมีการนำฐานข้อมูลของผู้ลงทะเบียนโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ที่ได้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐมาใช้ต่อ
- ในการนี้ จึงขอให้รอติดตามข่าวสารเพื่อรับทราบความคืบหน้าของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจากรัฐบาลต่อไป
- หากเตรียมความพร้อมเพื่อรับเงินโอนเรียบร้อยตามที่กำหนดแล้ว แต่ไม่ได้รับเงินเข้าบัญชีในรอบการโอนเงินซ้ำ (Retry) รอบถัดไป
- อาจเป็นเพราะดำเนินการไม่ทันรอบการนำส่งข้อมูลที่หน่วยงานต้นทางต้องนำส่งข้อมูลมาให้กรมบัญชีกลาง ใช้เตรียมการจ่ายเงิน ทำให้ต้องรอการโอนเงินซ้ำในรอบถัดไปเท่านั้น
** ต้องรอประกาศจากกระทรวงการคลังอีกครั้ง **
- หากกระทรวงการคลังมีมาตรการหรือโครงการที่ชัดเจนที่จะต้องโอนเงินสวัสดิการให้บุคคลล้มละลายที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการ
- บุคคลล้มละลายที่ได้รับสิทธิตามโครงการ จะต้องติดต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ สำนักงานบังคับคดี เพื่อขอเปิดบัญชีเงินฝากสำหรับการรับเงินสวัสดิการตามโครงการต่อไป ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 67 (1) และมาตรา 67 (2) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483
ติดต่อกรมบังคับคดี
ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- ไม่ได้รับสิทธิ ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ได้รับสิทธิจะต้องอยู่ในฐานข้อมูลโครงการลงทะเบียนฯ ปี 2565 ของกระทรวงการคลัง ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จแล้ว ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2567
ไม่ต้องยื่นหนังสือให้ความยินยอมฯ ใหม่ กรมบัญชีกลางจะทำการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร ที่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแจ้งความประสงค์ไว้ในหนังสือให้ความยินยอมฯ
- นับอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ถัดจากวันเกิดของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
สามารถเปลี่ยนบัญชีเงินฝากธนาคารได้ที่สานักงานคลังจังหวัดหรือกรมบัญชีกลาง แต่ต้องก่อนรอบการจ่ายเงินซ้ำ (แต่ละครั้ง)
- ครั้งที่ 1 เดือนตุลาคม 2567 ยื่นขอแก้ไขหนังสือการให้ความยินยอมฯ ภายในวันที่ 30 กันยายน 2567
- ครั้งที่ 2 เดือนพฤศจิกายน 2567 ยื่นขอแก้ไขหนังสือการให้ความยินยอมฯ ภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2567
- ครั้งที่ 3 เดือนธันวาคม 2567 ยื่นขอแก้ไขหนังสือการให้ความยินยอมฯ ภายในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567
- การจ่ายเงิน รอบปกติ
- เดือนกันยายน 2567 จะต้องยื่นหนังสือให้ความยินยอมฯ ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2567
- การจ่ายเงินซ้ำ (แต่ละครั้ง)
- ครั้งที่ 1 เดือนตุลาคม 2567
ยื่นขอแก้ไขหนังสือการให้ความยินยอมฯ ภายในวันที่ 30 กันยายน 2567 - ครั้งที่ 2 เดือนพฤศจิกายน 2567
ยื่นขอแก้ไขหนังสือการให้ความยินยอมฯ ภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2567 - ครั้งที่ 3 เดือนธันวาคม 2567
ยื่นขอแก้ไขหนังสือการให้ความยินยอมฯ ภายในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567
- ครั้งที่ 1 เดือนตุลาคม 2567
คนพิการ
- สามารถทำได้ แต่เงินที่จะได้รับ 10,000 บาท นั้นจะถูกโอนไปยังผู้ดูแลเดิมหรือบัญชีเดิมที่รับอยู่ก่อนหน้านี้
** ยึดข้อมูลการโอนเงิน ณ วันที่ 10 ก.ย.67
สามารถเปลี่ยนได้ แต่เงินที่จะได้รับ 10,000 บาท นั้นจะถูกโอนไปยังช่องทางเดิมที่ได้รับอยู่ก่อนหน้านี้ (ยึดข้อมูลช่องทางการโอนเงิน ณ วันที่ 10 ก.ย.67)
เงินจะเข้าทางบัตรผู้พิการก่อน
- เงิน 10,000 บาท จะเข้าผ่านบัญชีผู้ดูแลคนพิการ
- หากประชาชนไม่ประสงค์รับ 10,000 ผ่าน บัญชีผู้ดูแลคนพิการ
– ให้ไปดำเนินการปิดบัญชีธนาคารผู้ดูแล ก่อนวันที่ 25 กันยายน 2567 (เพื่อตัดช่องทางการรับเงิน)
– จากนั้นให้ผู้พิการไปแจ้ง อปท. เพื่อเปลี่ยนช่องทางการรับเงิน 10,000 บาท แล้วจะได้รับในรอบถัดไป
หมายเหตุ กรณีปิดบัญชีธนาคารผู้ดูแล ผู้พิการและผู้ดูแลต้องตกลงกันได้และปิดบัญชีธนาคารผู้ดูแล ก่อนวันที่ 25 กันยายน 2567
- ต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการ ภายใน 3 ธ.ค. 2567
- ที่ศูนย์บริการคนพิการจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ
ตั้งแต่วันจันทร์ – วันศุกร์ ระหว่าง เวลา 08.30 น. – 16.30 น.
ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ - เอกสารหลักฐาน ดังนี้
- บัตรประชาชน
- ทะเบียนบ้าน (ถ้ามี)
- บัตรประจำตัวคนพิการใบเดิม
- เอกสารรับรองความพิการ (กรณีมีความพิการเพิ่มหรือเปลี่ยนไปจากเดิม)
- หนังสือสำคัญแสดงการเปลี่ยนชื่อตัว หรือชื่อสกุล (ถ้ามี)
- ได้ แต่ต้องยื่นคำขอมีบัตรประจำตัวคนพิการเพื่อยืนยันตัวตน ภายในวันที่ 3 ธ.ค. 2567
- ที่ศูนย์บริการคนพิการจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ
ตั้งแต่วันจันทร์ – วัน ศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. – 16.30 น.
ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ - เอกสารหลักฐาน ดังนี้
- บัตรประจำตัวประชาชน/สูติบัตรสำหรับบุคคลอายุต่ำกว่าสิบห้าปี
- ทะเบียนบ้าน (ถ้ามี)
- รูปถ่ายคนพิการ ขนาด 1 นิ้ว (กรณีที่ไม่ได้มายื่นด้วยตนเอง)
- เอกสารรับรองความพิการ (กรณีที่พิการเชิงประจักษ์ตามประกาศฯ ไม่ต้องใช้เอกสารรับรองความพิการ)
- หนังสือสำคัญแสดงการเปลี่ยนชื่อตัว หรือชื่อสกุล (ถ้ามี)
- กรณีขึ้นทะเบียนคนพิการหลังวันที่ 31 ส.ค. 67 เป็นต้นไป
จะไม่ได้รับเงิน 1 หมื่นของโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจฯ ในรอบนี้ - ให้รอในรอบโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเลต
(หากยังไม่ได้ลงทะเบียนในรอบแรก ให้รอรอบไม่มีสมาท์โฟน)
โครงการนี้ ไม่รวมถึงผู้ที่มีสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เนื่องจากได้รับการดูแลค่าใช้จ่ายจากรัฐอย่างครอบคลุมแล้ว
- จะได้รับผ่านช่องทางเดิม คือ อปท. กทม. และเมืองพัทยา ที่ผู้มีสิทธิรับเงินเบี้ยความพิการ
- ไม่ได้รับสิทธิ คนพิการที่ได้รับสิทธิจะต้องอยู่ในฐานข้อมูลของ พก พม. ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2567
- ได้สิทธิตามการรับเบี้ยความพิการ
- ได้รับสิทธิของคนพิการการตามบัญชีเบี้ยที่คนพิการมอบอำนาจ และได้รับสิทธิของตนเอง
- หากดำเนินการแล้ว แต่ไม่ได้รับเงินเข้าบัญชีให้รอในรอบการโอนเงินซ้้า (Retry) รอบถัดไป
- อาจเป็นเพราะดำเนินการไม่ทันรอบการนำส่งข้อมูลที่หน่วยงานต้นทางต้องนำส่งข้อมูลมาให้กรมบัญชีกลาง ใช้เตรียมการจ่ายเงิน ทำให้ต้องรอการโอนเงินซ้ำในรอบถัดไปเท่านั้น
- แจ้งศูนย์บริการคนพิการจังหวัดหรือ อปท. เพื่อให้ความช่วยเหลือในการออกบัตรประจำตัวคนพิการ
- ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ โดยกรมบัญชีกลางจะจ่ายเงินผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่ง ตามเงื่อนไข ที่กำหนด ดังนี้
- ช่องทางเดิมในการรับเบี้ยความพิการ
- ช่องทางสวัสดิการแห่งรัฐ
- ช่องทางพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประจ้าตัวประชาชนของคนพิการ
- ได้รับเงิน 10,000 บาท ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกด้วยเลขประจำตัวประชาชน หากคนพิการมีพร้อมเพย์ที่ผูกด้วยเลขประจำตัวประชาชนขอให้ตรวจสอบว่าบัญชีพร้อมเพย์ยังสามารถใช้งานได้ เพื่อที่กรมบัญชีกลางจะได้จ่ายเงินผ่านพร้อมเพย์ แต่หากคนพิการยังไม่เคยมีพร้อมเพย์มาก่อน ขอให้เปิดบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกด้วยเลขประจ้าตัวประชาชน
บัญชีเงินฝากธนาคาร/พร้อมเพย์
เจ้าของบัญชีสามารถติดต่อสอบถามได้ที่สาขาเจ้าของบัญชี หรือต่างสาขาได้ทุกสาขา และหมายเลข โทรศัพท์ของแต่ละธนาคาร
- ไม่มีการโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับหมายเลขโทรศัพท์
- ต้องเป็นบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนเท่านั้น
- กรณีสมัครบริการพร้อมเพย์จากหมายเลขโทรศัพท์ไว้ ไม่จำเป็นต้องยกเลิก สามารถสมัครบริการพร้อมเพย์จากบัตรประชาชนเพิ่มได้
- บัญชีเงินฝากสามารถสมัครบริการพร้อมเพย์ได้ 4 ID คือ 1 หมายเลข บัตรประชาชนและ 3 หมายเลขโทรศัพท์
สามารถสมัครบริการพร้อมเพย์ได้แก่
- สาขาธนาคาร
- ตู้ ATM/ADM
- แอปพลิเคชันของธนาคาร
- ช่องทางอื่น ๆ ที่แต่ละธนาคารกำหนด
สอบถามได้ที่
- สาขาธนาคารเจ้าของบัญชีที่สมัครพร้อมเพย์/ต่างสาขาได้ทุกสาขา
- Contact Center/Call Center ของแต่ละธนาคาร
- ติดต่อสาขาธนาคารที่เปิดบัญชีไว้ เพื่อเปิดบัญชีใหม่ และสมัครบริการพร้อมเพย์ใหม
สามารถใช้บริการของธนาคารตามช่องทาง เช่น
- สาขาธนาคารทุกสาขา
- ตู้ ATM/ADM
- Contact Center/Call Center
Last Update 21 กันยายน 2567 14.19 น.
ที่มา
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง
- กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง
- การประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ฉบับสรุป โดยกระทรวงการคลังและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
- [LIVE] การแถลงรายละเอียดโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล
- https://www.mof.go.th/th/view/attachment/file/3139363339
- https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/88081